เตรียมตัว ออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจส่วนตัว
ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่า คนที่กำลังทำงานประจำนั้นมีความคิดที่อยากจะลาออกมาเพื่อทำ ธุรกิจส่วนตัว กันหลายคนเลยทีเดียว อาจด้วยเพราะความต้องการที่อยากจะเป็นนายตัวเอง อยากมีอิสระ อยากมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น อยากทำสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝันและตั้งใจ หรืออาจจะด้วยเพราะเหตุผลที่เบื่อหน่ายกับงานประจำ ไม่อยากตกอยู่ในสภาวะกดดัน ไม่อยากที่จะเป็นลูกน้องใคร หรือรู้สึกว่างงานประจำไม่ตอบโจทย์
หลายคนลาออกจากงานประจำ แล้วมาทำธุรกิจส่วนตัวได้อย่างประสบความสำเร็จ แต่ก็มีอีกหลายคนเช่นเดียวกันที่ลาออกจากงานประจำแล้วไม่สามารถนำพาธุรกิจให้ไปพบกับเส้นทางสวยงามอย่างที่ใจหวังได้
“อย่าออกจากงานประจำ ถ้าคุณยังไม่ชัดเจนกับตัวเอง!”
วันนี้ เราจึงอยากนำเอาแนวทางการเตรียมตัวพื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ มาฝากสำหรับคนที่กำลังอยากลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ
เตรียมความพร้อมทางการเงิน
เป็นที่แน่นอนว่า “เงิน” นั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจ หากไม่มีเงินก็สามารถเริ่มต้นและทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะต้องมีเงินหรืองบประมาณการลงทุนธุรกิจในขั้นแรกแล้วเท่านั้น แต่ยังต้องมีงบประมาณที่ใช้เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจในแต่ละวัน อย่างเช่นค่าจ้างพนักงาน ค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบ
รวมถึงยังต้องแบ่งงบประมาณไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำรองในกรณีที่ธุรกิจต้องพบเจอกับสภาวะฉุกเฉินต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดเดาได้อีกด้วย
ผู้ที่จะลา ออกจากงานประจำ เพื่อมาทำธุรกิจส่วนตัวจึงควรสำรวจเงินที่ตนเองมีอยู่ให้ดีว่ามีเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ หรือไม่ ซึ่งนอกไปจากเงินเก็บสะสมส่วนตัวแล้ว ก็สามารถที่จะศึกษาหาข้อมูลในเรื่องของการกู้ยืม
เพื่อทำการกู้ยืมเงินในการลงทุนจากสถาบันการเงินต่างๆ ที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมั่นใจว่าจะสามารถชำระเงินคืนได้ด้วยเช่นกัน
ออกจากงานประจำ ศึกษาการทำธุรกิจ และฝึกความชำนาญ
นอกจากเงินในการลงทุนที่จะต้องเตรียมพร้อมแล้ว เรื่องของความชำนาญและความรอบรู้ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่กำลังจะทำ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ที่คิดจะลา ออกจากงานประจำ เพื่อมาทำธุรกิจนั้นต้องมีเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น หากวางแผนว่าจะลาออกจากงานประจำมาเปิดธุรกิจร้านกาแฟ ก็จำเป็นต้องมีความรอบรู้และความชำนาญในเรื่องของการชงกาแฟ ที่มิใช่เพียงแต่จะชงให้อร่อยเท่านั้น แต่ยังทำต้องทำให้กาแฟแก้วนั้นๆ มีความแตกต่างจากคู่แข่งและสามารถทำให้ลูกค้าติดใจได้ด้วย
นอกจากนี้ก็ยังต้องรอบรู้ในเรื่องของอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งนอกจากจะต้องศึกษาว่าจะต้องใช้วัตถุดิบหรืออุปกรณ์อะไรบ้างแล้ว ก็จำเป็นที่จะศึกษาถึงแหล่งซื้อด้วย นอกจากนี้ก็ยังต้องศึกษา วางแผนและวิเคราะห์ในเรื่องของทำเล กลุ่มเป้าหมาย การทำการตลาดต่างๆ เพื่อที่จะสามารถสร้างยอดขายให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงศึกษาถึงปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่จะส่งผลให้ธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จและมั่นคงได้
การที่มีความรอบรู้และความชำนาญที่มากพอนั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้โดยง่ายและรวดเร็ว หรือมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่เมื่อพบเจอกับปัญหา ต้องเผชิญกับความยากลำบากหรืออุปสรรคต่างๆ ก็จะสามารถฟันฝ่า แก้ไข หรือหาวิธีก้าวผ่านปัญหาหรืออุปสรรคนั้นๆ ไปได้ โดยที่ธุรกิจอาจะไม่ได้รับความเสียหายใดๆ หรืออาจจะได้รับความเสียหายน้อยที่สุดนั่นเอง
เตรียมพร้อมรับความเสี่ยง
การทำธุรกิจ นอกจากจะมีโอกาสร่ำรวยแล้ว ในทางตรงกันข้าม การทำธุรกิจก็สามารถทำให้หมดเนื้อประดาตัวได้เช่นกัน หากไม่มีความสามารถที่จะบริหารจัดการธุรกิจที่มากพอ ดังนั้น ผู้ที่คิดจะลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำธุรกิจส่วนตัวจึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมใจและเตรียมพร้อมเพื่อรับกับความเสี่ยงต่างๆให้ได้ เพราะแน่นอนว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ (แตกต่างกับการทำงานประจำที่จะได้รับรายได้ที่แน่นอน)
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของยอดขาย รายรับและรายจ่ายต่างๆ ที่อาจมีการขึ้นลงและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ตัวอย่างเช่น ในบางเดือนของการทำธุรกิจ ยอดขายอาจจะตก ส่งผลให้ได้รับรายได้ที่น้อยลง หรือยอดขายอาจจะไม่มีการกระเตื้องขึ้นเลย ส่งผลให้พบเจอกับสภาวะที่ขาดทุน เป็นต้น
ผู้ที่คิดจะลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำธุรกิจส่วนตัวจึงต้องเตรียมใจและพร้อมแผนการสำรองต่างๆ เพื่อนำมาใช้รองรับกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจได้
ThaiSMEsCenter.com หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่เราได้นำเอามาเสนอในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแรงใจและแนวทางเล็กๆ ที่จะทำให้ผู้ที่กำลังจะลา ออกจากงานประจำ เพื่อมาทำ ธุรกิจส่วนตัว ได้เตรียมตัวและเตรียมความพร้อม สำหรับการลงมือทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนะคะ
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.pexels.com