เจอแล้ว 10 อาชีพ รวยไว ใช้เวลาไม่นาน!

เราเคยได้ยินหลายคนพูดว่า “ลงทุนไม่ถูกที่ ทำนานกี่ปีก็ไม่รวย” เกิดคำถามที่น่าสงสัยว่า “เราต้องลงทุนกับอะไร?” หรือ “ควรทำอาชีพอะไร?” ถึงจะถูกที่ ถูกเวลา ใช้เวลาสร้างรายได้รวยไว แบบใช้เวลาไม่นาน

พูดถึงตรงนี้ ก็มีข้อโต้แย้งอีกว่า ปัจจัยแวดล้อมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความพร้อมของแต่ละคนไม่เท่าเทียมกัน อาชีพที่แนะนำ ธุรกิจที่บอกว่าควรทำ ก็ไม่ใช่ว่าจะทำตามได้ทุกคน

เรื่องนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะทุกคนมีข้อจำกัดในตัวเองที่เราได้แต่แนะนำส่วนจะทำตามได้หรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สำหรับ 10 อาชีพที่จะแนะนำต่อไปนี้บอกเลยว่าถ้าใครทำตามได้ ใครมีความสามารถที่จะเริ่มต้นได้ โอกาสประสบความสำเร็จมีสูงมาก

1. เจ้าของแบรนด์สินค้า

อาชีพ

ภาพจาก bit.ly/3eFhZqs

คำว่าเจ้าของแบรนด์คือการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในยี่ห้อสินค้าใดๆ ที่เรามีสิทธิ์เต็มที่ในการจำหน่าย เลือกตัวแทนจำหน่าย โดยแบรนด์สินค้าก็มีมากมาย ยกตัวอย่างที่เข้าใจง่ายสุดก็คือ แบรนด์เครื่องสำอางที่ปัจจุบันเราสามารถจ้างผลิต (OEM) ได้ โดยเราอาจจะกำหนดสูตรที่ต้องการ หรือให้ทางบริษัทที่รับผลิตเป็นผู้คิดค้นสูตร ข้อดีของการจ้างผลิตคือบริษัทจะดำเนินการด้านกฏหมายทั้งการขออนุญาติ การจดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ การออกแบบโลโก้ แพคเกจจิ้ง ซึ่งเราในฐานะเจ้าของแบรนด์มีหน้าที่ทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ

หากเราเป็นมือใหม่ อาจเริ่มจ้างผลิตในจำนวนไม่มากประมาณ 1,000 -5,000 ชิ้น ตามแต่ตกลง ต้นทุนของการผลิตก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท ที่สำคัญเราต้องมีต้นทุนเรื่องการตลาดที่ค่อนข้างสูงหากหวังประสบความสำเร็จ แต่หากติดตลาดแล้วจะติดปีกให้เราขายง่าย ขายดีมากขึ้น สัดส่วนรายได้ที่ประเมินกันไว้ให้ตั้งเป้ากำไรต่อชิ้นไม่ต่ำกว่า 60% เพื่อที่จะได้นำรายได้ส่วนนี้เป็นค่าจ้างการตลาด หรือทำโปรโมชั่นต่างๆ และหากใครมีไอเดียดีๆ ธุรกิจนี้สามารถต่อยอดได้ ถ้าทำถูกที่ถูกเวลา โอกาสรวยเร็วแน่นนอ

2. เจ้าของแฟรนไชส์

39

ภาพจาก bit.ly/2NBCgBL

หลายคนอาจเคยติดตามซีรีย์เกาหลีอย่าง Itawon Class ที่พูดถึงเรื่องการต่อสู้กันทางธุรกิจจากคนธรรมดา ชีวิตเป็นศูนย์สามารถสร้างธุรกิจแฟรนไชส์ขยายตัวเป็นอันดับหนึ่งของประเทศได้ ซึ่งในความเป็นจริงนี่ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง และเป็นสิ่งที่ทำได้จริง แต่ต้องอาศัยประสบการณ์ ทักษะ วิสัยทัศน์

38

ภาพจาก bit.ly/2ATslVn

ยกตัวอย่างเจ้าของชาย 4 หมี่เกี๊ยว ที่เริ่มต้นจากคนธรรมดา เปิดร้านขายหมี่เกี๊ยว และเริ่มขายสูตรและกลายมาเป็นขายแฟรนไชส์เติบโตเป็นลำดับจนปัจจุบันกลายเป็นอาณาจักรชาย 4 หมี่เกี๊ยวที่คนไทยรู้จักทั้งประเทศ ถามว่าทำไมเจ้าของแฟรนไชส์ถึงมีโอกาสรวย

ยกตัวอย่างว่า เจ้าของแฟรนไชส์แบรนด์หนึ่งตั้งราคาขาย แฟรนไชส์ละ 59,000 บาท ผ่านไป 1 เดือน เมื่อคนเริ่มรู้จัก ขายแฟรนไชส์ให้กับแฟรนไชส์ซี 30 ราย 59,000 x 30 = 1,770,000 บาท เจ้าของแฟรนไชส์ ได้เงินล้าน (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย) และยังไม่จบเท่านี้ สิ่งที่แฟรนไชส์ซี ต้องซื้อจากเจ้าของแฟรนไชส์ คือวัตถุดิบต่างๆ ตามที่กำหนดประมาณการณ์ได้ว่าเงินที่แฟรนไชส์ซี ต้องจ่ายให้กับเจ้าของแฟรนไชส์

จะอยู่ที่อย่างน้อยๆ 10,000 บาท / เดือน  10,000 x 30 = 300,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย เจ้าของแฟรนไชส์จะมีกำไรอยู่ที่ประมาณ 70% 1,770,000 + 300,000 = 2,070,000 บาท ซึ่งเหล่านี้คือตัวเลขโดยประมาณ การตลาดจริงๆ ก็ต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบแฟรนไชส์ของแต่ละคนที่จะกำหนดด้วย

3. Startup

37

ภาพจาก bit.ly/2B6pJDr

ใกล้เคียงกับการเป็นเจ้าของแฟรนไชส์แต่ว่าสตาร์ทอัพจะมุ่งเน้นไปที่การเติบโตในเรื่อของสินค้าและบริการมากกว่าการขยายสาขาในช่วงแรก การเริ่มเป็นสตาร์ทอัพสำคัญต้องมีไอเดีย ต้องมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ยกตัวอย่างสตาร์ทอัพน่าสนใจ เช่น แอปพลิเคชันหาคู่ Tinder ที่ทำออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาคนหาคู่ยาก จนได้รับความนิยมอยากมาก หรือ ลาล่ามูฟ ที่ช่วยแก้ปัญหาการรับส่งสินค้า เป็นต้น

โดยส่วนใหญ่จะเป็นสัดส่วนผู้ที่เข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการ – เจ้าของแอปที่ 80 : 20 ยิ่งมีผู้โหลดแอป มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำเงินได้มหาศาลเท่านั้น ซึ่งการลงทุนในการสร้างแอป อยู่ที่หลักหมื่น แต่สามารถสร้างรายได้ได้ที่หลักล้าน แต่ก็ใช่ว่าจู่ๆจะกระโดดไปทำสตาร์ทอัพได้ทันที เพราะหากสินค้าไม่ดีจริง บริการไม่ดีจริงก็อาจจะหลุดวิถีทางธุรกิจได้โดยง่าย คนที่เป็นสตาร์ทอัพจึงต้องมีหัวธุรกิจที่ดีมาก

4. ขายของออนไลน์

36

ภาพจาก freepik

ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึงการขายออนไลน์ ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID 19 ตลาดออนไลน์กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้หลักของธุรกิจทั่วประเทศ ข้อดีของการขายออนไลน์คือไม่มีค่าเช่าที่ ไม่ต้องหาทำเล ถ้าไม่ปัง เปลี่ยนใหม่ได้ รวมถึงไม่ต้องมีเงินลงทุนก็ทำได้ เช่นการขายแบบพรีออเดอร์ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมมากเปรียบเหมือนการเป็นนายหน้าโพสต์สินค้ารับออเดอร์ส่งให้เจ้าของร้านค้าออนไลน์ที่จะมีระบบทุกอย่างให้เหมือนเป็นเจ้าของร้าน

แต่คำถามคือจุดคุ้มทุนและกำไรของการขายของออนไลน์อยู่ตรงไหน ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเรื่องต้นทุนคงที่กับต้นทุนผันแปรในธุรกิจออนไลน์ โดย ต้นทุนผันแปร เป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงได้ตามปริมาณขายที่ซื้อมา หรือของที่ใช้ไป ตัวอย่างเช่น ราคาทุนสินค้า กล่องใส่สินค้า แสดงว่ายิ่งสั่งของมามากเท่าไหร่เลขของต้นทุนนี้ก็จะสูงขึ้นไปด้วย
ส่วนต้นทุนคงที่ จะไม่เปลี่ยนแปลงและต้องจ่ายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะสั่งสินค้ามาขายเยอะขนาดไหนก็ตาม ตัวอย่างเช่น ค่าเช่าพื้นที่ขาย ค่าจ้างพนักงาน

สูตรในการคำนวณหารจุดคุ้มทุนการขายคือ ต้นทุนคงที่ หารด้วย (รายได้ทั้งหมดจากการขายสินค้า – ต้นทุนผันแปร)
เช่น ขายสินค้าอยู่มีรายจ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 100,000 บาท ยอดขายทั้งหมดจะได้ตกอยู่ที่ 120,000 บาท มีต้นทุนคงที่ 40,000 บาท ต้นทุนผันแปรอยู๋ที่ 60,000 บาท เมื่อลองคำนวณหาจุดคุ้มทุนจะได้ = 40,000 / (120,000-60,000) = 66.67% หมายความว่าขายสินค้าให้ได้ 66.67% ก็จะคุ้มทุนที่เหลือคือกำไร

5. พนักงานขายประกัน

35

ภาพจาก bit.ly/31DcPnE

อาชีพคนขายประกันหลายคนบอกว่าไม่อยากทำเพราะเป็นอาชีพที่ต้องไปพูดคุยเจรจา เชิญชวนให้คนมาซื้อประกัน ดูแล้วขายยาก ดูแล้วลำบาก แต่เชื่อหรือไม่ว่าในช่วงการแพร่ระบาดของCOVID 19 ที่ผ่านมา อาชีพขายประกันสร้างรายได้ที่ดีเกินคาด โดยเฉพาะบรรดาบริษัทประกันต่างๆ ที่คิดแพคเกจประกัน COVID ในรูปแบบต่าง ๆขายทั้งแบบออนไลน์และผ่านตัวแทนผลคือยอดขายสูงมาก รายได้ของตัวแทนก็มากขึ้น

และแม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแต่ยุค New Normal ก็จะทำให้คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพและการวางแผนการเงินให้กับตัวเองและครอบครัวมากขึ้น โดยปกติพนักงานขายประกันจะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามกรรมธรรน์ที่ลูกค้าทำ และจะมีสวัสดิการเป็นแพคเกจท่องเที่ยว การเลื่อนขั้นต่างๆ ยิ่งทำนานยิ่งมีลูกทีมของตัวเองโอกาสประสบความสำเร็จก็สูง บางรายที่เป็นตัวแทนมานานมีฐานลูกค้าจำนวนมากรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 -30,000 บาท เลยทีเดียว

6. พนักงาน Delivery

34

ภาพจาก freepik

อีกหนึ่งอาชีพที่รายได้ดีแน่นอนแต่อาศัยว่าต้องขยันและตั้งใจจริงก็คือการเป็นพนักงาน Delivery ที่เฟื่องฟูมากขึ้นตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของ COVID 19 และแม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแต่หลายคนก็ยังนิยมในการสั่งอาหาร สินค้าแทนการออกจากบ้านหรือไปซื้อเอง รายได้ของพนักงาน Deliveryสุงสุดอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท ขึ้นอยู่กับความขยัน และรูปแบบการทำงานของแต่ละคน นี่เป็นอาชีพที่ยังเติบโตได้อีกไกล อย่างในช่วงที่ผ่านมาหลายบริษัทมีการเปิดรับสมัครคนเพิ่ม

ยกตัวอย่างเช่น Line Man รับสมัครแบบไม่จำกัด หรืออย่าง GrabFood ก็ได้ประกาศรับสมัครแบบไม่จำกัดเช่นกัน รวมไปถึง FoodPanda , GetFood หรือแม้แต่เซเว่นอีเลฟเว่นเองก็มีประกาศรับสมัครพนักงานเดลิเวอรี่เพิ่มอีกกว่า 20,000 อัตรา ทั้งนี้การสมัครนั้นคนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละบริษัทซึ่งมีเงื่อนไขและข้อตกลงที่แตกต่างและหากขยันตั้งใจทำจริงยุคนี้สร้างรายได้ที่ดีให้แน่นอน

7. พริตตี้ / เอ็มซี

33

ภาพจาก bit.ly/3duVN19

อาชีพนี้ต้องขอสงวนไว้ให้กับคนรูปร่างดี หน้าตาดี แต่ก็ถือว่าถ้าใครทำอาชีพนี้ได้โอกาสสร้างรายได้งามๆ รออยู่ในเวลาไม่นานคนที่อยู่ในวงการนี้บางคนถึงขั้นสามารถตั้งตัว ซื้อรถซื้อบ้านได้ด้วยตัวเอง ว่ากันว่า ในยุคแรก ๆ ค่าตัวของพริตตี้จะอยู่ที่ราว ๆ งานละ 3,000-10,000 บาท แล้วแต่ระดับความสวย นอกจากนี้ในเวลา 1 วัน ยังสามารถรับงานได้มากกว่า 1 งาน การเข้าวงการพริตตี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่อาชีพนี้ต้องรู้จัก “สวยอย่างฉลาด” และมีการป้องกันตัวเองที่ดี

ซึ่งการเป็นพริตตี้ก็มีหลายแบบทั้งการเป็นเอ็มซี พริตตี้สินค้า พริตตี้มอเตอร์โชว์ หรือการเป็นพริตตี้ประจำร้านเหล้าผับบาร์ต่างๆ แม้จะเป็นงานสร้างรายได้ดี ค่าตัวมีตั้งแต่ 2,500-10,000 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับชื่อเสียง ประสบการณ์ ความสามารถ ซึ่งคนเป็นพริตตี้ต้องฉลาด มีไหวพริบ รู้จักเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีด้วย

8. นายหน้าอสังหาริมทรัพย์

32

ภาพจาก freepik

การเป็นนายหน้าไม่ใช่จะทำกันได้ทุกคน จำเป็นต้องมีความรู้และประสบการณ์รวมถึงต้องรู้จักคนที่มีกำลังซื้อเป็นอย่างดี แต่อาชีพนายหน้าก็ยังได้ชื่อว่าสร้างรายได้ที่ดีให้กับคนที่พยายามดีดตัวเองเข้ามาในเส้นทางนี้ ค่านายหน้าโดยปกติคือร้อยละ 3 ลองคิดกันเล่นๆ ว่าหากเราเป็นนายหน้าได้จริงและขายที่ดินสัก 1 แปลงราคา 1 ล้านบาท เราจะมีรายได้ทันที 30,000 บาท แต่นายหน้าส่วนใหญ่ต้องทำงานเป็นทีมการมีรายได้จึงต้องแบ่งส่วนเท่าๆกัน

รวมถึงเทคนิคเพื่อปิดการขายนั้นบางทีต้องใช้เวลา หรือหากจะเลือกเป็นนายหน้าที่ได้เงินเร็วขึ้นเช่นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หรือขายรถมือสอง ก็เป็นตัวเลือกการสร้างรายได้ที่ดีและบางทีก็ทำเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย และหากใครสนใจในธุรกิจนายหน้าแต่ขาดความรู้และยังไม่มีประสบการณ์ปัจจุบันก็มีแฟรนไชส์มากมายที่เปิดให้เราได้เข้าไปร่วมงาน

9. นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ

31

ภาพจาก bit.ly/3es3INS

การเป็นนักพูดไม่ใช่คนที่พูดมาก พูดไปเรื่อย แต่ต้องมีทักษะการพูดให้คนอยากฟัง ให้คนอยากติดตาม การพูดมีหลายรูปแบบทั้งการพูดเชิงวิชาการ พูดสร้างแรงบันดาลใจ พูดเพื่อให้กำลังใจคนในองค์กรต่างๆ นักพูดส่วนใหญ่ที่ยังไม่มีชื่อเสียงมากนักจะมีรายได้ต่อการจ้างงาน

เช่น งานสัมมนาต่างๆ ประมาณชั่วโมงละ 3,000 -5,000 บาท แต่หากเป็นนักพูดที่มีชื่อเสียงคนรู้จักอย่างดี รายได้ต่อชั่วโมงอาจสูงถึง 10,000 บาท ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการพูดประมาณ 2 ชั่วโมงต่อหนึ่งงาน ซึ่งหากมีหลายงานในแต่ละสัปดาห์รายได้อาจสูงหลายหมื่นบาท และยังมีรายได้จากทางอื่นอีกเช่น การเป็นคอลัมนิสต์ให้เว็บไซต์ต่างๆ , การขายคอร์สออนไลน์ของตัวเอง เป็นต้น

10. Programmer/ Software Developer

30

ภาพจาก freepik

ผลการสำรวจฐานเงินเดือนประจำปีและเผยอัตราเงินเดือนในสายอาชีพต่างๆ กว่า 800 ตำแหน่ง กว่า 3,000 บริษัท ในปี 2020 พบว่าอาชีพที่มีเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดได้แก่ อาชีพในสาย IT โดยเด็กจบใหม่จะได้เงินเดือนประมาณ 18,000-25,000 บาท ซึ่งในตำแหน่งของ Programmer/Software Developer” มีเงินเดือนสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาท

เนื่องจากเป็นสายงานที่มีความต้องการจากตลาดสูง หลายๆ องค์กรต่างก็ต้องการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง หากเด็กจบใหม่มีทักษะและความสามารถในการเขียนโปรแกรมได้ตรงตามที่องค์กรกำหนด สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ก็มีโอกาสที่จะได้เงินเดือนเริ่มต้นสูงถึง 40,000 บาท หรืออาจมากกว่านั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้างเงินเดือนของแต่ละองค์กรด้วย

อาชีพเหล่านี้ล้วนแต่รายได้ดีและมีโอกาสรวยไว ในเวลาไม่นาน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำอาชีพเหล่านี้ได้ สังเกตให้ดีว่าทุกอาชีพต่างก็มีจุดเด่นในตัวเอง ต้องมีประสบการณ์เบื้องต้น ต้องมีปัจจัยแวดล้อมเบื้องต้น ต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสม จึงจะเริ่มต้นอาชีพหรือธุรกิจเหล่านี้ได้ หากเราสำรวจตัวเองว่าเข้าข่ายในอาชีพใดๆเหล่านี้ก็ลองเริ่มต้นอย่างจริงจังและรายได้ที่ดีจะเป็นของคุณแน่นอน


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล
https://bit.ly/3h8Wnoe , https://bit.ly/2MGVUeW , https://bit.ly/2APAoSB , https://bit.ly/3hfsoLc

อ่านบทความเพิ่มเติม https://bit.ly/31k7Cow

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด