เคล็ด (ไม่) ลับ! Penguin Eat Shabu ฟื้นกำไรได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องดื่มพร้อมชง

ร้านชาบูยอดฮิต ของเมืองไทย Penguin Eat Shabu ต้องเผชิญกับผลกระทบสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับอีกหลายธุรกิจ ยอดขายตกกว่า 90% แม้อนุญาตให้ร้านอาหารเปิดบริการใหม่อีกครั้ง แต่ยังต้องมีมาตรการเว้นระยะห่าง จำกัดผู้ใช้บริการ ตามวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) จึงทำให้ธุรกิจร้านอาหารเปลี่ยนไปในยุคโควิด-19

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ธนาคารกสิกรไทย ได้คาดการณ์ว่าธุรกิจร้านอาหารในปี 2563 จะมีมูลค่าเหลือเพียง 3.85-3.89 แสนล้านบาท หรือหดตัวประมาณ 9.7%-10.6% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 8 ปี โดยการประเมินนี้อยู่ภายใต้สมมติฐานที่ไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่ในช่วงที่เหลือของปี 2563

อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจร้านอาหารให้อยู่รอดท่ามกลางวิกฤต อยู่ที่การวางแผนและการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ ผู้ประกอบการร้านอาหารรายใดรู้จักการวางแผน และปรับตัวได้ทัน ก็จะกลับมาและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

เหมือนอย่างกรณี “คุณต้น” ธนพันธ์ วงศ์ชินศรี แม้เผชิญกับโควิด-19 ในฐานะเจ้าของร้าน Penguin Eat Shabu แต่พลิกฟื้นร้านกลับจากวิกฤตได้อย่างรวดเร็ว จากที่ต้องปลดพนักงาน ให้ลาโดยไม่รับเงินเดือน เพราะผลจากโควิด-19

พลิกวิกฤต…สู่โอกาสใหม่ Penguin Eat Shabu

Penguin Eat Shabu ถือเป็นร้านอาหารที่สร้างชื่อเสียง และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 ปี การันตีได้จากที่ผ่านมา สามารถขยายสาขาได้ถึง 9 สาขา แต่ปัจจุบันจำเป็นต้องลดจำนวนสาขาลงไปเนื่องจากวิกฤตโควิด-19

คุณต้น เล่าว่า หลังจากทราบข่าวการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศจีนเมื่อปลายเดือนมกราคม 2563 ทีมผู้บริหารได้มีการปรึกษาพูดคุยกันเพื่อการวางแผนและเตรียมรับมือ เพราะคิดว่าไวรัสโควิด-19 น่าจะเข้ามาในเมืองไทยแน่นอน หลังจากนั้นทีมผู้บริหารได้ปรับวิธีการทำงาน บริหารค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม คำนวณต้นทุนเป็นรายวัน เพื่อรองรับวิกฤตที่จะเกิดขึ้น

จนกระทั่งถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ทีมผู้บริหารได้ทราบข่าวว่าไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก ต่อมาได้เริ่มส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย ร้านอาหารเกือบทุกร้านยอดขายตกกว่า 70-80% แม้แต่ร้าน Penguin Eat Shabu ยอดขายแต่ละสาขาลดลงอย่างใจหาย ผู้บริหารจำเป็นต้องจำกัดต้นทุนในร้าน เพื่อประหยัดให้มากที่สุด

คุณต้น เล่าต่อว่า เมื่อทางร้านไม่สามารถรักษากำไรได้ ผู้บริหารจึงตัดสินใจไม่ขอรับเงินเดือน 3 เดือน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้พนักงานทุกคนรับรู้ว่าจะต้องรีบปรับตัว บริหารบัญชีเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะวิกฤตโควิด-19 กำลังมาถึงแล้ว

เมื่อวิกฤตโควิด-19 เริ่มรุนแรงมากขึ้น ทีมผู้บริหารได้ตัดสินใจปิดร้าน Penguin Eat Shabu สาขาสีลมที่มีกำไรน้อยสุด เพื่อรักษาสภาพคล่องให้ธุรกิจ และเพื่อความอยู่รอดของพนักงานราว 200 คน ให้มีข้าวกิน มีที่พัก มีของใช้ ต่อมาเดือนมีนาคม 2563 ก็ปิด Penguin Eat Shabu สาขาสยามอีกหนึ่งสาขา จนกระทั่งรัฐบาลสั่งปิดร้านอาหารทั่วประเทศในเวลาต่อมา

หลังจากรัฐบาลสั่งปิดร้านอาหารทั้งหมด ผู้บริหารทุกคนจึงได้ตัดสินใจครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยให้พนักงานจำนวนกว่า 60% ลาโดยไม่รับเงินเดือนเป็นเวลา 2 เดือน พนักงานบางส่วนจึงต้องเดินทางกลับบ้าน

แต่อีกบางส่วนที่มีรถจักรยานยนต์เป็นของตัวเองให้เปลี่ยนรูปแบบการทำงาน จากแต่ก่อนทำงานในร้านมาเป็นจัดส่งเดลิเวอรี่ เพื่อสร้างรายได้เลี้ยงชีพในช่วงปิดร้าน โดยร้าน Penguin Eat Shabu บางสาขาที่เปิดให้บริการได้ ก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นบริการเดลิเวอรี่

“เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล” โอกาสที่มาช่วยฟื้นกำไรร้าน

คุณต้น เล่าย้อนว่า หลังจากปิดร้านทั้งหมด ทีมผู้บริหารได้ใช้เวลาเพียง 10 วัน ในการวางแผนและปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจมาเป็นจัดส่งเดลิเวอรี่ในช่วงลูกค้ากักตัวอยู่บ้าน จึงทำให้ยอดขายและรายได้กระเตื้องขึ้นมาบ้าง พอรัฐบาลประกาศให้เปิดบริการร้านอาหารอีกครั้ง ทางร้าน Penguin Eat Shabu จึงทยอยเปิดให้บริการใหม่จนครบทุกสาขาในวันนี้

แม้ว่าร้าน Penguin Eat Shabu จะมีการปรับรูปแบบเข้าสู่มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ภายในร้าน ให้ลูกค้าเว้นระยะห่างช่วงรอ ตรวจวัดอุณหภูมิ พนักงานสวมถุงมือและหน้ากาก แต่ยอดขายและกำไรในส่วนของอาหารยังเพิ่มไม่มากนัก

แต่ถือเป็นความโชคดีของร้าน Penguin Eat Shabu เพราะก่อนที่จะเกิดการระบาดโควิด-19 ทางร้านได้ซื้อผลิตภัณฑ์พร้อมชงสำเร็จ “เนสที เลมอน” ของ “เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล” ไว้เสิร์ฟลูกค้าในร้าน จึงเพิ่มยอดขายและกำไรให้กับร้านได้รวดเร็ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์พร้อมชงเนสท์เล่ ต้นทุนต่ำ ลูกค้าคุ้นเคยกับรสชาติ ชงง่าย ได้กำไรเน้นๆ

คุณต้น อธิบายว่า เหตุผลที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์พร้อมชง “เนสที เลมอน” ของ “เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล” มาฟื้นกำไรให้กับร้าน Penguin Eat Shabu เพราะเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมชง ที่ชงง่าย ใช้สะดวก พนักงานในร้านทุกคนสามารถชงได้

โดยที่เขาเองก็มั่นใจว่าได้มาตรฐานความอร่อยในทุกแก้วที่เสิร์ฟ ช่วยลดกระบวนการทำงานในร้านแต่ยัง ได้รสชาติอร่อย ผู้บริโภคต่างให้การยอมรับ ประกอบกับทาง “เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล” มีการดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี เป็นคำตอบที่ครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการ มีทั้งสินค้าที่ตรงใจกลุ่มลูกค้า และยังมีการให้เครื่องกดเครื่องดื่มเย็นอีกด้วย

ล่าสุดทางร้าน Penguin Eat Shabu ยังได้ปรึกษากับ “เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล” อยากเพิ่มเครื่องดื่มชานมไข่มุก เพื่อเพิ่มยอดขายในร้านให้มากขึ้น พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการต่อยอดเมนูเครื่องดื่มไปบริการในส่วนเดลิเวอรี่อีกด้วย

“เครื่องดื่มพร้อมชงเนสท์เล่ ช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านได้มากขึ้น เพราะคุมต้นทุนได้ดี ชงง่าย ใครๆ ก็ชงได้ เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมาตรฐาน รสชาติอร่อยได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างแพร่หลาย แม้จะไม่ใช่รายได้หลัก แต่ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านกว่า 80% สมมติต้นทุนอาหารอยู่ที่ 30-40% หากจะเพิ่มยอดขายจากอาหารเพียงอย่างเดียวจะทำได้ยาก

แต่ถ้ามีเมนูอื่นที่ต้นทุนต่ำเข้ามาช่วยเหลือ จะเป็นการเพิ่มกำไรให้กับร้านอาหารได้อีกเยอะ ซึ่งในร้านขายเครื่องดื่มชามะนาวอยู่ที่ 35 บาท จะได้กำไรแก้วละ 20 บาทกว่าๆ แต่ถ้าขายอาหารให้ได้กำไร 20 บาทกว่าๆ ก็ต้องขายอาหารในราคา 70 บาท ซึ่งถือว่าแพง” คุณต้น กล่าว

คุณต้น ฝากไปยังผู้ประกอบการร้านอาหารที่อยากเพิ่มยอดขายให้กับร้าน รวมถึงคนตกงานที่อยากมีอาชีพเลี้ยงครอบครัวสามารถทำ “น้ำชงขาย” จากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มพร้อมชงสำเร็จของเนสท์เล่ ลงทุนน้อย ชงง่าย ได้กำไรเน้นๆ โดยเนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล มอบโอกาสให้ทุกคน และพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการสร้างยอดขายและกำไรอย่างต่อเนื่อง

#สามารถดูสูตรชงเครื่องดื่มเย็นได้ที่เว็บไซต์ Nestle Professional https://bit.ly/3jdR9sz

สนใจสินค้า ติดต่อตัวแทนจำหน่ายเนสท์เล่ โพรเฟชชันนัลทั่วประเทศ
ติดต่อ Call center 02-657-8625 กด 1
หรือ กรอกแบบฟอร์มให้ติดต่อกลับที่ nestleprofessional.co.th/contact-us
แอด LINE : @NestleProfessional

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3fFzLzP