อาชีพเพิ่มรายได้ “การเลี้ยงปูนาในบ่อซีเมนต์” ทำง่าย รายได้ดีจริง

อาชีพที่สร้างรายได้ดีบางทีก็เป็นเรื่องใกล้ตัวแต่หลายคนนึกไม่ถึง โดยเฉพาะการเลี้ยง “ปูนา” ที่บางคนรู้จักดีและเคยกินอยู่บ่อยๆ แต่ไม่นึกว่าจะสามารถเพาะปูนาขายได้ โดยปกติทั่วไปปูนา จะขุดรูในทุ่งนา ตามคันนา คันคู หรือคันคลอง

โดยจะอยู่ใกล้บริเวณแหล่งน้ำ และแหล่งอาหาร และรูนั้นจะอยู่ในบริเวณที่น้ำท่วมไม่ถึง ปูนาจะมีการผสมพันธุ์ในช่วงฤดูฝน คือประมาณเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม ปูตัวเมียจะมีไข่ในท้องประมาณ 500-1,000 ฟอง หากเรานำปูนามาเพาะเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ที่เป็นพื้นดินปูนาจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติ และเจริญเติบโตได้ดีเนื่องจากมีแหล่งอาหารและแหล่งน้ำที่เพียงพอ

ซึ่งการลงทุนเพาะเลี้ยงปูนาขั้นต้นควรมีงบ 20,000 -30,000 บาท สำหรับการซื้อพ่อแม่พันธุ์และการทำบ่อซีเมนต์สำหรับการเพาะเลี้ยง สำหรับคนที่สนใจแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเพาะเลี้ยงปูนาอย่างไร www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมวิธีการเพาะเลี้ยงเบื้องต้นมาฝาก

เตรียมบ่อปูนซีเมนต์เลี้ยงปูนา

อาชีพเพิ่มรายได้

ภาพจาก bit.ly/2WiMHNb

สร้างบ่อซีเมนต์กว้างขนาด 2 เมตร ยาว 3 เมตร สูงประมาณ 1 เมตร มุงด้วยหลังคาเพื่อให้ร่มเงา ซึ่งบ่อซีเมนต์สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้

  1. บ่อซีเมนต์พื้นปูน จะเทปูนทางด้านล่างแล้วใส่ท่อพีวีซีเพื่อสะดวกต่อการถ่ายน้ำ จากนั้นใส่ดินลงไปรองพื้นสูงประมาณ 20-30 ซม.
  2. บ่อซีเมนต์พื้นดิน ต้นทุนจะถูกลงมา เป็นวิธีการเลี้ยงแบบปล่อยให้ปูนาอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ

เมื่อทำการสร้างบ่อซีเมนต์ตามที่ต้องการสิ่งที่ควรทำในบ่อ ก็คือ

4

ภาพจาก bit.ly/32hOyqM

  1. ปลูกพืชพรรณไม้น้ำเพื่อให้เป็นแหล่งอาศัยและเป็นแหล่งอาหารของปูนา อาทิ ผักบุ้ง ผักตบชวา เป็นต้น
  2. ต่อหัวพ่นสปริงเกอร์ 1 หัว เพื่อให้น้ำในบ่อเลียนแบบธรรมชาติโดยการเปิดน้ำให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ
  3. วางเศษไม้และทางมะพร้าวเพื่อให้เป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของปูนาในช่วงกลางวัน
  4. วางกะละมังพลาสติกใส่น้ำให้เต็มอยู่เสมอ
  5. ปล่อยปูนาลงเลี้ยง(หาได้จากธรรมชาติหรือซื้อมาก็ได้) 1 กิโลกรัม/1 บ่อ (อัตราส่วนปูตัวผู้และตัวเมียอย่างละเท่าๆกัน)

เคล็ดลับ!

บ่อปูนที่ก่อเสร็จใหม่ๆ ต้องแช่น้ำด่างทับทิมไว้ 3 วัน แล้วจึงล้างทำความสะอาด แล้วเติมน้ำใหม่ลงไป หรือจะเลือกใส่ต้นกล้วย และเกลือสินเธาว์ แช่ทิ้งไว้ 7-15 วัน ซึ่งต้นกล้วยจะชะล้างฝุ่นผงปูนที่เคลือบบ่อ และกำจัดค่า PH ในบ่อให้สมดุล ส่วนเกลือช่วยกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ในบ่อ

การเพาะพันธุ์ปูนา

3

ภาพจาก bit.ly/3bN75hM

ตามธรรมชาติปูนาออกลูกปีละครั้ง แต่ปัจจุบันมีการบังคับผสมพันธุ์นอกฤดูเพื่อให้ได้ผลผลิตเร็วขึ้น ซึ่งเกษตรกรจะให้วิธีการสร้างฝนจำลองเพื่อหลอกให้ปูเข้าใจผิดคิดว่าเป็นน้ำฝนจะทำให้ปูออกมาจากรูเพื่อผสมพันธุ์ ซึ่งก่อนจะผสมพันธุ์สังเกตว่าปูนาส่วนใหญ่จะมีสีที่หลากหลาย เช่น สีม่วง ส้ม ชมพู เทา แดง ดำ แต่สีปูนาที่จะผสมพันธุ์ได้ดีที่สุดคือสีแดงดำอมม่วง พอปูนาเริ่มเจอน้ำจากที่ตัวมีสีเหลือง ม่วง ส้ม ก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงดำอมม่วง

เมื่อปูเริ่มจับคู่กันแล้วแยกกันอยู่ในรูใครรูมัน ตัวผู้อยู่ปากรูคอยเฝ้าดูแล จนกว่าจะออกลูกเป็นตัวตัวเมียจึงออกจากรู ใช้เวลาประมาณ 40-45 วัน หลังจากที่ลูกปู ออกจากหน้าท้องแม่ อายุ 3 วัน ถึง 1 เดือนครึ่งจะเลี้ยงด้วยไข่แดงต้มสุก หลังจากแตกไซด์คือมีขนาดใหญ่ขึ้น จะเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 1-1.5 เดือน ก็จะจับขาย

ซึ่งหลังจากหยุดให้ไข่แดง เราสามารถใช้อาหารปลาดุกเม็ดเล็กเสริมด้วยข้าวสวยหุงสุกคลุกเคล้าให้เข้ากัน หว่านประมาณ 1 กำมือในช่วงเย็นเนื่องจากปูนาจะออกหากินตอนกลางคืน และหมั่นดูแลบริเวณที่อยู่ของปูให้สะอาดโดยต้องเก็บเศษอาหารที่ปูกินไม่หมดทิ้ง และเก็บปูที่ก้ามหลุดออกเนื่องจากจะส่งผลให้โดนปูตัวอื่นมารุมทำร้ายและตายได้ และหากทิ้งอาหารหรือปูที่ตายไว้นานๆจะเกิดกลิ่นเหม็นเน่าและมีเชื้อราเกิดขึ้นทำให้ปูเกิดโรคได้ง่าย

ระยะเวลาในการจับปูน่าและราคาในการจำหน่าย

3

ภาพจาก bit.ly/33noQjY

ใช้เวลาประมาณ 2.5 – 3 เดือนเพื่อจับขายเป็นปูจ๋าสำหรับทอด แต่ถ้าอายุถึง 6 เดือนสามารถเริ่มเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้ปูนา 1 ตัว ให้ลูกราว 700-800 ตัว อัตรารอด 500 ตัว ขายส่ง กก.ละ 50-100 บาท (ตามแต่พื้นที่การเลี้ยง) พ่อแม่พันธุ์คู่ละ 50-100 บาท เป็นปูคัดแล้วแข็งแรง ส่วนปูที่ไม่แข็งแรงนำไปขายเป็นปูกิโลเพื่อทำอาหาร ซึ่งจะจำหน่ายได้ทั้ง ปูดองราคา 150-500 บาท/กก. ปูสดราคา 100-180 บาท/กก. ขึ้นอยู่กับขนาด

เพิ่มเติม “การตลาดออนไลน์” สร้างรายได้มากขึ้น

2

ภาพจาก bit.ly/2DOf2Xx

เพื่อยกระดับการขาย “ปูนา” ให้ทันโลกทันสมัยมากขึ้น ยุคนี้เกษตรกรต้องผนวกใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะตลาดออนไลน์ที่ถือว่าแทบไม่มีต้นทุนในเรื่องการประชาสัมพันธ์แต่ได้ผลดีเกินคาด ยกตัวอย่างเกษตรชาวราชบุรี ที่เริ่มเลี้ยงปูนาทีละน้อยยๆ และสะสมประสบการณ์มากขึ้น ขยายฟาร์มใหญ่ขึ้น

และมีการเรียนรู้เพื่อแปรรูปสินค้าให้เพิ่มมูลค่า รวมกับการใช้ตลาดออนไลน์ที่สามารถขายสินค้าได้ทั่วประเทศ เทคนิคในการทำตลาดออนไลน์คือ ลงรายละเอียดทุกขั้นตอนให้คนที่ติดตามได้เห็น เป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเห็นว่าเราเลี้ยงจริง มีฟาร์มจริง และเป็นปูนาที่มีคุณภาพจริงๆ และลูกค้าก็จะเริ่มทยอยเข้ามาหาเรามากขึ้น เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการทำตลาดที่น่าสนใจของเกษตรกรยุคใหม่นี้

ซึ่งรายได้ของเกษตรกรผู้เลี้ยงปูนาขั้นต่ำเฉลี่ย 20,000 -30,000 บาท และมีคนรุ่นใหม่หลายคนที่ลาออกจากงานและหันไปทำการเพาะเลี้ยงปูนา ซึ่งบางคนประสบความสำเร็จสามารถสร้างรายได้จำนวนมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญและประสบการณ์ในการเลี้ยงเป็นสำคัญ

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใหม่ก็ต้องศึกษาความเป็นไปได้ของตัวเองที่จะเพาะเลี้ยง ถึงแม้ปูนาจะเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการแต่เกษตรกรเองก็ต้องมีเทคนิคในการเลี้ยงและแก้ปัญหาระหว่างการเลี้ยงที่ดีด้วย


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3hTLBCq , https://bit.ly/2DokCQk , https://bit.ly/31PK0YI 

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2ZCFPxE

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด