ออมขั้นเทพ ! หนุ่ม28 มีเงินออมเกือบ 10 ล้านบาท แถมเตรียมเกษียณตอนอายุ 37!!

คงเป็นความฝันของใครหลายๆคน ที่จะได้เกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเรื่องของรายได้และค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ ถ้าจะเกษียณตอนอายุยังน้อยก็ต้องเลิกทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ทำงานก็เท่ากับขาดรายได้ประจำแต่ละเดือนไป

ดังนั้นใครที่อยากเกษียณก็ต้องวางแผนชีวิตวางแผนรายรับรายจ่ายให้ดี และต้องครอบคลุมเผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย อ่านดูๆแล้วคงทำลายความฝันที่จะเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อยของหลายๆคนไปเลย อย่าพึงยอมแพ้! www.ThaiSMEsCenter.com มีเรื่องของหนุ่มวัย 28 ที่มีแผนจะเกษียณอายุตอน 37 มาให้ผู้สนใจศึกษาชีวิตเขาเป็นต้นแบบกัน

ออมขั้นเทพ

คนอเมริกันทั่วไปเกษียณเมื่ออายุ 63 ปี แต่หนุ่ม Sean วัย 28 ปีผู้ซึ่งขอร้องให้ไม่ระบุชื่อ วางแผนจะเกษียณตอนอายุ 37 ปี ณ ตอนนี้เขามีเงินมากกว่า 250,000 ดอลล่าร์ (ประมาณ 8,328,488บาท) ในธนาคาร “No inheritances, no windfalls” หรือแปลได้ว่า “ไม่มีมรดกไม่มีโชค” คือสิ่งที่ Sean เขียนไว้ในบล็อก My Money Wizard “เพียงแค่เงินออมจำนวนมาก, การลงทุนขั้นพื้นฐาน และโต๊ะทำงานในอุตสาหกรรมการเงินที่ทำให้เงินเดือนของผมเกือบจะเหนือกว่ารายได้ของเฉลี่ยของครัวเรือน”

Sean จบการศึกษาด้าน debt-free ด้วยทุนการศึกษา thanks to scholarships และ extremely generous parents เขาเล่า “ผมค่อนข้างหัวดี” เริ่มต้นมีมูลค่ามากกว่า 25,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 831,697 บาท) ภาระการกู้ยืมเฉลี่ยของนักเรียนในโคโลราโดใช้เวลาสองปีแรกในวิทยาลัยอยู่ที่ 26,520 ดอลลาร์ (ประมาณ 882,264 บาท) หลังเรียนจบเขาวางแผนที่จะเกษียณขณะอายุน้อยทันที

b5

เขาเริ่มออมก่อนเป็นอันดับแรก “ผมคิดเสมอว่าเพื่อให้มีเงินพอที่จะเกษียณอายุหรือเพื่อให้เป็นอิสระทางการเงินคุณต้องมีเงินออมเยอะๆ”คุณปู่ของเขาเป็นคนเปลี่ยนแนวคิดนี้แก่เขา “คุณปู่ผมไม่ได้ดูรวยทั้งๆที่เขามีเงินเก็บถึง 1 ล้านเหรียญ แต่เขาไม่เคยใช้จ่ายอะไรเกินราคา 50 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,663 บาท) แถมยังใช้รถคันเก่าๆ” Sean กล่าว เขาจึงเริ่มลงทุนขายแผ่นซีดีตั้งแต่อายุ 16 เขาวางแผนว่าถ้าเขาได้รายได้เท่านี้เขาจะมีเงินเก็บ 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 33,267,906 บาท) ตอนอายุ 60 ปี

ตั้งเป้าหมาย เป็นหนังสือของ Jacob Lund Fisker เรื่อง Early Retirement Extreme ที่กระตุ้นให้ Sean สามารถวางแผนเกษียณตอนอายุยังน้อยเพราะหนังสือชี้ให้เห็นว่าคุณไม่จำเป็นต้องเป็นมหาเศรษฐีเพื่อเกษียณ “ผมเคยคิดเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ว่าผมต้องการเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อเกษียณอายุ แต่ความจริงมันไม่ใช่มันขึ้นอยู่กับการวางแผนใช้จ่ายของคุณ”

b4

“ใช้กฎ 4 %” สูตรนี้เป็นที่ถกเถียงอย่างมาก เกี่ยวกับการเก็บเงินให้พอใช้หลังเกษียณ Sean คิดว่าเขาจะต้องมีเงินเก็บ 750,000 ดอลลาร์(ประมาณ 24,950,929 บาท) จำนวนนี้เป็นตัวเลขที่จะช่วยรักษาและ ทำให้เขามีครอบครัวได้
ตรวจสอบการใช้จ่าย แทนที่จะจำกัดค่าใช้จ่าย Sean เริ่มด้วยการดูตัวเองว่าใช้จ่ายอะไรไปบ้าง “คุณไม่จำเป็นต้องจำกัดค่าใช้จ่ายของคุณ คุณเพียงต้องดูว่าคุณใช้จ่ายไปเท่าไร และคุณสามารถออมได้เท่าไร เมื่อคุณดูการออมครั้งล่าสุด

คุณจะเห็นว่ามันแตกต่างกันมาก” Sean ใช้แอพพลิเคชั่นNumbers ของ iPhone ในการบันทึกรายจ่าย แต่หากคุณใช้มือถือระบบ Android คุณสามารถใช้แอพพลิเคชั่นเช่น Mint ได้เช่นกันถ้าคุณต้องการบันทึกรายจ่ายของคุณ

แอพพลิเคชั่น Mint จะช่วยให้คุณจัดการรายจ่ายได้ดีขึ้น มีรูปแบบให้กำหนดเป้าหมายการออม การลงทุน ราบรับ-รายจ่าย หรือแม้แต่บรรดาหนี้ที่ต้องจ่ายทุกๆเดือน แอพพลิเคชั่นนี้สามารถจัดการได้ทั้งหมด มีวิธีการที่ง่ายๆไม่ยุ่งยากจนเกินไป เมื่อเริ่มแรก Sean เก็บออมเงินได้ 35% ของรายได้ ทุกวันนี้เขาเก็บได้มากกว่า 60% ของรายได้

b3

รวบรวมเงิน หลังจบการศึกษา Sean มีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นจาก ประมาณ 50,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,660,796 บาท ) เป็น 80,000 ดอลลาร์ (2,657,273 บาท) เขามีเงินเพิ่มขึ้นแต่กลับไม่ได้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเลย “ผมมีเงินเพิ่มขึ้น แต่เงินที่เพิ่มขึ้นเหล่านั้นผมเอามาลงทุนหรือไม่ก็เก็บออม คุณจะมีอิสระทางการเงินได้ก็ต่อเมื่อคุณมีเงินออมเยอะๆ”

ใช้จ่ายอย่างประหยัด “ถ้าคุณสังเกตค่าใช้จ่ายของผม คุณจะเห็นว่าผมใช้จ่ายน้อยมาก ผมซื้อรถเพียง 13,000 ดอลลาร์(ประมาณ 431,807 บาท) ด้วยเงินสด และผ่อนบ้านตกเดือนละ 740 ดอลลาร์ (ประมาณ 24,579 บาท) เพื่อการประหยัดผมจะออกจากบ้านเป็นครั้งคราว เพื่อหาอะไรอร่อยๆ กิน มันเป็นความสุขของผม

b2

โดยผมใช้จ่ายกับการกินข้าวนอกบ้านตกเดือนละ 150-200 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,990-6,653 บาท) และใน 1 เดือนค่าใช้จ่ายของผมจะประมาณ 400-1,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 13,307-49,901 บาท) ขึ้นกับค่ารถ” เงินออมของ Sean กระจายออกไปราวหนึ่งพันล้านดอลลาร์(ประมาณ 33,267,906,450 บาท) เขามีเงินสดประมาณ 14,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 465,750 บาท)

ที่เหลือเขาจะเอาไปลงทุนในกองทุนอย่างง่ายๆ เช่น 104,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,459,862 บาท) ลงทุนใน ในแผน 401 (k) ของบริษัท (แผน 401 (K) คือแผนเกษียณอายุที่นายจ้างของคุณสามารถมอบให้กับลูกจ้างได้ตามกฎหมาย แผนช่วยให้ทั้งพนักงานและนายจ้างได้รับการหักภาษีเมื่อพวกเขานำเงินเข้าบัญชีเกษียณอายุ 401 (k) ของพนักงาน) เป็นต้น

ในแต่ละเดือนSean แจกแจงการลงทุนในบล็อกของเขา “คุณไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะในการลงทุน หรือลงทุนในกองทุนที่ความเสี่ยงสูง สิ่งที่ผมทำตรงกันข้ามผมวิเคราะห์และศึกษากองทุนอย่างง่ายๆ และเลือกลงทุนในกองทุนที่มีดัชนีค่าธรรมเนียมต่ำ”

การลงทุนที่ Sean ทำเป็นการลงทุนแบบง่ายที่ทุกคนสามารถทำตามได้ อย่างกองทุน 401 (K) “กองทุน 401 (K) ช่วยผมประหยัดภาษีได้ 6,000 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 199,607 บาท) สำหรับแผนการถอนออก เนื่องจากกองทุน 401 (K) ถ้าถอนออกก่อนเกษียณจะต้องเสียภาษี ผมจึงวางแผนว่าถอนออกเมื่ออายุ 59 ปี ก่อนหน้านั้นก็ใช้เงินที่ออมไว้ในกองทุน Roth IRA และเงินจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์”

b1

เขาเขียนไว้ในบล็อกของเขา “การเกษียณอายุตั้งแต่ 37 ปีของผมถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว การเกษียณไปนั่งเฉยๆไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำ ผมแค่ต้องการเสรีภาพในการทำงานโดยทำงานเมื่ออยากทำและไม่ทำงานเมื่อไม่อยากทำ ทั้งหมดที่ผมต้องการคืออิสระ” Seanกล่าวทิ้งท้าย

การเกษียณอายุในวัย 37 ปีของหนุ่ม Sean เกิดจากการวางแผนที่ดีมากๆของเขา เราเริ่มเก็บออมและลงทุนตั้งแต่เริ่มทำงาน กล้าที่จะคิด จะทำ และศึกษาผลประโยชน์ในแต่ละการลงทุนอย่างละเอียด ใครที่ฝันอยากจะเกษียณไว ก็ลองเอาเทคนิคที่หนุ่ม Sean ปฏิบัติมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง สภาพแวดล้อมการทำงานและสภาพเศรษฐกิจของเรากันนะ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://bit.ly/2AywOvr
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี ทำธุรกิจ https://bit.ly/2Jatqq2

ที่มา

ภาพจาก https://pixabay.com

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต