อยู่บ้าน ช่วยชาติ ท้ายสุดทุกคนจะแกร่งกว่าที่เคย!

ข้อดีของ COVID 19 คือทำให้คนเราได้อยู่กับบ้านมากขึ้น มีเวลาให้กับพ่อแม่ลูกเมียพี่น้องมากขึ้น หรือจะเป็นจริงอย่างที่เขาว่า “COVID 19” คือการทำความสะอาดตามธรรมชาติเพื่อปรับสมดุลของโลกใบนี้ให้ดีขึ้น แต่ไม่ว่าจะแนวคิดไหนอย่างไร การแพร่ระบาดของ COVID 19 ก็ยังเป็นเรื่องเลวร้ายและภาวนาให้ผ่านพ้นไปเร็วๆสักที

ซึ่งในขณะที่เรายังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่า ช่วง 14 วันที่คนเราได้อยู่กับบ้านหรือบางคนได้ทำงาน Work From Home สกิลในตัวของแต่ละคนควรจะเพิ่มขึ้น บางสิ่งที่ไม่เคยทำ หรือทำไม่เป็นในช่วงเวลาแบบนี้เราควรพัฒนาความสามารถตัวเองให้มากขึ้น

1. พัฒนาศักยภาพของ “พ่อ”

 ท้ายสุดทุกคนจะแกร่งกว่าที่เคย

ภาพจาก freepik

เริ่มกันตั้งแต่คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว จากเมื่อก่อน “พ่อ” อาจจะเป็นคนที่ใช้เวลาอยู่บ้านน้อยที่สุด กลับบ้านดึกที่สุดแต่ตอนนี้เมื่ออยู่บ้านมากขึ้นสิ่งที่ “พ่อ” ควรทำคือ

  1. รู้จักซ่อมแซมบ้าน อาศัยเวลาที่ต้องอยู่บ้านพ่อควรจะทำหน้าที่ซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดพัฒนาบ้านตัวเองให้ดีขึ้น
  2. ซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าง่ายๆ อย่างหลอดไฟขาด พัดลมไม่ติด นี่ก็คือหน้าที่ของพ่อในช่วงเวลาอยู่กับบ้านที่ควรทำได้
  3. ปลูกต้นไม้ งานสวนก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจพ่ออาจใช้ช่วงเวลาที่มีค่านี้จัดสวนให้บ้านดูสวยงามยิ่งกว่าเดิม
  4. ลดน้ำหนัก ลดโรค จากที่เคยทำงานเอาแต่กิน ขับรถ นั่งทำงาน เมื่อมีเวลาก็ควรตั้งเป้าลดน้ำหนักตัวเองให้ได้
  5. ออกกำลังกายให้แข็งแรง สืบเนื่องจากการลดน้ำหนัก ก็ควรฝึกฝนการออกกำลังกายภายในบ้านให้ตัวเองแข็งแรง
  6. เล่นกับลูกให้มากขึ้น จากที่ไม่เคยมีเวลาให้ลูก ไม่เคยเล่นกับลูก ช่วงที่พ่อกักตัวนี้เป็นเวลาดีที่จะสานสัมพันธ์ให้ดี
  7. หาความรู้ใหม่ๆ ให้ตัวเอง เอาไว้เผื่อในยามที่ต้องกลับไปทำงานอีกครั้งจะได้สกิลเพิ่มศักยภาพให้สูงกว่าเดิม
  8. ฝึกช่วยงานบ้าน คนเป็นพ่อมักคิดเสมอว่างานบ้านเป็นหน้าที่ของแม่บ้านเวลาแบบนี้ฝึกทำงานบ้านจะช่วยให้ครอบครัวอบอุ่นขึ้นมาก
  9. เป็นพ่อครัว พ่อบางคนอาจไม่เคยทำอาหารให้ลูกทานเลย นี่คือโอกาสดีที่จะได้ฝึกทำอะไรที่ตัวเองไม่เคยทำ
  10. เป็นนักฟังที่ดี จากที่ทำงานกลับดึก บางทีก็ไม่กลับ อาจทำให้พ่อไม่เคยฟังความคิดเห็นของลูกๆ ตอนนี้อาจมีเวลาที่พ่อจะกลายเป็นนักฟังและแก้ปัญหาให้กับลูกได้มากขึ้น

2. พัฒนาศักยภาพของ “แม่”

34

ภาพจาก freepik

คนที่เป็นแม่อาจมีเวลาอยู่บ้านมากกว่าคนเป็นพ่อ แต่ก็มีแม่หลายคนที่ทำงานนอกบ้านเช่นกัน แต่โดยรวมแล้ว บรรดา “แม่ๆ” จะมีหน้าที่หลักคือทำอาหาร รับส่งลูกไปโรงเรียน ทำงานบ้านต่างๆ ช่วง 14 วันที่กักตัวก็มีสิ่งที่แม่จะพัฒนาตัวเองได้คือ

  1. ฝึกงานเย็บปักถักร้อยให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเย็บเสื้อที่ขาด เย็บหมอน เย็บผ้าห่ม ใครทำไม่เป็นก็ใช้เวลานี้ในการฝึก
  2. ฝึกทำขนม/เบเกอรี่ ช่วงที่มีพ่อคอยดูแลลูกๆ แทน แม่อาจจะฝึกฝนทำขนม ดีไม่ดีอาจจะกลายเป็นอาชีพที่ดีก็ได้
  3. ดูแลตัวเองให้สวยกว่าเดิม จากที่ต้องเอาแต่ทำงานบ้าน เมื่อมีพ่อมาช่วยดูแล แม่ก็หันมาใส่ใจความสวยได้มากขึ้นในเวลานี้
  4. ทำงานฝีมือ/งานแฮนด์เมด แม่หลายคนมีพรสวรรค์ด้านการทำงานแฮนด์เมด แต่ไม่มีเวลา นี่คือช่วงเวลาที่แม่จะได้หันมาทำงานแฮนด์เมดได้อย่างเต็มที่ดีไม่ดีจะเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวด้วย
  5. ขายของออนไลน์ ส่วนใหญ่บรรดาแม่ๆ จะเป็นคนพูดเก่ง ขายเก่ง ซึ่งอาจใช้เวลานี้เพิ่มสกิลการขายให้ตัวเองมากขึ้นได้
  6. เล่นกีฬาให้มากขึ้น บรรดาแม่ๆ อาจไม่ค่อยสันทัดกับการเล่นกีฬา ในช่วงที่มีเวลาขนาดนี้ควรได้ฝึกเล่นกีฬาเบาๆที่ตัวเองพอทำได้
  7. วางแผนการใช้เงินภายในบ้าน นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่แม่จะได้วางแผนการเงินสำหรับครอบครัวให้ดียิ่งกว่าเดิม ตรงไหนที่บกพร่องก็ปรับปรุงแก้ไขให้ครอบครัวมีแผนการเงินที่ดีขึ้น

3. พัฒนาศักยภาพของ “ลูก”

33

ภาพจาก freepik

สำหรับลูกๆ อาจจะเป็นปิดเทอมที่เด็กได้อยู่กับบ้านมากที่สุด และเพื่อไม่ให้เวลาอันมีค่านี้เสียไปแบบเปล่าประโยชน์ ลูกๆ เองก็ควรฝึกทักษะตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้น มีหลายอย่างที่ทำได้คือ

  1. ค้นหาความสามารถพิเศษตัวเอง เมื่อมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น เด็กๆควรค้นหาตัวเองให้เจอว่าชอบอะไรและอยากทำอะไรมากที่สุด
  2. ฝึกทักษะด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษนับเป็นพื้นฐานที่เด็กไทยทุกคนควรจะมี ซึ่งสามารถหาความรู้และฝึกได้จากในอินเทอร์เนต
  3. ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน การฝึกทำงานบ้านก็ถือเป็นการฝึกวินัยและทำให้เด็กได้รู้จักหน้าที่ของตัวเองมากขึ้นด้วย
  4. ทบทวนบทเรียน เด็กๆควรใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์นอกจากทำกิจกรรมต่างๆ แล้วก็ควรทบทวนบทเรียนด้วย
  5. หารายได้พิเศษจากอินเทอร์เนต เด็กสมัยนี้ใช้อินเทอร์เนตคล่องมาก ก็ควรเอาความรู้ความสามารถมาใช้ในการหาเงินที่ถูกต้องและเป็นการฝึกทำงานไปในตัวด้วย
  6. ลดการเล่นโทรศัพท์ อาจจะทำได้ยากเพราะโทรศัพท์เป็นเหมือนปัจจัยที่ห้า แต่ถ้าเรามัวเอาแต่เล่นโทรศัพท์ตลอดเวลาก็จะทำให้มีปัญหาด้านการเข้าสังคมและอาจเป็นสมาธิสั้นได้
  7. ฝึกทำสมาธิ เด็กๆหลายคนไม่เคยฝึกทำสมาธิเอาแต่เล่นไปวันๆ ในเมื่อเรามีเวลาต้องอยู่กับบ้านมากขึ้น ควรได้ฝึกทำสมาธิให้มากขึ้น จิตใจจะได้สงบและมีผลดีในการนั่งสมาธิตามมาอีกมากมาย

32

ภาพจาก freepik

ทั้งนี้กิจกรรมในระหว่างการอยู่กับบ้านที่อาจจะแปรเปลี่ยนไปตามสภาพของแต่ละบุคคล บางคนพ่อแม่อาจไม่ได้หยุดทำงาน เด็กๆ ก็อาจจะช่วยทำงานบ้านแทนพ่อแม่ได้ หรือบางคนมีปู่ย่าตายายอยู่ด้วย เด็กๆ ก็อาจจะช่วยดูแลปู่ย่าตายายมากขึ้น หรือแม้แต่พ่อแม่เอง ก็อาจมีกิจกรรมที่แตกต่างไปจากที่เรากล่าวไว้

เช่น บางคนเป็นบ้านเดี่ยวก็อาจปลูกต้นไม้ได้ แต่บางคนอยู่คอนโดปลูกต้นไม้ไม่ได้ก็อาจแปรเปลี่ยนมาทำสวนขวดแทน หรือบางคนอยู่บ้านเช่าไม่มีพื้นที่ในการทำกิจกรรมอะไรมากนัก ก็อาจจะใช้เวลาในครอบครัวทำกิจกรรมเล็กๆ รวมกัน ดีกว่าต่างคนต่างอยู่ปล่อยเวลาให้มีค่าไปแบบเปล่าประโยชน์


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ่านบทความเพิ่มเติม https://bit.ly/3aU6LN3

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด