อยากลงทุนแต่ไม่มีตังค์! ต้องทำยังไง

อยากลงทุน ต้องมีเงิน ถ้าไม่มีเงินก็เริ่มต้นธุรกิจไม่ได้ นี่คือนิยามของคนส่วนใหญ่ที่ฝังหัวเอาไว้ กลายเป็นกรอบความคิดที่ไม่มีใครกล้าจะก้าวออกมา บ้างกลัวพลาด บ้างกลัวล้มเหลว สุดท้ายหลายคนก็ยืนอยู่ที่เดิมเพราะมัวแต่คิดว่าตัวเองไม่มีเงินลงทุน

www.ThaiSMEsCenter.com อยากจะเปลี่ยนความคิดเหล่านี้ซะใหม่ และอยากบอกให้ทุกคนเข้าใจว่าแม้เราไม่มีเงินทุนเราก็มีโอกาสในการสร้างธุรกิจได้ จะต้องทำยังไงบ้าง ลองไปดูกัน!

1. หาแหล่งเงินทุนในการกู้ยืม

อยากลงทุน

ภาพจาก freepik

ข้อดีของการจัดหาเงินทุนเพื่อธุรกิจแบบนี้คือ ความหลากหลายของรูปแบบเงินทุน ทั้งระยะสั้น ระยะยาว ระยะกลาง และการกู้ยืมที่มีเงื่อนไขหลายแบบที่สามารถเลือกให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของผู้กู้ได้ แต่แหล่งเงินทุนลักษณะนี้มักใช้เวลานานในการพิจารณา และมักต้องใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน ในกรณีกู้ยืมสินเชื่อ SME

แต่ก็ยังมีแหล่งเงินทุนอื่นๆ ที่น่าสนใจที่ไม่ใช่การกู้ยืมจากสถาบันโดยตรง เช่น จากบัตรเครดิตที่แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเงินแต่บัตรเครดิตก็มีก็สามารถเป็นแหล่งเงินทุนได้เช่นกัน เราสามารถใช้วงเงินในบัตร รูดซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ มาใช้ในการตั้งต้นเปิดร้านทำธุรกิจหรือสั่งซื้อสินค้ามาสต็อกเพื่อจำหน่ายให้ลูกค้าต่อไปได้ ซึ่งหากเราบริหารจัดการการใช้จ่ายดีคืนเงินตามระยะเวลาที่กำหนดเราก็อาจจะไม่เสียดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว (เงือนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)

หรือจะเลือกใช้บัตรกดเงินสดซึ่งเป็น แหล่งเงินทุนหมุนเวียนยามฉุกเฉินที่ไม่ต้องการหลักทรัพย์ค้ำประกันตอนสมัคร เพียงคุณมีเครดิตทางการเงินที่เข้าเงื่อนไข ก็สามารถสมัครบัตรกดเงินสดมาใช้ได้ทันที แต่มีจุดที่ต้องทราบไว้ก่อนคือ วงเงินที่ให้อาจไม่ตอบโจทย์ในกรณีที่ต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อนำไปลงทุน

2. ใช้ไอเดียและความสามารถทดแทนเงินทุน

35

ภาพจาก freepik

สำหรับคนที่ไม่มีเงินทุน แต่มีสมอง และไอเดียก็สามารถสร้างธุรกิจของตัวเองได้ หลายธุรกิจที่เริ่มต้นจากไอเดียง่ายๆ ทำจากเล็กไปใหญ่ ค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่าง คนที่มีความสามารถด้านศิลปะไม่ว่าจะวาดภาพ งานปั้น แกะสลัก สามารถผลิตชิ้นงานและจำหน่ายให้กับคนที่สนใจในช่องทางโซเชี่ยลได้

หรือคนที่มีความสามารถด้านภาษา มีทักษะด้านงานซ่อม มีความสามารถด้านการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สามารถรับงานฟรีแลนด์ หรือเป็นติวเตอร์รับจ้างสอนตามบ้าน ก็เป็นการลงทุนสร้างรายได้ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเริ่มต้นแถมยังสามารถต่อยอดไปได้ไกลมากด้วย

3. ใช้ต้นทุนเท่าที่เรามี

34

ภาพจาก facebook.com/torbeefgrill

คำว่าไม่มี “ต้นทุน” ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่บาทเดียว คำว่าเงินทุนไม่มีอาจจะหมายถึงมีแต่เพียงพอเอาไปลงทุน ถ้าดังนั้นแล้ว ก็ “ใช้เท่าที่มี” เช่น เรามีเงินเก็บอยู่ 20,000 บาท หากจะเอาไปลงทุนทั้งหมดนี้ก็จะเป็นความเสี่ยงเกินไป ลองแบ่งมาลงทุนสัก 5,000 แล้วลองดูว่า เงิน 5,000 ที่เราแบ่งมานี้พอจะเอาไปทำอะไรให้งอกเงยได้บ้าง

เช่น การซื้อแฟรนไชส์บางแห่ง ที่ใช้งบไม่เกิน 5,000 ก็มีหลายแพคเกจให้เลือกลงทุนได้ หรือจะเอาเงินทุนนี้ซื้ออุปกรณ์สำหรับทำสิ่งที่ตัวเองถนัด เช่นซื้อเมล็ดผัก อุปกรณ์ปลูกผัก มาลองปลูกพืชสวนครัวขาย เป็นต้น การที่เราใช้เงินทุนตามศักยภาพที่เรามี แม้จะไม่สามารถเติบโตเป็นธุรกิจได้กำไรในทันทีแต่ถ้าค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ต่อยอดให้ดีขึ้น เมื่อมีเงินทุนมากขึ้นก็มาลงทุนเพิ่ม กิจการก็จะขยายใหญ่ขึ้นในอนาคตได้

4. หาคนลงทุนร่วมด้วย

33

ภาพจาก freepik

ปัจจุบัน นักลงทุนหรือสถาบันต่างๆ ที่มีเงินลงทุนมหาศาล พยายามมองหาธุรกิจที่น่าสนใจ และให้เงินทุนเพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นได้ถูกพัฒนาไปได้ ซึ่งเราอาจใช้ประโยชน์จากส่วนนี้ในการหาผู้ร่วมลงทุนกับเราได้ ซึ่งก็มีหลายรูปแบบเช่น

  • เงินรางวัลสนับสนุนแผนธุรกิจ มีบริษัทรายใหญ่หลายราย เปิดโอกาสให้ธุรกิจเล็กๆ ที่ต้องการเงินทุน และมีแผนธุรกิจที่น่าสนใจ เข้าร่วม Pitch หรือ นำเสนอแผนธุรกิจ เพื่อคว้ารางวัลเงินสนับสนุน แล้วแต่ละบริษัทก็สนับสนุนเงินรางวัลให้แก่บุคคลเหล่านั้น
  • Angel Investor แหล่งเงินทุนประเภทนี้เป็นที่พูดถึงกันมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ Start up โดย Angel Investor คือนักลงทุนมืออาชีพ ที่มีความสนใจในด้านการทำธุรกิจ และหากเจอธุรกิจที่เข้าตา ก็พร้อมสนับสนุนเงินลงทุนให้แก่ธุรกิจเหล่านั้น เพื่อแลกกับหุ้นของบริษัทบางส่วน และนอกจากจะเข้ามาสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนแล้ว ยังจะเป็นผู้ช่วยให้คำแนะนำที่ดี เปิดมุมมองให้กับบริษัทได้อีกด้วย
  • Crowdfunding ป็นระบบช่องทางการเงินยุคปัจจุบัน ที่เข้ามาช่วยคนที่มีไอเดียอยากเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างแต่ขาดเงินทุน สามารถขายไอเดียเพื่อระดมเงินทุน ให้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอไอเดียหรือผลงาน ผ่านแคมเปญหรือกิจกรรม โดยที่ไม่ต้องลงทุนเอง เพื่อขอรับการสนับสนุนจากคนทั่วโลก ปัจจุบันแพลตฟอร์มหรือช่องทางการระดมทุนแบบ Crowdfunding อยู่มีหลายแห่งทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ตัวอย่างแพลตฟอร์ม Kickstarter ถือเป็นแหล่งระดมทุนยอดนิยมแห่งหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง (ก่อตั้งเดือนธันวาคม ปี 2009) เน้นโครงการที่มีความคิดสร้างสรรค์โดดเด่น ณ ธันวาคม 2019 มีโครงการได้รับการสนับสนุนแล้ว รวมเป็นเงินถึง 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากผู้สนับสนุน 17.2 ล้านราย เป็นต้น

5. ใช้โซเชี่ยลสร้างรายได้

32

ภาพจาก freepik

น่าจะเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่คนไม่มีทุนนึกถึงมากที่สุด การใช้โซเชี่ยลสร้างรายได้แน่นอนว่าทุกคนรู้จัก “การขายออนไลน์” ซึ่งก็มีหลายช่องทางให้เลือกใช้เช่น

  • Facebook ใช้งานได้หลายแบบ เช่น การสร้างเพจต่างๆ, ขายของออนไลน์, ทำอาหาร, ออกกำลังกาย, แชร์เรื่องราว, รีวิวสินค้าหรืรอท่องเที่ยว ฯลฯ หากเป็นเพจที่ฮอตฮิตมีคนติดตามเยอะก็จะมีรายได้จากการจ้างให้โฆษณา , การจ้างรีวิวสินค้า เป็นต้น
  • Youtube เป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่รู้จักดีมีรายได้จากยอดคลิกโฆษณา และ รายได้จากยอดคนดู (ในกรณีที่ผ่านเงื่อนไขตามกฏของ Youtube)
  • Instagram สามารถใช้ขายของออนไลน์ได้เช่นเดียวกับโซเชี่ยลอื่นๆ รายได้มาจาก การจ้างโปรโมทสินค้า,รีวิวสินค้า,การขายสินค้าตัวเอง เป็นต้น

6. ลงทุนแบบจับเสือมือเปล่า “ซื้อมาขายไป”

31

ภาพจาก freepik

เป็นวิธีที่อาจไม่ต้องใช้ทุนมากแต่ต้องใช้ทักษะมาก คนที่เก่งด้านนี้แทบจะไม่ต้องใช้เงินในการซื้อสินค้า แต่ใช้รูปแบบหาสินค้าและคนที่ต้องการสินค้า โดยใช้ตัวเองเป็นคนกลาง เมื่อได้สินค้ามาก็นำไปขายและหักต้นทุนสินค้าให้กับเจ้าของ ส่วนตัวเองก็รับเปอร์เซ็นต์หรือส่วนต่าง มีหลายวิธีในการจับเสือมือเปล่าเช่น

  • การเป็นนายหน้า คอยเป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้เกิดการซื้อขายขึ้น แล้วกินค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้า (Commission) ตามที่ตกลง
  • ขายสินค้าจากร้านค้า คือการเอาสินค้าจากร้านหนึ่งมาโพสต์ขาย โดยที่ไม่ต้องจับสินค้ามาก่อนแต่เมื่อมีคนต้องการสินค้าชิ้นนี้จึงเอามาจำหน่ายส่วนใหญ่จะหักส่วนต่างของราคาเป็นรายได้ตัวเอง

7. เปลี่ยนทรัพยากรรอบตัวให้เป็นรายได้

30

ภาพจาก bit.ly/39UW1yC

หากเราไม่มีต้นทุนใดๆ เลย ให้ลองมองดูรอบตัวเองว่ามีอะไรที่พอจะหยิบจับมาสร้างรายได้ บางคนอาจมองไกลตัวแต่ที่จริงรอบตัวมีทรัพยากรมากพอที่จะใช้สร้างอาชีพได้ เช่น บางคนสร้างสินค้าจากกะลามะพร้าว หรือทำสินค้าจากเปลือกหอย บางคนปลูกต้นไม้-ดอกไม้ขาย หรือบางคนบอกว่าถนัดเล่นเกมส์ก็ยังสร้างรายได้กับการขายไอเท็มในเกมส์ให้กับคนที่สนใจ สิ่งสำคัญคือเราต้องมองรอบตัวและพยายามหาจุดเด่นให้เจอ ไม่แน่ว่ารอบตัวของเรานั่นแหละคือ ต้นทุนที่ดีที่สุดแต่คนส่วนใหญ่มักมองไม่เห็นในเรื่องเหล่านี้

คนที่รวยเป็นเศรษฐีกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จแตกต่างกันที่ความคิด คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเราไม่มีเงิน เราไม่มีทุน เราไม่ได้รวยเหมือนอื่นเขา เขารวยกว่าเขาก็ทำได้ บางคนจึงได้แต่คิดและโทษชะตาฟ้าลิขิต แต่ไม่เคยคิดจะลุกขึ้นมาพยายามด้วยตัวเอง

สิ่งเหล่านี้คือข้ออ้างของคนที่ยอมแท้ แต่คนที่อยากรวยจริงๆ เขาจะไม่สนใจกับสิ่งที่เขาไม่มี แต่จะพยายามสร้างให้สิ่งที่ไม่มีกลายเป็นจริง คนรวยส่วนใหญ่จึงเริ่มต้นลงมือทำทันทีแบบไม่ต้องรีรอ แม้จะไม่เคยทำ แม้จะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้ทำ จะมีโอกาสสำเร็จกว่าคนที่เอาแต่นั่งคิดนอนคิดอย่างเดียว


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/35J3Xlj , https://bit.ly/35HUVFh , https://bit.ly/3sqGizL , https://bit.ly/3nK72rD , https://bit.ly/2XFp5on

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3o4omHT

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด