อยากซื้อแฟรนไชส์ MINISO สินค้าแบรนด์ญี่ปุ่น ต้องอ่าน!

ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน โมเดลร้านสินค้า นำเข้าแบรนด์ญี่ปุ่นกำลังมาแรงเลยทีเดียว ขยายสาขาทำการเปิดร้านค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินค้าราคาเดียว สินค้าขายราคาขั้นต่ำ มีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภท ว่ากันว่าขายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ แต่เน้นการขายสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถตอบสนองความต้องใช้ของผู้บริโภคได้หลากหลาย 

โดยเฉพาะร้าน MINISO ที่ได้เปิดสาขาแรกที่ซีคอนศรีนครินทร์ ร้านนี้คล้ายๆ กับร้าน DAISO แต่สินค้าจะเกรดดีกว่า ราคาก็แพงกว่า ไม่ใช่ขายสินค้าราคาเดียวทุกชิ้น แต่ส่วนมากก็เริ่มจาก 69 บาท โลโก้ร้านถ้าไม่สังเกตให้ดี คุณอาจจะคิดว่าเป็นร้านยูนิโคล่ก็ได้ เพราะรูปแบบโลโก้คล้ายๆ กัน

banner-1000x300

สนใจเปิดร้านแฟรนไชส์มินิโซ ประเทศไทย คลิก https://bit.ly/3Bd6fJv

สินค้ามีตั้งแต่ของจิปาถะ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ความงาม เครื่องสำอาง ของเล่น กระเป๋า หมวก เครื่องประดับ แว่นตา ที่นวดหน้า ของใช้ในครัวเรือน ของประดับตกแต่ง เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอที ดิจิตอล ของจุกจิก คล้ายๆ พวกร้าน 60 บาท

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาท่านผู้อ่านไปส่องร้าน MINISO ร้านขายสินค้านำเข้าแบรนด์ญี่ปุ่น ที่กำลังมาแรง ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคจำนวนมาก ทั้งความต้องการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากญี่ปุ่น รวมถึงผู้ที่ต้องการลงทุนเปิดร้าน MINISO ในรูปแบบแฟรนไชส์ เพราะขายสินค้าขายได้ง่าย ราคาเริ่มที่ 69 บาทเอง

จุดเริ่มต้นร้าน MINISO

โมเดลร้านสินค้า

MINISO ก่อตั้งในญี่ปุ่นเมื่อ กันยายน 2013 โดย Jyunya และ Ye Guo Fu พันธมิตรและประธานของบริษัทที่เป็นชาวจีน และมีสำนักงานในจีนที่เมืองกวางโจว โดย Jyunya ทำหน้าที่หัวหน้าทีมดีไซเนอร์ประมาณ 30 คนในญี่ปุ่น ขณะที่การพัฒนาแบรนด์และธุรกิจอยู่ภายใต้การนำทีมของประธานชาวจีนที่กวางโจว

ปัจจุบัน MINISO มีสาขาในจีนทั้งหมด 1,110 สาขา, ในฮ่องกงอีก 25 สาขา ขณะที่มี 4 สาขาในมาเก๊า เช่นเดียวกับในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเปิดสาขาที่ดูไบ และอีกหลายประเทศ เช่น เวียดนาม, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา และอิตาลี เป้าหมายของ MINISO ใน 5 ปี จะเปิดให้ได้ 6,000 สาขาทั่วโลก และมีรายได้ 9,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทมีรายได้เติบโต 5 เท่าใน 3 ปี และมีรายได้แตะ 1,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ MINISO ยังได้วางแผนขยาย 1,000 สาขาใน 3 ปีที่สิงคโปร์ ซึ่งในสิงคโปร์ถือเป็นตลาดที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีแต่ราคาถูก ดังนั้น MINISO จึงเปิดสาขาแรกเป็น Flagship store ที่ HarbourFront Centre สาขาที่สองที่ Plaza Singapura และสาขาที่สามที่ CityLink Mall และมีแผนจะเปิดให้ครบ 100 สาขาใน 3 ปี

ส่วนสาเหตุที่มีสาขาในโตเกียวจำนวนน้อยนั้น มาจากอัตราการอิ่มตัวของผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันในตลาดในประเทศญี่ปุ่น โดยเป้าหมายแรกของ MINISO คือ การเป็นแบรนด์ระดับโลก จะมีโอกาสทางธุรกิจมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ทิ้งตลาดญี่ปุ่นไป

f3

สำหรับในประเทศไทยนั้น ร้าน MINISO เปิดสาขาแรกที่ซีคอนศรีนครินทร์ ร้าน MINISO ยังคล้ายๆ กับ ร้านชื่อดังอย่าง Daiso ที่มีในไทยเพียบ และยังมีโลโก้คล้ายๆ กับ Uniqlo ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นดังจากญี่ปุ่นอีกด้วย

Miyake Jyunya ผู้ร่วมก่อตั้ง และดีไซเนอร์ บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องตลก แน่นอนว่า MINISO อยากประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น แต่มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากกว่า ถ้าสินค้าที่ออกแบบตามแนวทางของญี่ปุ่นจะกระจายไปทั่วโลก

ส่วนการออกแบบโลโก้นั้น มาจากแนวคิดที่เรียบเงียบและทันสมัย จึงเขียนเป็นชื่อแบรนด์ MNISO แบบง่ายๆ คำว่า mini มาจาก mini-marts ส่วนสีแดงเป็นสีมงคล สำหรับ MINISO นับตั้งแต่เปิดร้านแห่งแรกขึ้นในช่วงสิ้นปี 2013 และมีสาขาในตอนนี้มากกว่า 1,400 สาขาทั่วโลก MINISO กลายเป็นแบรนด์ที่ทั่วโลกยอมรับและมีจำนวนผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ

MINISO ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก เนื่องจากผู้บริโภคเห็นด้วยกับแนวคิดบางส่วนที่ตรงตามความต้องการ ของผู้บริโภค คือเน้นการใช้ชีวิต ธรรมชาติ แต่มีเหตุผล ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เน้น “กลับสู่ธรรมชาติ การฟื้นฟูธรรมชาติ” และเน้นความสมเหตุสมผลของราคา หรือความคุ้มค่า

เมื่อเทียบกับรูปแบบและคุณภาพที่ดีของสินค้าก็ยังแตกต่างออกไปจากแบรนด์เดิมๆ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกประหยัดค่าใช้จ่ายแต่กลับได้สินค้าที่สวยงามและคุณภาพดี ซึ่งตรงตามความหมายชื่อ MINISO ที่แปลว่า สินค้าดี มีคุณภาพ ราคาถูก

f2

ปัจจุบันร้าน MINISO เปิดสาขาไปแล้วในไทยกว่า 15 สาขา ได้แก่

  1. ซีคอนศรีนครินทร์ ชั้น1 (090-896-7368)
  2. สาขาเอเชียทีค โกดัง8 (097-178-7368)
  3. สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ชั้น3 (095-515-7368)
  4. สาขาซีคอนบางแค ชั้น1 (091-879-7368)
  5. สาขาเมกาบางนา ชั้น1 (095-580-7368)
  6. สาขาซีคอนศรีนครินทร์ ชั้น2 (083-060-7368)
  7. สาขา Walking Street พัทยา (083-029-7368)
  8. สาขาเดอะ วัน ปาร์ค ลาดพร้าว (083-083-7368)
  9. สาขาฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ชั้น G (095-706-7368)
  10. สาขาเดอะ มาร์เก็ต วิลเลจสุวรรณภูมิ (โฮมโปรบางพลี) (091-723-7368)
  11. สาขา พาราไดซ์ ปาร์ค ชั้น 1 (091-812-7368)
  12. สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น 2 (095-250-7368)
  13. สาขา Center One ชั้น 2 (091-697-7368)
  14. สาขา รอยัล การ์เด้นท์ (พัทยา) ชั้น 1 (097-268-7368) และ
  15. สาขาเซ็นทรัลเวสเกต ชั้น 1 (ตรงข้าม H&M) (097-150-7368)

ทำไมร้าน MINISO จึงเป็นที่นิยม

f7

ร้านขายสินค้าแบรนด์นำเข้าจากญี่ปุ่นกำลังเป็นธุรกิจที่มีทิศทางขาขึ้น สอดรับกับผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่นิยมซื้อสินค้าราคา ต่ำ แต่มีคุณภาพ สินค้ามีเลือกหลากหลาย ตอบสนองความต้องการใช้ได้หลากหลาย สินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นสามารถสร้างความรู้สึกทางด้านอารมณ์ (Emotional) ชื่นชอบแต่แรกเห็น และซื้อสินค้าโดยไม่ต้องคิดมาก เพราะราคาเป็นตัวนำ

โดยส่วนมากผู้บริโภคจะซื้อเพราะความชอบ มากกว่าคำนึงถึงคุณภาพเป็นหลัก โดยร้านราคาเริ่มต้น 69 บาท ในเมืองไทยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ

  1. กลุ่มรากหญ้า
  2. กลุ่มบี
  3. กลุ่มบีบวกขึ้นไป

โดยร้านค้า MINISO จะยึดรูปแบบโมเดลความสำเร็จของร้าน 100 เยน ในประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ในการใช้โมเดลราคาเดียว หรือราคาเริ่มต้นต่ำเข้ามาเป็นตัวนำ ถือเป็นต้นแบบของการทำร้านนำเข้าสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่น

ที่ทำให้หลายแบรนด์แจ้งเกิดในตลาดเมืองไทย ส่วนข้อคำนึงถึงการทำธุรกิจลักษณะนี้ ผู้ประกอบการจะต้องรู้จักการบริหารต้นทุนสินค้าให้ดี การหมุนเวียนของสินค้าจะต้องมีรอบความถี่สูง และมีความหลากหลาย

ถ้าวิเคราะห์ในแง่ต้นทุน การใช้กลยุทธ์ราคาขั้นต่ำ 69 บาท เป็นการใช้วิธีการคำนวณแบบเฉลี่ยต้นทุนโดยรวม สินค้าหลายชิ้นในร้านมีต้นทุนใกล้เคียงกับราคาขาย บางชิ้นก็ราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อ แต่อีกหลายๆ ชิ้นต้นทุนก็น่าจะต่ำกว่าราคาขาย

หากมองในแง่ของกำไรแล้วกล่าวได้ว่า ยอมขาดทุนในสินค้าบางรายการ เพื่อเป็นตัวเรียกลูกค้าเข้าร้าน ซึ่งจากพฤติกรรมการซื้อเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาซื้อสินค้า จะไม่ได้ซื้อเพียงอย่างเดียว

ส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อสินค้าหลายๆ อย่างติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย ทำให้โดยรวมแล้วร้านค้าสามารถเอากำไรจากสินค้าบางรายการมาถัวเฉลี่ยได้ กลยุทธ์นี้คล้ายกับห้างโมเดิร์นเทรดที่ตั้งราคาสินค้าบางอย่างต่ำกว่าราคาขายปกติ เพื่อเป็นตัวเรียกลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในห้าง

f6

กลยุทธ์ขายสินค้าราคาขั้นต่ำ แม้ว่ากำไรต่อหน่วย (ชิ้น) ของสินค้าจะไม่มากนัก แต่อาศัยการขายได้ในปริมาณมากๆ และถ้าพิจารณาให้ดีแล้วจะพบว่ามีข้อดีอยู่หลายประการ คือ

1.ลูกค้าได้รับความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า ไม่ต้องกังวลว่าราคาสินค้าจะเป็นเท่าไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าสินค้าบางชิ้นที่มีคุณภาพเริ่มต้นที่ 69 บาท ไม่ใช่ราคาเดียวทุกชิ้น ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อได้มากขึ้น

2.สร้างจุดขายให้กับร้านหรือความแปลกใหม่ให้ลูกค้า เกิดการแนะนำปากต่อปาก ทำให้ไม่ต้องเสียงบโฆษณาร้านใดๆ

3.ร้านสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้มาก ลดขั้นตอนการทำงานของพนักงาน สินค้าทุกอย่างกำหนดราคาขายมาแล้ว ทำให้การคิดเงินก็สามารถทำได้เร็ว ความผิดพลาดน้อย

f1

สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจลงทุนเปิดร้าน MINISO ในรูปแบบแฟรนไชส์ ทางทีมงานได้ตรวจสอบจาก Admin Facebook Fanpage ของ MINISO Thailand พบว่าทางบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์อยู่แล้ว

บริษัทให้ลูกค้าส่งเมล์เข้าไป เพื่อทางบริษัทจะทำการบันทึกข้อมูลของแต่ละท่าน เรียงตามลำดับ และเมื่อทางบริษัทออกนโยบายและแพลนเสร็จเรียบร้อย ทางบริษัทจะติดต่อกลับไปยังลูกค้า คาดว่าประมาณ ปีไตรมาสที่ 3 (Q3) ของปี 2560

miniso-396x154

สนใจเปิดร้านแฟรนไชส์มินิโซ ประเทศไทย คลิก https://bit.ly/3Bd6fJv

  • ติดต่อคุณจันทร์เจ้า โทร. 061-0200719
  • อีเมล์ miniso.invesment@gmail.com

ขอบคุณรูปภาพจาก www.facebook.com/minisothai

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3q1s33p

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช