หม้อทอดไร้น้ำมัน อย่าซื้อ ถ้ายังไม่ได้อ่าน!
ถึงจะได้ชื่อว่า หม้อทอด ไร้น้ำมัน แต่วิธีการใช้ก็ไม่ได้นำมาทอดอาหารแต่อย่างใด มันคือการอบอาหาร เหมือนกับเตาอบความร้อนขนาดเล็ก มีรูปร่างแตกต่างกัน ในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ แต่โดยรวมฟังก์ชั่นการทำงานก็คล้ายคลึงไม่ต่างกันมากนัก
โดยหลักการคือ ใช้พัดลมพาความร้อนหมุนเวียนรอบอาหาร เพื่อปรุงอาหารให้สุกอย่างรวดเร็ว เช่น สเต็ก น่องไก่ ปีกไก่ นักเก็ต เฟรนช์ฟรายส์ หรือแม้แต่พิซซ่า และจากการที่ไม่ได้ใช้น้ำมันในการทอดจึงช่วยลดปริมาณแคลอรีได้มากสุดถึง 60-80% นับว่าเป็นสินค้าที่เหมาะกับคนรักสุขภาพหรือกังวลเกี่ยวกับการได้รับแคลอรีมากเกินไปจากอาหารทอดต่างๆ
ภาพจาก bit.ly/37RKRsZ
ปัจจุบันหม้อทอดไร้น้ำมันที่มีวางขายตามท้องตลาด มีหลากหลายรุ่น หลายยี่ห้อ สำหรับคนที่อยากเลือกซื้อเพื่อมาทำเมนูสุขภาพ www.ThaiSMEsCenter.com มีแนวทางการเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันเอามาฝาก ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้เราได้ศึกษาว่าควรรู้อะไรบ้างก่อนจะซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันมาใช้
1.ชนิดของการใช้งาน
ภาพจาก bit.ly/2YnRvEc
โดยทั่วไปหม้อทอดไร้น้ำมันแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ
- แบบตะกร้า (Basket-type Air Fryer): มีตะกร้าสำหรับใส่อาหาร ลมจะผ่านตะกร้าเข้าสู่อาหารจนทำให้สุก แยกน้ำมันส่วนเกินออกจากอาหารลงสู่ส่วนแยกด้านล่างของหม้อ อาหารที่ได้จะมีความแห้งน่ารับประทาน ข้อดีคือตัวเครื่องมีราคาไม่แพง ข้อเสียคือในบางรุ่นอาจจำเป็นต้องกลับด้านหรือคลุกเค้าอาหารด้วยตัวเอง
- แบบใบพาย (Paddle-type Air Fryer): มีใบพายอยู่ที่ส่วนกลางของตัวเครื่อง ในขณะทำงานจะคอยกลับด้านและคลุกเคล้าอาหารให้ลมร้อนสามารถผ่านอาหารได้อย่างทั่วถึง สามารถทำอาหารประเภทซุปได้ด้วย ข้อดีคือไม่ต้องคอยกังวลเรื่องการกลับด้านหรือคลุกเคล้าอาหาร ข้อเสียคือมีราคาที่สูงกว่าชนิดอื่น
- แบบฮาโลเจน (Halogen Air Fryer): ใช้หลอดไฟฮาโลเจนแทนคอยให้ความร้อน แตกต่างจากชนิดอื่น มีตะแกรงสำหรับวางอาหาร น้ำมันส่วนเกินจะถูกแยกลงไปที่ด้านล่างของตัวหม้อ สามารถทำอาหารประเภทอบได้ด้วย ข้อดีคือสามารถมองเห็นอาหารได้ ในขณะที่เครื่องทำงาน เนื่องจากตัวเครื่องมักถูกออกแบบมาให้มีลักษณะโปร่งใส ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูงในบางรุ่น
ภาพจาก bit.ly/37WSI8X
2.ปริมาณความจุของหม้อ
ควรเลือกความจุให้เหมาะสมกับการใช้งาน ปริมาณอาหารที่คุณทำเป็นประจำ หากทำอาหารปริมาณมากในแต่ละครั้ง ก็ควรเลือกหม้อที่มีความจุขนาดใหญ่ 1.2 ลิตร ขึ้นไป หากทำในปริมาณน้อยในแต่ละครั้ง ก็ให้เลือกขนาดเล็กลงมาจะได้ประหยัดเงินในการซื้อด้วย
ภาพจาก bit.ly/37WSI8X
3.ฟังก์ชั่นการใช้งาน
นอกเหนือจากฟังก์ชั่นพื้นฐานหรือการทอดแล้ว หากเราคิดจะทำอาหารประเภทอื่นๆด้วย ก็ให้พิจารณาฟังก์ชั่นเพิ่มเติมที่ต้องการเช่น การอบ การนึ่ง การคั่ว การปิ้ง การย่างและเบเกอรี่ เป็นต้น
4.การทำความสะอาด
ควรเลือกหม้อทอดไม่ใช้น้ำมัน ที่สามารถถอดชิ้นส่วนที่ต้องสัมผัสกับอาหารอยู่เป็นประจำออกมาทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงการทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องส่วนอื่นด้วย
ภาพจาก bit.ly/37WSI8X
5.การรับประกัน
เป็นเรื่องที่เราควรคำนึงถึง ควรเลือกหม้อทอดไร้น้ำมันที่มีอายุการรับประกันตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการใช้งานที่อาจเกิดชำรุดแบบไม่คาดฝันได้
6.จะเก็บหม้อทอดไร้น้ำมันไว้ตรงไหน?
หม้อทอดไร้น้ำมันบางรุ่นความจุเยอะ แต่ปัญหาที่ตามมาคือขนาดที่ใหญ่เทอะทะและหนักอึ้ง บางรุ่นวัสดุเป็นแก้ว อาจไม่เหมาะกับการยกขึ้นลงจากชั้นบ่อย ๆ ตอนไปซื้ออย่าลืมวัดขนาดพื้นที่เก็บไปก่อน และลองเทสต์น้ำหนักเครื่องก่อนตัดสินใจด้วย
ภาพจาก bit.ly/37WSI8X
7.งบประมาณในการซื้อ
ผู้บุกเบิกตลาดหม้อทอดไร้น้ำมันแบบตะกร้า (แบบลิ้นชัก) ก็คือยี่ห้อฟิลิปส์ในชื่อ Philips Air Fryer จากนั้นก็มียี่ห้ออื่นๆ ตามามากมาย แต่ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็จะมีรูปทรงและวิธีการใช้งานที่คล้ายกัน แตกต่างกันที่ฟังก์ชั่นและคุณภาพของวัสดุที่นำมาประกอบยิ่งราคาสูงตัวหม้อทอดก็ยิ่งมีความพรีเมี่ยมมากขึ้นด้วย เช่น การมีระบบควบคุมเป็นแบบดิจิตอล มีการผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพมากกว่าเกรดดีกว่า
ดังนั้น หากถามว่าจะเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันอย่างไรดี ปัจจัยหลักที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อคงหนีไม่พ้น เรื่องงบประมาณที่เราพร้อมจะจ่าย หากต้องการระดับพื้นฐานเน้นประหยัด ไม่เน้นยี่ห้อชื่อดังและฟังก์ชั่นการทำงานอะไรมากมาย ก็เลือกหม้อทอดไร้น้ำมันที่มีราคาถูกประมาณ 2,000 -3,000 บาทก็ซื้อได้แล้ว แต่ถ้าต้องการเน้นคุณภาพการผลิต ฟังก์ชั่นการทำงานที่แม่นยำ และยี่ห้อชื่อดังที่การันตีเรื่องคุณภาพ ก็สามารถซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันได้ที่ราคาตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้เราต้องมั่นใจก่อนว่าเราไม่ได้ต้องการจะซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันเพราะต้องการตามยุคตามสมัย แต่เราต้องการซื้อเพื่อเอามาทำเมนูเพื่อสุขภาพอย่างจริงจัง บางคนเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันมาแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้งานและหันไปใช้กระทะทอด ปิ้ง ย่าง เหมือนที่เคยทำ ก็จะเป็นการลงทุนที่เสียประโยชน์เปล่าๆ ดังนั้นถ้าคิดจะซื้อคือมั่นใจแล้วว่าเราจะต้องได้ใช้งานจริงๆ ไม่ใช่ซื้อมาทิ้งๆไว้ให้อยู่ในตู้หรือชั้นวางของเท่านั้น
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/37RKRsZ , https://bit.ly/2YnRvEc , https://bit.ly/2V7LvO1
อ่านบทความเพิ่มเติม https://bit.ly/3889vWu
