หมัดต่อหมัด! แฟรนไชส์ไหนน่าลงทุน ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว VS โกเด้ง-โฮเด้ง

หากถามว่าแฟรนไชส์ร้านสตรีตฟู้ดหน้าร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาจำนวนมากในประเทศไทย และเป็นคู่แข่งขันที่สมน้ำสมเนื้อกัน คือร้านอะไร เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึงร้านชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว และ ร้านโกเด้ง โฮเด้ง

ทั้งสองแบรนด์เป็นแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวที่คนนิยมลงทุนเปิดร้านมากที่สุด อะไรที่ทำให้ทั้งสองแบรนด์ได้รับความนิยม แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นอย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบครับ

ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว

แฟรนไชส์ไหนน่าลงทุน

ภาพจาก www.chaixi.co.th

ปัจจุบันแฟรนไชส์รถเข็นชายสี่บะหมี่เกี๊ยวมีจำนวน 4,500 สาขาทั่วประเทศ จุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์รถเข็นชายสี่บะหมี่เกี๊ยวเกิดขึ้นจากคุณพันธ์รบ กำลา อดีตเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่ฐานะทางครอบครัวไม่ได้ดีมากนัก ทำให้เรียนหนังสือจบเพียงแค่ ป.4 เท่านั้น และต้องออกมาช่วยครอบครัวทำนา

เมื่อเสร็จจากการทำนา คุณพันธ์รบเริ่มมองหารายได้เพิ่ม มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ทำงานรับจ้างหลายอย่าง เป็นตั้งแต่พนักงานรักษาความปลอดภัย เซลส์ขายน็อต คนทำสวน ไปจนถึงพ่อค้าขายไอศกรีม โดยเฉพาะอาชีพขายไอศกรีม เป็นงานที่เขาบอกว่า เขาได้เรียนรู้เทคนิคในการขายโดยที่เชื่อว่าไม่มีตำราเล่มไหนเคยสอนมาก่อน

จุดหักเหของคุณพันธ์รบเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2535 เมื่อน้องชายชวนไปขายก๋วยเตี๋ยวแถวจังหวัดปทุมธานี โดยช่วงแรกของการขายก๋วยเตี๋ยวก็ประสบปัญหาบ้าง เพราะไม่เคยทำมาก่อน แต่ด้วยความที่มีสายเลือดพ่อค้าอยู่ในตัว ก็มุ่งมั่นและค่อยๆ ปรับปรุงพัฒนาการทำก๋วยเตี๋ยวจนทำให้ลูกค้าหลายคนเริ่มติดใจ

40

ภาพจาก www.chaixi.co.th

สมัยที่คุณพันธ์รบขายก๋วยเตี๋ยว เขาจะไม่มองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ภายในร้านเด็ดขาด อย่างผ้าขี้ริ้วที่ใช้เช็ดโต๊ะ ทำความสะอาดตู้ เขียงที่ใช้หั่นหมูหั่นผัก เขาจะดูแลมันให้สะอาดมากที่สุด เพราะเชื่อว่าเมื่อลูกค้าเห็นผ้าขี้ริ้วและเขียงที่ใช้ในร้าน หลายคนต้องคิดเหมือนกันว่า “ถ้าขนาดผ้าขี้ริ้วและเขียงยังสะอาดขนาดนี้ แล้วอาหารที่ทำจะสะอาดขนาดไหน

ธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวถือว่าไปได้ดี เขาใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็มีเงินเก็บกว่า 600,000-700,000 บาท คุณพันธ์รบจึงนำเงินก้อนนี้ไปต่อยอดธุรกิจ ด้วยการเริ่มผลิตเส้นบะหมี่เพื่อขายเองในร้าน ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เขาสามารถลดต้นทุนวัตถุดิบ แต่ยังสามารถควบคุมคุณภาพของเส้นก๋วยเตี๋ยวได้อีกด้วย เขาได้ตั้งชื่อร้านว่า “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2537

ในปี 2537 มีจำนวนสาขา 1 แห่ง, ปี 2541 จำนวนสาขา 200 แห่ง, ปี 2555 จำนวนสาขา 2,000 แห่ง และในปี 2563 มีจำนวนสาขา 4,500 แห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีทั้งที่เป็นของบริษัทของเขาขยายสาขาเอง และสาขาแฟรนไชส์

39

ภาพจาก facebook.com/chaixibameekiao

ปัจจุบันยังแตกไลน์สู่ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสตรีทฟู้ดอื่นๆ อีกมามาย อาทิ รถเข็นชายสี่พันปีบะหมี่เป็ดย่าง, รถเข็นชายสี่เตี๋ยวไก่ข้าวมันไก่, รถเข็นโจ๊กต้มเลือดหมู, รถเข็นชิ้นเนื้อชายสี่, รถเข็นอาลีหมี่ฮาลาล, รถเข็นชายัง, ชายัง มินิช็อป, รถเข็น ไก่หมุนคุณพัน และ ตู้กาแฟ อารีดอย

ที่สำคัญคือ ปัจจุบันชายสี่บะหมี่เกี๊ยวของคุณพันธ์รบ ไม่ได้มีขายเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายธุรกิจไปเปิดสาขาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา เมียนมา ให้คนที่นั่นได้ลิ้มลองรสชาติด้วย

ผลประกอบการบริษัท ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จำกัด

38

ภาพจาก www.chaixi.co.th

  • ปี 2561 รายได้ 836 ล้านบาท กำไร 25 ล้านบาท
  • ปี 2562 รายได้ 1,045 ล้านบาท กำไร 41 ล้านบาท
  • ปี 2563 รายได้ 907 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท

การลงทุนแฟรนไชส์ รถเข็นชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว

37

ภาพจาก www.chaixi.co.th

  • 43,105 บาท

โปรโมชั่นพิเศษ ปี 2564

  • ฟรี!!! ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 50,000 บาท
  • รถเข็นมูลค่า 37,800 บาท ให้ยืมฟรี !!! ตลอดอายุสัญญา
  • ลูกค้าจ่ายเงินสด ลดค่าอุปกรณ์ทันที 20 %

เงื่อนไขการซื้อแบบผ่อนชำระ

  • ดาวน์ขั้นต่ำ 50 %
  • ที่เหลือผ่อนชำระไม่เกิน 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 15 % ต่อปี

ข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นๆ

  • ค่าลิขสิทธิ์รายปี 4,000 บาท
  • อุปกรณ์สำหรับเริ่มต้นธุรกิจ 60 รายการ ราคา 43,105 บาท
  • วัตถุดิบสำหรับเริ่มต้นธุรกิจ 46 รายการ ราคา 5,000 บาท
  • ลูกค้าต้องใช้สินค้ามาตรฐานตามที่กำหนดเท่านั้น
  • ลูกค้าต้องเข้ารับการอบรมมาตรฐานแฟรนไชส์เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน

โกเด้ง โฮเด้ง

36

ภาพจาก https://bit.ly/3E29i6A

“โกเด้ง-โฮเด้ง” เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ตามหน้าร้านสะดวกซื้อ ตามถนน ตรอกซอกซอย หรือริมทางเท้าทั่วประเทศ เอกลักษณ์ของร้านจะมีสัญลักษณ์ “เปิบพิสดาร” ติดไว้บนป้ายของร้าน เพื่อการันตีถึงความอร่อย แบรนด์ก๋วยเตี๋ยว โกเด้ง-โฮเด้ง อยู่ภายใต้การบริหารของ คุณเลิศพงศ์ ฉัตรมาลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊กบอล ฟู้ด จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 จากร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางบ้านๆ ต่อยอดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ จนปัจจุบันเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

คุณเลิศพงศ์ ฉัตรมาลีรัตน์ เติบโตมาจากครอบครัวชาวสวน ทำอยู่ในพื้นที่เช่าของเพื่อนบ้านในกรุงเทพฯ แต่หลังจากสัญญาเช่าหมดลง ครอบครัวได้ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และเปิดร้านโชห่วยในเวลาต่อมา หลังจากนั้น คุณเลิศพงศ์ได้มาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหลังจากเรียนจบ มีโอกาสเข้าไปทำงานในบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ C.P. Group โดยมีหน้าที่ดูแลการขายอาหารสัตว์และสายพันธุ์สัตว์

หลังจากทำงานได้ 5 ปี ก็ได้ออกมาทำงานในโรงงานขนมตามคำแนะนำของเพื่อน พอทำได้ 5 ปี ก็ค้นพบว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาตามหาบนเส้นทางชีวิต คุณเลิศพงศ์จึงตัดสินใจลาออก พร้อมกู้เงินธนาคารจำนวน 200,000 บาท เพื่อลงทุนเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เพราะความชอบส่วนตัว รวมถึงพี่ชายและน้องชายของคุณเลิศพงศ์ เปิดโรงงานผลิตลูกชิ้นอยู่แล้ว

35

ภาพจาก https://bit.ly/3E29i6A

คุณเลิศพงศ์จึงได้วางเป้าหมายไว้ 2 ส่วนด้วยกัน คือ ใช้ทักษะของตัวเองสร้างยอดขายให้โรงงานผลิตลูกชิ้นของพี่ชายและน้องชาย และ นำลูกชิ้นมาเป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างร้านก๋วยเตี๋ยวตามความฝันของตัวเอง แต่โชคก็เหมือนจะไม่เข้าข้าง เพราะหลังจากผ่านไปไม่นาน พี่ชายและน้องชายก็ไม่ได้ทำโรงงานผลิตลูกชิ้นต่อ

คุณเลิศพงศ์ยังมองว่า ธุรกิจลูกชิ้นยังคงไปต่อได้ จึงตัดสินใจขอซื้อเครื่องจักรผลิตลูกชิ้นเก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อนำมาปรับปรุง จนในที่สุดก็ออกแบบและพัฒนา จนกลายเป็นเครื่องจักรและสูตรลูกชิ้นของตัวเอง ประกอบกับในช่วงที่ทำงานอยู่ในเครือ C.P. คุณเลิศพงศ์ได้มีโอกาสคลุกคลีและพูดคุยกับเกษตรกร จึงทำให้รู้ว่าอาชีพเกษตรกรค่อนข้างลำบาก จากหน้าแล้งและฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้ไม่มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวมากพอ

คุณเลิศพงศ์จึงเกิดไอเดียนำเอาธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง ไปบอกเล่าและสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มเกษตรกรเข้าใจว่า อาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเป็นอีกอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับพวกเขาได้ หลังจากใช้เวลาอยู่นานในการทำให้กลุ่มเกษตรกรเกิดความเข้าใจ จนในที่สุดก็มีคนเปิดใจทำร้านก๋วยเตี๋ยวตามที่คุณเลิศพงศ์บอก

ในช่วงแรกคุณเลิศพงศ์ได้สอนขั้นตอนในการทำก๋วยเตี๋ยว ไม่ว่าจะเป็นสูตรวิธีปรุง การเลือกทำเล การบริการ และอื่นๆ เมื่อมีหนึ่งคนทำได้และพบว่าสร้างรายได้ดี จึงเกิดการบอกต่อในกลุ่มเกษตรกรด้วยกันเอง รวมถึงกลุ่มคนอื่นๆ สุดท้ายจึงเกิดเป็นแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวแบรนด์ “โกเด้ง-โฮเด้ง” ที่เติบโตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

34

ภาพจาก https://bit.ly/3E29i6A

บริษัท บิ๊กบอล ฟู้ด จำกัด ผลิตลูกชิ้นเกรด A ทั้งลูกชิ้นเนื้อและลูกชิ้นหมู โดยพิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพทุกอย่าง ตั้งแต่ขั้นตอนแรก และเนื้อสั่งตรงจากโรงเชือด ที่มีใบรับรองจากกรมปศุสัตว์เท่านั้น โดยผ่านเข้าขบวนการผลิต ด้วยเครื่องจักรอันทันสมัย และได้รับรองมาตรฐานการผลิตอาหาร ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ที่สำคัญสินค้าไม่ใส่สารบอแร็กซ์ คงความสดใหม่ สะอาด ปลอดภัย มีการรับรองคุณภาพจาก คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อรับประกันคุณภาพลูกชิ้นทุกถุง รวมถึงรักษามาตรฐานสินค้าไว้อย่างสม่ำเสมอ

ปัจจุบันแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวโกเด้ง โฮเด้ง รวมทั้งแฟรนไชส์ลูกชิ้นปิ้ง ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจให้กับผู้บริโภคที่ใส่ใจรักสุขภาพ และรองรับการขยายตัวของตลาดในอนาคต

การลงทุนแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยว โกเด้ง โฮเด้ง

33

ภาพจาก https://bit.ly/3E29i6A

  • รถเข็นก๋วยเตี๋ยวโกเด้ง-โฮเด้ง
  • เคาน์เตอร์สแตนเลส
  • รถเข็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-หมูบิ๊กบอล
  • เคาน์เตอร์สแตนเลสลูกชิ้นปิ้ง

รูปแบบของธุรกิจครบชุด

32

ภาพจาก https://bit.ly/3E29i6A

  • ชุดเคาน์เตอร์สแตนเลสก๋วยเตี๋ยว ราคา 50,640 บาท
  • ชุดเคาน์เตอร์อลูมิเนียมก๋วยเตี๋ยว ราคา 40,640 บาท
  • ชุดรถเข็นก๋วยเตี๋ยว 2 หม้อ ราคา 38,250 บาท
  • ชุดรถเข็นก๋วยเตี๋ยว 1 หม้อ ราคา 28,940 บาท
  • ชุดเคาน์เตอร์อลูมิเนียมลูกชิ้นปิ้ง ราคา 17,700 บาท

การจัดส่งสินค้า

31

ภาพจาก https://bit.ly/3E29i6A

บริษัทมีฝ่ายขนส่งสินค้า และตัวแทนจัดจำหน่ายส่งสินค้าทั่วประเทศ โดยเบิกสินค้าจากห้องเย็นของบริษัทฯ เพื่อให้ถึงมือลูกค้า ตามความต้องการของสินค้า ในแต่ละรอบการจัดส่ง แบ่งเป็นสายๆ ด้วยความรวดเร็ว สะอาดตลอดจนอุณหภูมิความเย็นสม่ำเสมอ

ความน่าสนใจลงทุน

  • เชื่อมั่นในคุณภาพและการบริการของแฟรนไชส์
  • เป็นแบรนด์ที่ติดตลาด เพราะปัจจุบันนี้คนเลือกกินอาหาร ด้วยการมองแบรนด์
  • การจัดเตรียมของสินค้า บริษัทฯ จะช่วยลดขั้นตอน การเตรียมลง เพราะมีทีมงาน จัดส่งสินค้าให้ท่านถึงร้าน
  • ไม่มีทำเลขาย บริษัทฯ มีทีมงานแนะนำจัดหาสถานที่ ทำเลขายให้กับท่านได้
  • การลงทุนสามารถที่จะคุยกันได้ ไม่มีเงินก้อนก็ขายไป ผ่อนกันไปตามขั้นตอน
  • รสชาติอาหารอร่อย และมีขายตลอดทั้งคืน
  • สินค้ามีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ Mini Big C, Tops Daliy, The Mall, HomePro, CJ Express, Max Valu, Jiffy, CP Food Market, ตั้งฮั่วเส็ง, ซุปเปอร์ชีบ, ตลาดสดทั่วไป

ผลประกอบการบริษัท บิ๊กบอล ฟู้ด จำกัด

30

ภาพจาก https://bit.ly/3E29i6A

  • ปี 61 รายได้ 368 ล้านบาท กำไร 18 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 466 ล้านบาท กำไร 21 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 461 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท

นั่นคือ 2 แบรนด์แฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวริมทาง รวมถึงหน้าร้านสะดวกซื้อ ที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักลงทุนและผู้บริโภค ด้วยยอดขายกว้าร้อยล้านบาท ทำกำไรหลายสิบล้านบาท


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

แหล่งข้อมูลจาก https://bit.ly/32v5qgj , https://bit.ly/3E6zXPI , https://bit.ly/3E21ZvG

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3Ednk5o

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช