ส่อง 3 ธุรกิจ SMEs โตสวนกระแส!

ช่วงนี้จะลงทุนทำ ธุรกิจ อะไรสักอย่างต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ในเมื่อเศรษฐกิจไม่คล่องตัวดังใจคิด กำลังซื้อก็ไม่แน่นอน ถึงขนาดที่หลายคนมองว่าควรจะชะลอเรื่องการลงทุนกันไปก่อนเลยดีกว่า

www.ThaiSMEsCenter.com ในฐานะที่อยู่ในแวดวงของธุรกิจอาชีพกลับมองว่าในวิกฤติก็ยังมีโอกาส ไม่ใช่ทุกอาชีพที่จะต้องชะลอตัวลงไป บางธุรกิจถ้าเริ่มต้นกันได้อนาคตก็มีทิศทางที่สดใสรออยู่

และนี่คือ 3 ธุรกิจที่พร้อมจะสวนกระแส แม้บางงานอาจจะต้องใช้เงินลงทุนมากสักหน่อยแต่มองผลดีในระยะยาวแล้วการันตีว่าถ้าบริหารจัดการดีๆคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน

1.ธุรกิจการก่อสร้าง

ธุรกิจ
ภาพจาก http://goo.gl/tZcVM9

หลายคนอาจจะมองว่านี่คือการลงทุนขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เงินและความสามารถรวมถึงต้องมีประสบการณ์ในสายงานอย่างโชกโชน แต่ถึงแม้ข้อจำกัดต่างๆจะมีมากแต่เมื่อมองดูภาพรวมของเศรษฐกิจแล้วถือว่า ธุรกิจนี้น่าจะเติบโตอย่างสดใสที่สุด

ยิ่งการเปิดประเทศเป็น AEC ส่งผลให้มูลค่าการลงทุนก่อสร้างในปี 2559 น่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6 และแม้จะต้องสู้กับภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นแต่เมื่อดูรายรับจากงานที่น่าจะมีการก่อสร้างทั้งตึก ถนน ที่พักอาศัย เพิ่มอีกเป็นจำนวนมากในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้หักลบกลบนี้แล้วก็น่าจะเป็นกำไรได้ค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ดีผู้ที่คิดจะทำธุรกิจนี้ไม่จำเป็นต้องมองที่งานใหญ่เพียงอย่างเดียวกับงานปลูกสร้างแบบทั่วไปน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเป็นผู้รับเหมารายย่อยแต่ไม่ว่าจะเป็นผู้รับเหมารายใหญ่หรือรายย่อยสิ่งที่ควรรู้ไว้หากคิดจะทำธุรกิจประเภทนี้คือ
ต้องรู้จักเลือกเจ้าของงานโดยเช็คจากประวัติการว่าจ้างจากผู้รับเหมารายก่อนๆว่ามีประวัติไม่ดีในเรื่องการเบิกจ่ายหรือไม่
ต้องมีความสามารถในการคำนวณต้นทุนรายรับรายจ่ายเพราะถือเป็นหัวใจของธุรกิจนี้ ที่สำคัญเมื่อรับงานแล้วต้องรักษาคุณภาพเนื้องานต้องตามตกลงโดยที่ผู้รับเหมาได้ประโยชน์ด้วย
นี่คือธุรกิจที่มีการเริ่มต้นสูงและควรมีเงินหมุนเวียนในระบบอีกไม่น้อยกว่า 30% เพื่อเอาไว้ใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ
ปัจจัยอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีรายละเอียดอีกพอสมควรแต่หลักใหญ่ใจความคือความรู้และความสามารถเฉพาะตัวรวมถึงไหวพริบที่ดีเพราะงานประเภทนี้ประสบการณ์ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น

2.การขายของออนไลน์

ww4
ภาพจาก http://goo.gl/Raey5G

มีการประเมินเบื้องต้นว่ามูลค่าการค้าผ่านระบบออนไลน์ในปีนี้จะมีอัตราเติบโตถึง 3.65 % อันเนื่องมาจากวิวัฒนาการด้านการสื่อสารที่เปลี่ยนรูปแบบทันสมัยมากขึ้น

ผู้คนเองก็เริ่มหันมาสนใจการค้าออนไลน์ตามแบบอย่างชาติตะวันตกมากขึ้นทุกที ส่งผลให้ผู้ประกอบการขายของออนไลน์เพิ่มขึ้นจำนวนมากในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา

และถ้าคิดจะทำธุรกิจนี้ก็ต้องรู้จักจับกลุ่มเป้าหมายให้ถูกต้องเพื่อเลือกสินค้าได้อย่างเหมาะสม โดยสินค้าที่ครองยอดขายอันดับ 1 คือสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที อันดับ 2 คือเครื่องสำอาง แฟชั่น และความงาม อันดับ 3 คือกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน

ทั้งนี้เรื่องเทคนิคก็เป็นสิ่งสำคัญเรื่องที่ควรรู้หลายประการเพื่อให้การเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ผลดีที่สุดคือ
ต้องรู้จักการใช้ระบบเครือข่ายและคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สร้างเอกลักษณ์และการจดจำให้เร็วที่สุด
การจัดส่งสินค้าและบริการหลังการขายเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลเรื่องรายได้พบว่าผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ด้วยการวางแผนอย่างเป็นระบบและลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังสามารถสร้างรายได้ต่อเดือนเกินกว่า 5,000 บาท/เดือน ถือเป็นธุรกิจสวนกระแสที่ต้นทุนน้อยแต่มีกำไรแน่ๆขอแค่แนวทางในการบริหารจัดการที่ดีๆเท่านั้นเอง

3.ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

ww5
ภาพจาก http://goo.gl/npl5rl

นี่อาจจะเป็นเทรนด์อาชีพมาใหม่ที่น่าสนใจมาก ด้วยแนวโน้มของประชากรผู้สูงวัยที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยมีคนอายุเกินกว่า 65 ปีเพียง 840,000 คนคิดเป็นแค่ 9 % ของประชากรทั้งประเทศ ในปีที่ผ่านมากลับมียอดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเกินกว่า 5,000,000 คนและยังมีแนวโน้มว่าจะสูงได้ถึง 27 ล้านคนในอีกเกือบ 10 ปีข้างหน้า

เมื่อเป็นเช่นนี้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลผู้สูงอายุจึงเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกันจากการศึกษาเรื่องสถานดูแลผู้สูงอายุระยะยาวโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.)และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ระบุว่า พบว่าในเขต กทม. มีจำนวนสถานบริการสูงสุดจำนวน 68 แห่ง ซึ่งถือว่ายังไม่เพียงพอสำหรับความต้องการที่จะมากขึ้นในอนาคต

และคนที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ต้องเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง เช่นการดูแลและบริการรวมถึงการช่วยเหลือผู้สูงอายุในลักษณะต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีการอบรมและมีใบอนุญาตสำหรับผู้ที่อยากเปิดกิจการประเภทนี้

นอกจากนี้การลงทุนในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือที่จำเป็นต่างๆ ก็มีความสำคัญมากดังนั้นต้นทุนในการเริ่มธุรกิจจึงค่อนข้างสูงมากแต่มองดูรายได้แล้วระยะยาวก็มีความสดใสไม่น้อยทีเดียว

การคิดค่าบริการในธุรกิจประเภทนี้จะเริ่มตั้งแต่ 12,000 – 20,000 บาท/เดือน/คน ยิ่งถ้าเป็นสถานประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือมากคนที่ใช้บริการก็จะยิ่งมาก อาจจะได้ทั้งแบบรายวันและรายเดือน เฉลี่ยต่อเดือนก็มีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 500,000-600,000 บาท ขึ้นอยู่กับการประชาสัมพันธ์และคุณภาพในการบริการเป็นสำคัญ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด