ส่อง! 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2560

มาแล้ว! ธุรกิจดาวรุ่ง และดาวร่วง ในปี 2560 มีธุรกิจไหนบ้างน่าลงทุน ธุรกิจไหนควรเลี่ยงเลี่ยง ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ในปีหน้า ต้องศึกษา ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ลงทุนธุรกิจนี้ไปแล้วจะประสบความสำเร็จไหม จะขายได้ไหม จะมีลูกค้ารองรับไหม ถือเป็นเรื่องปวดหัวของใครหลายคนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาคุณไปส่องดูว่า ธุรกิจไหนรุ่ง ธุรกิจไหนร่วง ในปี 2560 ควรลงทุน หรือควรหลีกเลี่ยง ที่เปิดเผยผลวิจัยโดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ก่อนที่จะเลือกลงทุนทำธุรกิจใดๆ จะได้ไม่ผิดหวัง

โดยหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการวิจัย 10 อันดับธุรกิจเด่นปี 2560 ได้วิเคราะห์จากปัจจัยด้านยอดขาย ต้นทุน กำไรสุทธิ ความนิยม และความสามารถในการรับปัจจัยเสี่ยง จากคะแนนรวม 100 คะแนน สรุปได้ดังต่อไปนี้

“ธุรกิจความงาม – E-Commerce” ดาวรุ่งปี 2560

ธุรกิจดาวรุ่ง

  1. ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม
  2. ธุรกิจเครื่องสำอาง และครีมบำรุงผิว
  3. ธุรกิจ E-Commerce
  4. ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
  5. ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง
  6. ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
  7. ธุรกิจบริการทางการเงิน
  8. ธุรกิจโมเดิร์น เทรด ธุรกิจประกันภัยและธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจออแกไนซ์
  9. ธุรกิจซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจการศึกษา
  10. ธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี

ธุรกิจเกี่ยวข้องเมกะเทรนด์โลก โตต่อเนื่อง

op4

จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า ธุรกิจดาวเด่นในปี 2560 เป็นไปตามเมกะเทรนด์ของโลกที่มี 4 ตัวหลัก คือ ดิจิตอลที่ทำให้กลุ่มอี-คอมเมิร์ซ และบริการทางการเงินแบบฟินเทคมาแรง

ขณะที่ การเป็นสังคมเมือง จะทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ให้ความสำคัญกับการศึกษา สังสรรค์กับครอบครัวนอกบ้าน มีการซื้อสินค้าในห้างโมเดิร์นเทรดมากขึ้น

รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ การออมเงินและการประกันโต และสุดท้าย คือ กระแสกรีน ที่ทำให้การรักษ์สุขภาพจะเด่นชัดขึ้น

นอกจากนี้ ธุรกิจดาวเด่นยังได้รับผลดีจากนโยบายของรัฐ ทั้งนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ไทยแลนด์ 4.0 ที่ช่วยส่งเสริมและเติมเต็มในหลายๆ ธุรกิจ เช่น อี-คอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว บริการการเงิน

ขณะที่นโยบายส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และการอัดฉีดงบกลางลงสู่ 18 กลุ่มจังหวัด ก็จะมีผลต่อการลงทุน การค้าชายแดน

ซึ่งส่งผลดีต่อ ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจออแกไนซ์ และธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชีในการทำการค้ากับต่างประเทศ

“ธุรกิจจัดการตลาดนัด ตลาดสด” ร่วง! พลิกโผไม่ติด 1 ใน 10 อันดับ

op2

อย่างไรก็ตาม การสำรวจในปี 2559 พบว่า ธุรกิจเด่นที่เคยติดอันดับ 1 ใน 10 ของปี 2559 กลับไม่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจเด่นในปี 2560 ได้แก่ ธุรกิจจัดการตลาด ทั้งตลาดนัด ตลาดสด ตลาดนัดกลางคืน,

ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ, ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์และสมุนไพรธรรมชาติ, ธุรกิจออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนส สนามกีฬา และธุรกิจพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน

ส่วนธุรกิจเด่นในปี 2560 ที่ไม่ติด 1 ใน 10 ธุรกิจเด่นในปี 2559 ได้แก่ ธุรกิจบริการทางการเงิน, ธุรกิจ Modern Trade, ธุรกิจออแกไนซ์, ธุรกิจซ่อมและจำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี

“ธุรกิจฟอกย้อม หัตถกรรม สิ่งพิมพ์ เช่าวิดีโอ” อาการโคม่าในปี 2560

op3

ภาพจาก goo.gl/HwNZW3

  1. ธุรกิจฟอกย้อม
  2. ธุรกิจหัตถกรรม
  3. ธุรกิจนิตยสาร หนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์
  4. ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ
  5. ธุรกิจร้านเช่าวิดีโอ ซีดี
  6. ธุรกิจสิ่งทอ ผ้าผืนที่ไม่เน้นงานฝีมือ ตัดเย็บทั่วไป
  7. ธุรกิจจัดทำโปสเตอร์
  8. ธุรกิจโรงไม้
  9. ธุรกิจตัดและซ่อมรองเท้า ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นแบบดั้งเดิม
  10. ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร

“ธุรกิจไม่พัฒนา แข่งขันสูง” ปัจจัยเสี่ยงทำธุรกิจโคม่า

op1

ภาพจาก goo.gl/BtwZkT

เห็นได้ว่า ธุรกิจดาวร่วง ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ไม่มีการพัฒนา โดยเฉพาะกลุ่มฟอกย้อม หัตถกรรม รองเท้าและสิ่งทอที่ตัดเย็บทั่วไป ซึ่งกลุ่มนี้จะถูกสินค้าจากจีนที่มีต้นทุนต่ำกว่าเข้ามาตีตลาด

ส่วนธุรกิจนิตยสารและหนังสือ ภายใน 2 ปีนับจากนี้ จะเป็นช่วงที่เหนื่อยมากของธุรกิจกลุ่มนี้ โดยเฉพาะนิตยสารที่มีความเฉพาะอาจต้องปรับตัวหนัก

เนื่องจากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่หันไปอ่านผ่านอี-บุ๊ก และอี-แมกกาซีนมากขึ้น ซึ่งต้องเป็นกลุ่มที่เข้าถึงตลาดทั่วไป (แมส) หรือมีฐานใหญ่ในต่างจังหวัดที่ยังเข้าถึงเทคโนโลยีมากนัก จึงจะอยู่ได้

ได้เห็นแล้วว่า การจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่งและดาวร่วงในปี 2560 ของมหาวิยาลัยหอการค้าไทย ธุรกิจความงามยังครองแชมป์ รองลงมาธุรกิจเครื่องสำอาง มาแรงได้รับความนิยมตามเทรนด์ความต้องการของโลก แต่ทั้งนี้ หากธุรกิจจะเด่นและดีขึ้นได้ จะต้องมี 4 องค์ประกอบ คือ

  1. ปรับโครงสร้าง ที่เน้นการสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ การค้าขายเกิดขึ้นตามภูมิภาคมากขึ้น
  2. ปรับสมดุล โดยผู้ผลิตจะปรับสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด
  3. ปรับจากอนาล็อกสู่ดิจิตอล และ
  4. ปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ให้ทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช