สปอยล์หนัง The Wolf of Wall Street (คนจะรวยช่วยไม่ได้)

*** หนังเรื่องนี้มีการนำเสนอประเด็นลามก การใช้ยาเสพติดและการใช้คำพูดที่หยาบคาย

พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย การสปอยหนังที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! หนังเรื่อง The wolf of wall street นั้น เป็นหนังที่สร้างจากหนังสืออัตชีวประวัติตามชื่อหนังเลยก็คือ “The Wolf Of Wall Street ซึ่งเขียนโดย จอร์แดน เบลฟอร์ท หนังสือเล่มนี้มีการตีพิมพ์

เมื่อปี 2007 จอร์แดน เบลฟอร์ท เป็นอดีตนายหน้าค้าหุ้นและก่อตั้งบริษัทโบรกเกอร์เถื่อนที่สามารถทำเงินได้กว่าร้อยล้านดอลลาร์ด้วยกัน แต่เงินที่ได้มานั้นล้วนแล้วมาจากการฉ้อโกงและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปั่นหุ้น โดยปัจจุบันเขาเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แต่เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมานั้น เขาได้สร้างวีรกรรมเจ็บแสบเอาไว้มากมาย จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองไล่ดูกันเลย

คนจะรวยช่วยไม่ได้

ภาพจาก bit.ly/2TUYouF

เปิดเรื่องนั้น จอร์แดนได้โฆษณาบริษัทของตัวเองชื่อ สแตร์ตัน โอ็คมอนท์ ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยเขาได้อธิบายถึงความเป็นไปมาในช่วงที่เขาได้เริ่มเข้าสู่ถนนวอลสตรีทพร้อมกับฉายภาพไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอันเสเพลของเขาไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาเสพติด รวมไปถึงเล่นพิเรนท์อย่างเช่น เล่นยาบนเฮลิคอปเตอร์ อีกทั้งเขายังโม้อีกด้วยว่า เขาเล่นยาปริมาณเท่ากับประชาชนชาวนิวยอร์ก และเขาก็กล่าวอีกว่า เงินคือยาเสพติดที่เขารักมันมากที่สุด

41

ภาพจาก bit.ly/2WnnNyV

เรื่องราวย้อนกลับไปเมื่อจอร์แดนอายุได้ 22 ปี เขาได้เริ่มงานเป็นนายหน้าค้าหุ้นและได้คุยกับนายใหญ่ที่มีน้ำเสียงดีและเรียบง่ายอย่าง มาร์ค ฮันน่า พร้อมกับหัวหน้าอีกคนที่มีบุคลิกแตกต่างไปจากมาร์คโดยสิ้นเชิงก็คือ ปีเตอร์ เดบลาสิโอ โดยจอร์แดนได้ใช้เวลาวิเคราะห์และสังเกตว่า พนักงานแต่ละคนมีการคุยและทำงานกันอย่างไร ในช่วงที่จอร์แดนกินข้าวกลางวันกับมาร์คนั้น มาร์คได้ถ่ายทอดวิชาแห่งวอลสตรีทให้กับจอร์แดนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการชักชวนลูกค้าเข้ามาซื้อขายหุ้นไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหนก็ตามเพื่อให้ลูกค้าซื้อหุ้น รวมไปถึงวิธีการแปลก ๆ เช่น ทำการขัดจรวดวันละ 2 ครั้งเช้า-กลางวัน และต้องเสพโคเคนที่เขาเชื่อว่า จะทำให้นิ้วกดโทรศัพท์เรียกลูกค้าเร็วขึ้น

40

ภาพจาก bit.ly/2TTtoew

6 เดือนต่อมา จอร์แดนเริ่มทำการศึกษาวอลสตรีทอย่างจริงจัง และเริ่มทำการสอบใบอนุญาตการเป็นโบรกเกอร์ โดยเขาได้เริ่มงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 1987 แต่โชคไม่ข้างเขาเมื่อตลาดหุ้นมีการปรับตัวดลงอย่างหนัก หรือเรียกเหตุการณ์นั้นว่า Black Monday บริษัทนายหน้าที่จอร์แดนทำอยู่ประสบปัญหาอย่างหนักจนปิดตัวลง แน่นอนจอร์แดนต้องเตะฝุ่นกลับบ้าน เมื่อภรรยาจอร์แดนรู้เรื่องดังกล่าว เธอได้เสนอจำนำแหวนแต่งงานในช่วงที่เขาหางานใหม่ในหนังสือพิมพ์ และแล้วเขาก็ไปสะดุดตากับงานใน ลอง ไอแลนด์ชื่อ ศูนย์การลงทุน (Investor Center)

39

ภาพจาก bit.ly/3cWu8al

เมื่อจอร์แดนได้มาถึงศูนย์การลงทุน จอร์แดนพบว่ามันเป็นสถานที่ดูแล้วไม่มีความเป็นมืออาชีพเอาเสียเลย จอร์แดนได้พบกับ ดเวน ซึ่งเป็นผู้ดูแลศูนย์การลงทุน ดเวนได้มอบหมายให้จอร์แดนเสนอขายหุ้นบริษัทแอโรไทน์ และเขาจะได้รับค่านายหน้าถึง 50 % จอร์แดนจึงเห็นโอกาสทองตรงนี้แล้ว เขาจึงใช้ทักษะทางวาทศิลป์ได้โทรหาลูกค้าเพื่อเสนอขายหุ้น ด้วยทักษะการโน้มน้าวลูกค้าอย่างเหนือชั้น ทำให้ทุก ๆ คนในบริษัททั้งหมดต่างมองเขาด้วยความประหลาดใจ และสุดท้ายจอร์แดนก็หลอกขายหุ้นเน่าให้กับลูกค้าคนนั้นได้สำเร็จจนทำให้ทุกคนในที่ทำงานถึงกับทึ่งในความสามารถของเขา

ไม่กี่เดือนต่อมาจอร์แดนได้พบกับชายที่ชื่อดอนนี่ อาโซอฟฟ์ เขาได้กล่าวว่า เขาอยู่ตึกเดียวกับจอร์แดนและตอนนี้เขาทำงานขายเฟอร์นิเจอร์ให้กับเด็ก เขาถามจอร์แดนว่า เขาได้เงินเท่าไร จอร์แดนกล่าวไปว่าก่อนหน้านี้ได้เงินมา 7 หมื่นกว่า ๆ แต่ดอนนี่ไม่เชื่อ ดอนนี่จึงขอหลักฐานยืนยัน จอร์แดนเลยให้ดูหลักฐานดังกล่าว เพียงดอนนี่เห็นหลักฐานปั๊บ ดอนนี่รีบดิ่งโทรไปบอกเจ้านายของเขาทันทีเลยว่า ขอลาออก

38

ภาพจาก bit.ly/39VpCXw

ทั้งสองพบโรงรถเก่า ๆ พวกเขาวางแผนว่า จะตั้งกิจการกันที่นี่ จอร์แดนได้ระดมเพื่อน ๆ มาเข้าร่วมงาน ประกอบด้วย ร็อบบี้ เฟรนเบิร์ด (ชื่อเล่น : พินเฮด”) , อัลเดน คัพเฟอร์เบิร์ก (ชื่อเล่น : ซี ออเตอร์) , เชตเตอร์ มิงค์ , นิกกี้ คอร์ฟออฟ (ชื่อเล่น : รู-กราด) และแบรด โดยเฉพาะแบรดนั้น ถือเป็นนักขายที่มีความสามารถสูง โดยจอร์แดนได้ให้แบรดพิสูจน์ขายปากกาให้เขา แบรดก็บอกว่า ช่วยเขียนอะไรลงไปหน่อย จอร์แดนบอกว่า เขาไม่มีปากกา และแบรนดก็บอกว่า “ก็ซื้อปากกานี่ไปสิ” ซึ่งทำให้ทุก ๆ คนเริ่มเข้าใจในวิถีในการทำธุรกิจมากขึ้น

จากนั้นจอร์แดนได้ก่อตั้งบริษัทชื่อ บริษัทสแตร์ตัน โอ็คมอนท์ โดยเริ่มแรกจอร์แดนวางแผนที่จะเสนอขายหุ้นขนาดใหญ่อย่าง หุ้นดิสนี่ย์, หุ้น AT & T และหุ้นไอบีเอ็มเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าก่อน แล้วจากนั้นเริ่มเสนอหุ้นเน่าให้กับลูกค้าหลังจากนั้น โดยทุก ๆ คนจะต้องประจำตำแหน่งบนโต๊ะ พูดตามที่จอร์แดนได้เขียนเอาไว้ โดยจอร์แดนได้ทดสอบหลักปฏิบัติจริงโดยเสนอขายหุ้นโกดักส์ให้กับเหยื่อลูกค้าผู้โชคร้ายรายหนึ่งเพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่าง

37

ภาพจาก bit.ly/2WgHhoM

จากนั้นไม่นานบริษัทสแตร์ตันเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นบริษัทนายหน้าค้าหุ้นแถวหน้าและประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด บริษัทจึงได้จัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยงและสุดพิเรนท์ไม่ว่าจะเป็นการให้ผู้ช่วยสาวคนหนึ่งโกนหัวแลกกับเงิน $10,000 เพื่อไปเสริมหน้าอก รวมไปถึงจัดกลุ่มโสเภณีเข้ามาร่วมงานปาร์ตี้ของบริษัท

บริษัทสแตร์ตัน โอ็คมอนท์ประสบความสำเร็จสุดขีดเมื่อหนังสือพิมพ์ Forde ได้นำเรื่องราวของบริษัทมาเล่น จนทำให้เจ้าหน้าที่ FBI ที่มีความเที่ยงตรงสูงอย่างแพททริค เดนแฮม เริ่มติดตามพฤติกรรมของจอร์แดน โดย Forde ได้ให้ฉายยาจอร์แดนว่า “โรบินฮู๊ดขี้โกง” และให้ฉายยาว่า “หมาป่าแห่งวอลสตรีท” เมื่อจอร์แดนเห็นตอนแรกก็รู้สึกโกรธ แต่ภรรยาของเขาก็ปลอบใจว่า มันไม่ได้เป็นฉายยาที่เลวร้ายอะไร

36

ภาพจาก bit.ly/2vspf80

จอร์แดนได้จัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยงอีกครั้งที่บ้านพักตากอากาศ แล้วเขาได้รู้จักนาโอมิครั้งแรกจากเพื่อนสาวคนหนึ่ง เขาได้แนะนำตัวเองพร้อมกับชักชวนไปเล่นสกี แล้วคืนหนึ่งจอร์แดนได้พานาโอมิกินข้าวเย็น ตอนแรกจอร์แดนจะพาเธอขึ้นบ้าน แต่เธอกลับเชิญให้เขามาที่อพาร์ทเมนท์ของเธอเพื่อดื่มชา จอร์แดนรู้สึกสับสนหนักที่กำลังคิดนอกใจภรรยา

ซึ่งขณะเดียวกันภรรยาส่งข้อความทางเพจเจอร์ของจอร์แดนเพื่อให้กลับบ้าน จากนั้นจอร์แดนเห็นนาโอมิแล้วจึงทนแรงยั่วยุไม่ไหว แล้วทั้งสองต่างก็แอบคบกันจนกระทั่งภรรยาของจอร์แดนจับได้ และจากนั้นจอร์แดนได้หย่าขาดกับภรรยาอีก 3 วันต่อมา

จอร์แดนเริ่มหาแนวทางในการฟอกเงิน เนื่องจากเขารู้ดีว่าเงินพวกนี้เป็นเงินผิดกฎหมาย เขาจึงทำการวางจ้างทนายความอย่างแมนนี่ ริสคิน เพื่อทำให้เงินพวกนี้เป็นเงินสะอาด สิ่งที่จอร์แดนให้ความสำคัญตอนนี้ก็คือ เขาต้องการทำเงินให้ได้มากขึ้นกว่าเดิมที่เป็นอยู่

35

ภาพจาก bit.ly/2TTwD5z

จอร์แดนได้ขอนาโอมิแต่งงานและจัดงานแต่งแบบใหญ่โต แต่ก่อนที่จอร์แดนจะแต่งงานนั้น จอร์แดนได้จัดงานปาร์ตี้สละโสดสุดเหวี่ยง ไม่ว่าจะจัดงานปาร์ตี้บนเครื่องบิน ซึ่งเต็มไปด้วยโสเภณีกับโคเคนเต็มเครื่อง จนกระทั่งผ่านไป 18 เดือน ทั้งสองต่างมีลูกสาวให้กัน

จอร์แดนได้พบกับสตีฟ แมดเดนในวันประชุมหุ้น IPO โดยทางสตีฟได้เสนอผลิตภัณฑ์รองเท้ารุ่นล่าสุด จอร์แดนอยากให้สตีฟร่วมธุรกิจกับเขา ซึ่งเขาก็ตอบตกลง แล้วจากนั้นจอร์แดนได้กล่าวบทพูดโดยใช้ความร่ำรวยเป็นเครื่องมือปลุกใจในการให้พนักงานทำงานให้กับบริษัทของเขาเดินหน้าต่อไป

ต่อมาทางด้าน FBI ได้ส่งหมายศาลไปยังบริษัทเพื่อขอดูวิดีโองานแต่งของจอร์แดน จอร์แดนไม่ได้หวั่นไหวต่อเรื่องนี้ เขาได้ให้รายชื่อทุก ๆ คนที่เข้าร่วมงานแต่งให้กับเจ้าหน้าที่เดนแฮม ในขณะที่ทั้งสองพูดคุยกัน จอร์แดนพยายามใช้วาทศิลป์โน้มน้าวทางเจ้าหน้าที่เดนแฮม โดยยกกรณีตัวอย่างของพนักงานรายหนึ่งที่ได้ใช้เงินผ่าตัดรักษาแม่ของเขาหลังจากที่ได้ทำงานร่วมกับจอร์แดน แต่เดนแฮมอ่านเกมออกว่า จอร์แดนพยายามติดสินบนกับเขา จอร์แดนหัวเราะกลบเกลื่อนพร้อมกับไล่เจ้าหน้าที่ลงเรือไป พร้อมกับเขวี้ยงเงินประชดใส่เจ้าหน้าที่

34

ภาพจาก bit.ly/2vnCZRh

จอร์แดนตัดสินใจเก็บเงินในบัญชีเอาไว้ในต่างประเทศโดยเดินทางไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์แต่ระหว่างขึ้นเครื่อง จอร์แดนเสียสติจากการเสพยาเกินขนาด เมื่อเสร็จธุระจากสวิตเซอร์แลนด์แล้ว จอร์แดนได้เดินทางไปยังประเทศอังกฤษเพื่อโน้มน้าวให้ป้าของนาโอมิเก็บเงินบางส่วนเอาไว้ แต่เนื่องจากเงินของจอร์แดนมีจำนวนมากเกินกว่าที่ป้าของนาโอมิจะรับไหว จอร์แดนตัดสินใจให้แบรดช่วย โดยแบรดได้ใช้ภรรยาของเขาทำการลักลอบเงิน โดยร่วมมือกับครอบครัวของภรรยาของแบรดอีกที ในขณะที่แบรดกับดอนนี่กำลังทำงานกันอยู่นั้น ทั้งสองต่างมีปากเสียงจนเรื่องโป๊ะแตกขึ้นมาเมื่อแบรดได้สะดุดกระเป๋าที่บรรจุเงินอยู่ ทำให้แบรดโดนจับกุมไป

หลายวันต่อมา จอร์แดนได้กลับมาที่บริษัทอีกครั้ง พร้อมกับประกาศว่า จะลงจากตำแหน่งลงไป เขาได้ปลุกใจโบรกเกอร์พร้อมกับสั่งลา ซึ่งทำให้โบกรเกอร์หลายคนแสดงอาการเสียใจออกมา แต่สุดท้ายเขาเปลี่ยนใจกลับมายืนอยู่ในตำแหน่งต่อ เสียงเชียร์ของโบรกเกอร์ดังสนั่นกลับมาอีกครั้ง

33

ภาพจาก bit.ly/2TV5RKd

จอร์แดนได้จัดงานบนเรือยอร์ชอีกครั้งหลังจากที่แบรดได้ปล่อยตัว ต่อมาแบรดได้ขอลาออกจากธุรกิจ ซึ่งจอร์แดนเองได้บอกกับผู้ชมว่า เขาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ 2 ปีต่อมา

จอร์แดนกับดอนนี่ได้พาภรรยาของพวกเขาไปจัดงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยงอีกครั้งในประเทศอิตาลี ในขณะที่ทั้งสองกำลังดื่มเมาอยู่นั้น รูเก็ตได้โทรมาบอกพวกเขาว่า สตีฟ แมดเดนไม่ได้โอนหุ้นมาให้หลังจากที่รู้เรื่องราวปัญหากฎหมายที่จอร์แดนกำลังประสบอยู่ แล้วสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงอีกเมื่อนาโอมิบอกกับจอร์แดนพร้อมกับปล่อยโฮออกมาว่า ป้าของนาโอมิได้เสียชีวิตจากการเป็นโรคหัวใจ จอร์แดนรู้สึกสับสนไปหมด แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือ พบว่าเงินที่ฝากเอาไว้กับป้าของนาโอมินั้น ยังไม่ได้เข้าบัญชีเงินฝาก แต่โชคดีที่ก่อนป้าของนาโอมิเสียชีวิตนั้น ป้าของเธอได้ทำพินัยกรรมมอบเงินทั้งหมดนี้ให้กับจอร์แดน นั่นทำให้เขาต้องรีบดิ่งไปยังสวิตเซอร์แลนด์โดยทันที

2 ปีต่อมา จอร์แดนได้ทำโฆษณาสัมมนาการเงิน โดยมีเบอร์ต่อสายตรงปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ ระหว่างที่เขากำลังอัดโฆษณาอยู่นั้น เจ้าหน้าที่เดนเฮมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นได้เข้ามาจับกุมเขา และเพื่อน ๆ ของเขาเองก็ถูกจับกุมด้วยเช่นกัน แต่เป็นข้อหาที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับบริษัทของจอร์แดนแต่อย่างใด

หลังจากนั้นจอร์แดนกับทนายของเขาได้พบกับเดนแฮมกับทนายความอีกฝ่ายหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามยื่นข้อเสนอให้ทางจอร์แดนเป็นสายให้กับทาง FBI และให้จอร์แดนติดเครื่องดักฟังเพื่อกล่าวหาผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่น ๆ ที่เหลือ

32

ภาพจาก bit.ly/2TTpnXu

มาถึงตอนนี้จอร์แดนกับนาโอมิเริ่มมีปัญหากันแล้ว โดยเธอบอกว่า เธอต้องการหย่าและเธอต้องการเอาลูกของเธอไปอยู่ด้วย และไม่มีทางที่เธอจะกลับมารักจอร์แดนได้อีก ทำให้จอร์แดนฟิวส์ขาดและเรียกเธอว่าอีตัว เธอเลยตบหน้าเขา แล้วเขาก็ตบหน้าเธอกลับอย่างแรง ซึ่งจอร์แดนพยายามเอาลูกของตัวเองไป แต่ปรากฏว่าเขาขับรถเสียหลักจนทำให้บาดเจ็บที่หัว นาโอมิจึงใช้จังหวะนี้เอาลูกของเธอคืนไป

จอร์แดนกลับมาเข้าบริษัทอีกครั้ง พร้อมกับเสียงเชียร์อันดังกึงก้องของพนักงาน โดยในขณะที่จอร์แดนกำลังนั่งกินข้าวพูดคุยกับดอนนี่นั้น จอร์แดนได้เขียนใส่แผ่นกระดาษให้ดอนนี่ดูว่า “อย่าเพิ่งพูดอะไรออกมา ตอนนี้ฉันใส่เครื่องดักฟังอยู่” ทำให้ดอนนี่ไหวตัวทันเลยแกล้งบอกไปว่า เขาจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

31

ภาพจาก bit.ly/33lnxl9

และแล้ว FBI ก็มาถึงบ้านของจอร์แดนพร้อมกับจับกุมเมื่อพวกเขาพบโน้ตที่เขาให้กับดอนนี่ ซึ่งการจับกุมผู้สมรู้ร่วมคิดทุกคนนั้น เป็นไปอย่างราบรื่น จอร์แดนถูกศาลตัดสินจำคุกไป 36 เดือน แม่ของจอร์แดนร้องไห้ออกมาเมื่อศาลตัดสินให้เขาจำคุก จอร์แดนได้ยอมรับว่า เขารู้สึกแปลกใจเมื่อมาอยู่ตรงจุดนี้ เขากล่าวว่า เขาลืมตัวเพราะเขารวย แล้วตอนนี้เขากลับมาทำงานที่ถนัดก็คือ งานการขาย

30

ภาพจาก bit.ly/2WhXJ84

ฉากสุดท้ายเป็นงานสัมมนาในเมืองโอ๊คแลนด์ (แต่สังเกตได้ว่า ผู้บรรยายงานนั้นคือจอร์แดน เบลฟอร์ทตัวจริง) และแล้วจอร์แดนเดินออกมาและก็เดินไปหาชายคนหนึ่ง เขาเอาปากกาออกมาและบอกกับเขาว่า ช่วยขายปากกานี้ให้ผมหน่อย ชายคนนั้นรู้สึกแปลกใจแล้วก็พูดเพื่อโน้มน้าวให้ขายปากกาก่อนที่จอร์แดนเก็บปากกา แล้วเขาก็เดินถามคนอื่นแบบเดียวกันไปเรื่อย ๆ

แล้วหนังก็จบลงเพียงเท่านี้ แม้ว่าหนังสือเรื่องนี้จะมีความยาวกว่า 3 ชั่วโมง แต่หนังเรื่องนี้เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะยังมีหนังสืออัตชีวประวัติของเขาอีกก็คือ “Catching the Wolf of Wall Street” ซึ่งเป็นหนังสือที่ถ่ายทอดชีวประวัติของเขาหลังจากที่ได้ถูกจับกุมไปแล้ว ซึ่งเจ้าตัวเองเคยบอกว่า ในชีวิตจริงของเขานั้น ยิ่งกว่าในหนังเสียอีก

หนังเรื่องนี้แม้ว่ามีการนำเสนอประเด็นลามก ยาเสพติดและการใช้คำพูดที่หยาบคายมาก แต่นั่นเป็นการถ่ายทอดสะท้อนบุคคลในชีวิตตัวตนจริง ๆ ให้ผู้ชมรับรู้ และทำให้เราเข้าใจได้ว่า แม้ว่าเขาเคยทำผิดมาก่อน พวกเขาควรที่จะได้รับโอกาสให้มีที่ยืนบนสังคมอีกครั้ง ซึ่งเห็นได้จากการที่เขาเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2xLe3nD

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช