สปอยล์หนัง The Founder

พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย สปอยล์หนัง ที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! The Founder เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงประวัติของเรย์คล็อก จากเซลล์ขายเครื่องทำมิลค์เชค สู่คนที่ทำให้แมคโดนัลด์มีชื่อเสียงโด่งดังและขยายสาขาไปทั่วโลก

โดยในหนังได้จับ “ไมเคิล คีตัน” จากหนังออสการ์ Birdman (2014) มารับบทสุดท้าทายอีกครั้ง กับบท “เรย์ คล็อก” นักธุรกิจผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ชั้นนำของโลก ซึ่งหลายๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าภายใต้สีหน้ายิ้มแย้มของมาสคอตอย่างตัวตลกที่คุ้นตานั้น เรื่องจริงคือเกมธุรกิจ การหักหลังที่ดราม่าเจ็บแสบน่าดู

สปอยล์หนัง

ภาพจาก bit.ly/2QmZblP

หนังเริ่มต้นด้วย เรย์ คร็อก ทำงานเป็นคนขายเครื่องทำมิลค์เชค ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เวลานำเสนอขายต้องบอกลูกค้าว่า อุปทานต้องมาก่อนอุปสงค์เสมอ มีอยู่วันหนึ่งทางได้ออเดอร์ถึง 8 เครื่องจากร้านแมคโดนัลด์ที่ ซานเบอร์นาร์ดิโน ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เรย์ คร็อก ตัดสินใจขับรถข้ามเมืองไปหลายร้อยไมล์จากอิลลินอยไปที่ร้านแมคโดนัลด์

7

ภาพจาก bit.ly/2U9KCTO

แล้วเขาก็ได้พบกับความมหัศจรรย์ของคิวที่ยาวเหยียดของร้านแมคโดนัลด์ ซึ่งเป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ย่านชนบท เป็นร้านร้านอาหารแบบ “Drive in” ลูกค้าทุกคนต้องลงจากรถเพื่อไปต่อแถวซื้ออาหาร ต่อจากนั้นเรย์ก็ทึ่งกับความรวดเร็วในการสั่งแฮมเบอร์เกอร์ มิลค์เชค เฟรนช์ฟราย ได้ในเวลาไม่ถึง 30 วินาที ในราคาทั้งหมดเพียง 35 เซนต์ และได้ถามหาจาน ช้อนส้อม ที่นั่งกินจากพนักงาน และพนักงานก็แนะนำกิจที่ไหนก็ได้ กินเสร็จทิ้งได้ทันที ไม่มีที่นั่ง แต่นั่งกินตามข้างถนน ตามโต๊ะ ที่บ้าน

6

ภาพจาก bit.ly/2WllZ9E

และช่วงที่เขานั่งกินอยู่นั้น แมค แมคโดนัลด์ ที่เดินเข้ามาทักทายเรย์ พร้อมกวาดทำความสะอาดขยะไปด้วย เรย์ได้ให้นามบัตรแนะนำตัวกับทางแมค และแมคก็ได้ชวนเขาเข้าไปเยี่ยมชมวิธีการบริหารจัดการร้านแมคโดนัลด์ของสองพี่น้อง เมื่อเรย์ได้เข้าไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิตต่างๆ เริ่มมีความสนใจธุรกิจร้านอาหารร้านแบบนี้อยู่ลึกๆ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ที่สำคัญบริการรวดเร็ว เรย์จึงวางแผนออกอุบายเลี้ยงข้าวเย็นให้สองพี่น้องแมคโดนัลด์ แล้วให้ทั้งสองเล่าเรื่องราวของร้านแมคโดนัลด์ฟัง

หลังจากทานมื้อค่ำ และได้ฟังเรื่องราวของร้านแมคโดนัลด์จนหนำใจ เรย์ได้กลับมาหาสองพี่น้องแมคและดิ๊กอีกครั้ง และเสนอ การทำแฟรนไชส์ แต่ตอนแรกแมคและดิ๊กไม่สนใจ เพราะทั้งคู่เคยลองทำมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เรย์ไม่ลดละความพยายาม เรย์ได้พูดจนแมคและดิ๊กต้องยอมเรย์ และมีการทำสัญญาแฟรนไชส์ เพื่อป้องกันเรย์เอารัดเอาเปรียบ

5

ภาพจาก bit.ly/2TULpZN

ถัดมาหนังได้นำเสนอถึงการบริหารจัดการจนเรย์เปิดสาขาแฟรนไชส์ร้านแรก และเริ่มคิดวางแผนขายแฟรนไชส์ให้คนอื่นๆ โดยเป็นฉากที่เรย์ และ เอเธล คร็อก ภรรยา กำลังนั่งทาน อาหารกับเพื่อนๆ เศรษฐี และเรย์ โดนดูถูก แต่เอเธลให้กำลังใจเรย์อยู่เสมอ ต่อมาเรย์สามารถขายแฟรนไชส์ให้กับรรดาเศรษฐีที่ชอบเล่นกอล์ฟเพิ่มเรื่อย แต่เรย์ก็ได้พบกับความผิดหวังเมื่อบรรดาเศรษฐีที่ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้ว ไม่เอาใจใส่ดูแลร้านแมคโดนัลด์ ปล่อยสกปรก ไม่มีคุณภาพ และได้ไปตำหนิติเตียนพวกนั้น และได้ไปหาผู้ซื้อแฟรนไชส์กลุ่มอื่นๆ ที่เอาใจใส่ดูแลร้านแมคโดนัลด์เป็นอย่างดี

ในขณะที่แมคโดนัลด์มีสาขามากมาย แม้เรย์จะไม่ได้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาลงมือเหมือนเป็นเจ้าของตัวจริงของแมคโดนัลด์ ทั้งลงพื้นที่สำรวจร้าน เข้าไปดูการทำงานในครัว แม้กระทั่งกวาดขยะหน้าร้านเอง ทำให้เขาได้มองเห็นศักยภาพในตัวลูกน้องหลายๆ คนที่ทำงานด้วยหัวใจของความเป็นเจ้าของธุรกิจเช่นกัน

4

ภาพจาก bit.ly/2ISzGoq

ในเวลาต่อมาเขาก็เลือกคนเหล่านั้น ให้คุมร้านสาขาต่างๆ หลักการคือเขาเลือกคนที่หัวใจ เลือกคนที่มีความทะเยอทะยานเช่นเขาเข้ามาดูแล และในภายหลังคนเหล่านั้นก็ได้ขึ้นมามีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัทด้วย

ในช่วงที่เรย์ขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องครอบครัวก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ภรรยาของเรย์เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ ชอบออกงานสังคม ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเพื่อผลลัพธ์ที่มากขึ้น เขาเพียงแค่ขอให้มีคู่ชีวิตที่ดีก็เพียงพอแล้ว จึงทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ค่อยดีนัก

3

ภาพจาก bit.ly/2ITmmQI

ด้วยความที่ลิขสิทธิ์แฟรนไชส์เป็นของดิ๊กและแมค เวลามีความคิดอะไรใหม่ๆ ต้องผ่านการอนุมัติก่อนเสมอ ทำให้ “เรย์ คล็อก” ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เพราะมันช้า และไม่ได้กำไร ซึ่งสองพี่น้องแมคโดนัลด์ยึดมั่นในอุดมการณ์สูงอะไรที่ทำให้ขัดกับความเป็นแมคโดนัลด์ พวกเขาจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้ได้กำไรเด็ดขาด

แต่เรย์คิดต่าง เพราะเขาเป็นนักธุรกิจ เขาทำทุกอย่างได้เพื่อกำไร รอยร้าวจึงได้ก่อตัวขึ้นทีละเล็กน้อย ส่งผลให้สุดท้ายเรย์ ได้ใช้กลยุทธ์มากมาย จุดแตกหักหนึ่งที่เรย์ไม่พอใจอย่างมาก คือ ปัญหาของแฟรนไชส์หลายๆ เจ้านั้น มาจากต้นทุน ต้นทุนค่าไฟห้องแช่นมสดสำหรับทำ “มิลค์เชค” สูงมาก จนทำให้มีกำไรน้อยหรือขาดทุน

ผู้ถือแฟรนไชส์รายหนึ่งจึงเสนอให้ใช้ “ผงมิลค์เชค” แทน ซึ่งลดต้นทุนดูมากมายมหาศาล อีกทั้งการทำก็รวดเร็ว และรสชาติสมจริงด้วย แต่อุดมการณ์ทำให้สองพี่น้องแมคโดนัลด์ ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจสูงสุดไม่ยอมรับ เพราะว่า “มิลค์เชค” ต้องทำจากนมจริงๆ เท่านั้น โครงการนี้จึงถูกพับไป

1

ภาพจาก bit.ly/3d6TGSc

ในเวลาต่อมา เรย์ คร็อก ได้เจรจาขอซื้อสิทธิ์ทั้งหมดของแมคโดนัลด์จากสองพี่น้อง รวมถึงร้านสาขาแรกของแมคโดนัลด์ของดิ้กและแมค ด้วยเงินจำนวน 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสองพี่น้องคู่นี้ ได้เรียกร้องเงินค่าลิขสิทธิ์ 1% ของกำไรอีกด้วย

แต่เนื่องจากเรย์หัวหมอ อ้างว่าถ้ามีเรื่อง 1% อยู่ในสัญญาจะทำให้เขาเจรจากับนายทุนคนอื่นๆ ลำบาก จึงเจรจาขอเป็นสัญญาแบบปากเปล่าแทน แต่สองพี่น้องไม่ยอมให้ร้านสาขาแรกที่สร้างขึ้นมากับเรย์ และสุดดท้ายแล้ว สองพี่น้องแมคโดนัลด์ก็ไม่เคยได้รับส่วนแบ่งใดๆ อีกเลย อีกทั้งถ้าสองพี่น้องนี้ได้ยอมรับข้อตกลงแรกที่ทำกับ เรย์ คร็อก พวกเขาหรือทายาทของพวกเขาจะได้เงินส่วนแบ่งเป็นจำนวนเกินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีในปัจจุบัน

2

ภาพจาก bit.ly/2TY5EpM

ส่วนชะตากรรมของสองพี่น้องแมคโดนัลด์ หลังจากที่ไม่มีสิทธิ์แฟรนไชส์ของแมคโดนัลด์อีกต่อไป สองพี่น้องก็เปลี่ยนชื่อร้านใหม่ว่าเป็น “The Big M” ซึ่งเวลาต่อมาร้านก็ได้ปิดกิจการไป เพราะมีร้านแมคโดนัลด์ของเรย์มาเปิดสาขาฝั่งตรงข้าม

เรื่องราวของหนัง The Founder อยากรวยต้องเหนือเกมหลักๆ ก็มีเพียงเท่านี้ ดูแล้วได้เห็นไอเดียเจ๋งๆ ของคนยุคนั้นมากมายเนื้อเรื่องเป็นการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันทางธุรกิจเข้มข้นพอสมควร ครึ่งแรกเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ทำให้หิวแฮมเบอร์เกอร์เลย มาครึ่งหลังเรียกได้ว่าแสบสันต์มาก

โดยเรย์มักเปรียบเทียบกับคำถามว่า “ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน” ทำให้ได้ข้อคิดว่าระหว่างคนคิดค้นขึ้นมาคนแรกว่าไม่คิดขยายสาขา กับคนที่ทำให้มันโด่งดังและมั่นคงไปทั่วโลก ใครจะถือเป็นผู้ก่อตั้งแมคโดนัลด์อย่างแท้จริง ต้องไปพิสูจน์กัน!!!

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3cb0mTr

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช