รู้ไว้ก่อนลงทุนข้อดีแต่ละประเทศ CLMV

หลังจากที่เปิด AEC กันไปพักใหญ่ดูเหมือนว่าการลงทุนหลายอย่างจะเปิดกว้างมากขึ้นแต่ทั้งนี้ รูปแบบของ AEC ก็ยังไม่ชัดเจนในการลงทุนมากนักแต่อย่างน้อยก็เปิดโอกาสให้นักลงทุนจากเมืองไทยเข้าไปแสวงหาช่องทางการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ดีขึ้นกว่าเดิมและมีหลายแบรนด์ที่ได้เริ่มต้นการทำธุรกิจใน CLMV เป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งในฐานะที่ www.ThaiSMEsCenter.com ได้อยู่กับแวดวงธุรกิจมานานจึงได้นำข้อมูลเบื้องต้นในด้านการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบรายใหม่ที่อยากไปเปิดตลาด AEC ได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกเป้าหมายที่ประเทศใดเป็นอันดับแรก

กัมพูชา

รูปแบบของ AEC

ภาพจาก goo.gl/mQGXkM , goo.gl/2HvjZJ

ประเทศกัมพูชาถือเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเสรี อีกทั้งยังมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะที่ดินว่างเปล่าเป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับนำมาใช้ทำการเกษตรและอุตสาหกรรม

ข้อดีของกัมพูชาสำหรับการลงทุน

1.เป็นประเทศที่คล้ายคลึงกับประเทศไทยในการเป็นแหล่งผลิตพืชผลทางการเกษตร แต่ขาดเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยอันเป็นช่องทางในการเริ่มต้นทำธุรกิจที่น่าสนใจ

2.เหมาะกับการลงทุนในอุตสาหกรรมการเกษตรหลายอย่างเช่น ธุรกิจเมล็ดพันธุ์เพื่อการเกษตร อุตสาหกรรมประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เทคโนโลยีและอุปกรณ์ในการทำเกษตรเช่นเครื่องจักรต่างๆ เป็นต้น

3.ธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรมก็น่าสนใจไม่แพ้กัน รวมถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอ และพลังงาน ซึ่งกัมพูชาถือว่ามีจุดเด่นในเรื่องทรัพยากรและความรู้ที่มีมากขึ้นก็ทำให้เกิดสังคมเมืองที่เริ่มการขยายตัวมากขึ้นด้วย

4.รัฐบาลส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนโดยที่ผ่านมาได้อนุมัติโครงการให้จีนเข้ามาดำเนินการกว่า 27 โครงการ ให้เกาหลีใต้อีก 16 โครงการ ส่วนของประเทศไทยมีอยู่ 4 โครงการที่มากที่สุดคือธุรกิจเสื้อผ้า การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่ง และการก่อสร้างโรงแรมที่พักต่างๆ

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

qq47

ภาพจาก goo.gl/ZHCyGG

ประเทศลาวหากย้อนกลับไปในช่วง 7 ปีก่อนจนถึงปัจจุบันเศรษฐกิจในประเทศดังกล่าวถือว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประชากรชาวลาวเริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้น อีกทั้งทรัพยากรในประเทศยังมีอยู่เป็นจำนวนมากด้วย

ข้อดีของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวสำหรับการลงทุน

1.ประเทศลาวมีโครงการทางเศรษฐกิจระยะยาวผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อที่จะเป็นแบตเตอรี่แห่งอาเซียน เป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่สามารถใช้ช่องทางความต้องการนี้ให้เกิดประโยชน์ได้

2.นอกจากนี้การลงทุนในสินค้าอุปโภคและบริโภคก็น่าสนใจไม่แพ้กันโดยส่วนใหญ่สินค้าจากเมืองไทยสามารถไปเปิดตลาดที่ลาวได้มากขึ้น รวมกับการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าที่มากขึ้นก็ส่งเสริมธุรกิจส่วนนี้ได้ดียิ่งขึ้นด้วย

3.เป็นตลาดแฟรนไชส์ที่น่าสนใจเพราะประชาชนของลาวปัจจุบันมีความต้องการสินค้าและบริการจากต่างประเทศมากขึ้น หลายธุรกิจแฟรนไชส์จึงไปเปิดตัวได้อย่างดีไม่ว่าจะเบเกอรี่ สปา ความงาม ธุรกิจอู่ซ่อมรถ โรงเรียนกวดวิชา ฯลฯ ถือเป็นหนึ่งในประเทศเริ่มต้นของธุรกิจแฟรนไชส์ที่ต้องการเปิดตัวในแถบอาเซียนได้อย่างดี

สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า

qq48

ภาพจาก goo.gl/4ZMFSu

ประเทศพม่าถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีเขตชายแดนติดกับไทยมากที่สุด และในปัจจุบันด้านประชากรพม่าเองก็มาทำงานในเมืองไทยกันมากขึ้นและความรู้ของคนพม่าที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้เกิดการพัฒนาภายในประเทศที่มากขึ้นรวมถึงการยอมรับชาวต่างชาติมากขึ้นก็เป็นผลดีในการลงทุนอย่างยิ่ง

ข้อดีของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าสำหรับการลงทุน

1.การลงทุนในกลุ่มพลังงานมีความน่าสนใจอย่างมาก นักลงทุนรายใหญ่จากเมืองไทยที่เข้าไปลงทุนในพม่าแล้วก็เช่นกลุ่มซีพี กลุ่มปตท.และกลุ่มสยามซีเมนต์ (SCG) เป็นต้น

2.กำลังการผลิตสินค้าในพม่าทีไม่เพียงพอทำให้ต้องเปิดรับสินค้าจากเมืองไทยมากขึ้นและเป็นช่องทางให้นักลงทุนไทยเข้าไปเปิดกิจการผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของคนในประเทศได้มากขึ้น

3.การเติบโตของชุมชนเมืองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้หลายธุรกิจมีอนาคตที่สดใสโดยเฉพาะธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าแปรรูปต่างๆ ที่คนพม่าให้ความนิยมสินค้าที่เป็นแบรนด์ไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก

สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

qq49

ภาพจาก goo.gl/VCcvFq

ประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงกับเรา รวมถึงเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตในทุกๆด้านอย่างรวดเร็วที่สำคัญเป็นประเทศที่ผลิตข้าวส่งออกเช่นกันและในหลายปีที่ผ่านมาก็มีกำลังการผลิตข้าวที่แซงหน้าประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อย

ข้อดีของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

1.เวียดนามมีความได้เปรียบในเรื่องทรัพยากร โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค ทำให้ในปัจจุบันเวียดนามถือเป็นประเทศส่งออกน้ำมันดิบอันดับ 3 ในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

2.เวียดนามอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น จึงทำให้ประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศที่น่าเข้าไปลงทุน ซึ่งหลายธุรกิจจากหลายประเทศเริ่มเข้ามาเปิดตลาดการค้าในเวียดนามมากขึ้น

3.กิจการที่น่าลงทุนในประเทศเวียดนาม อาทิ อุตสาหกรรมการเกษตร สินค้าอุปโภค บริโภค อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกโดยใช้แรงงานของเวียดนาม และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง

4.แต่การลงทุนที่ประเทศเวียดนามมีข้อต้องห้ามสำหรับธุรกิจที่ทำลายประชากรและทรัพยากรในประเทศ อาทิ การประมงในน่านน้ำ กิจการเบียร์ ยาสูบ และอื่นๆ

ข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นเพียงส่วนย่อยหากต้องการลงทุนกันอย่างจริงจังควรวิเคราะห์เจาะลึกถึงแนวทางของสังคมในแต่ละประเภทรวมถึงตัวกฏหมายและข้อห้ามต่างๆที่แต่ละประเทศมีไม่เหมือนกันเพื่อให้การลงทุนในธุรกิจใดๆก็ตามสามารถเกิดผลได้ตามเป้าที่วางไว้ได้อย่างสูงสุด

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด