รวม 7 อาชีพพนักงานขาย รายได้ดีแค่ไหน

อาชีพ “พนักงานขาย” หลายคนมองข้าม เหตุผลที่หลายคนไม่สนใจอาชีพนี้เพราะดูว่าเป็นงานจุกจิก ยุ่งยาก ต้องรักษายอด ต้องหาลูกค้าใหม่ ต้องติดต่อพูดคุยกับคนมากมาย ต้องง้องอนอ้อนวอนให้เขาซื้อของ ทั้งที่ความจริง “พนักงานขาย” หากใครตั้งใจและทำได้จริง นี่คือสุดยอดอาชีพที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี

www.ThaiSMEsCenter.com ลองรวบรวม 7 อาชีพพนักงานขาย และตัวเลขรายได้เบื้องต้น เผื่อว่าใครกำลังตกงานหรืออยากเปลี่ยนงานใหม่จะลองเลือกทำอาชีพนี้ดูบ้าง

1.เซลล์ขายรถยนต์

26

ภาพจาก bit.ly/2YDcguk

พนักงานขายรถยนต์เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่โดดเด่นในด้าน “งานขาย” หลายคนบอกว่า “เซลล์ขายรถ” รายได้ดี แต่คนอีกไม่น้อยก็มองว่านี่คืออาชีพที่ยาก สำหรับคนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ ยิ่งยากที่จะมีรายได้สูงๆ

ในความเป็นจริง เซลล์ขายรถในแต่ละบริษัทมีกฏเกณฑ์ในด้านรายได้ต่างกันแต่ส่วนใหญ่ฐานเงินเดือนไม่สูงตั้งแต่ 9,000 -12,000 บาท แต่ที่หลายคนสนใจอาชีพนี้เพราะ “คอมมิชชั่น” ยกตัวอย่างเช่น พนักงานขายรถยนต์ได้ 1 คัน ราคา 1,000,000 บาท สิ่งที่พนักงานขายจะได้รับคือ

  • ค่าคอมมิชชั่นจากการขายรถยนต์คันนี้ (ซึ่งแต่ละบริษัทจะให้ค่าคอมตามเปอร์เซนต์แตกต่างกันออกไป)
  • ค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทไฟแนนซ์
  • ค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • ค่าคอมมิชชั่นจากร้านประดับยนต์
  • ค่าตีเทิร์นคันเก่า (ได้จากเต๊นท์รถ)

สำหรับ “เซลล์ขายรถ” มือเก่าเก๋าประสบการณ์มีลูกค้าต่อเนื่อง แต่ละเดือนอาจมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 -30,000 บาท หรือบางทีอาจจะมากกว่านั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและกฏเกณฑ์การจ่ายเงินของแต่ละบริษัท

2.เซลล์ขายบ้านและที่ดิน

25

ภาพจาก bit.ly/2Ee4j5a

อาชีพพนักงานขายบ้าน เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนสูงมาก เพราะอาชีพพนักงานขายบ้าน หรือนายหน้าขายบ้านและที่ดินสามารถทำเงินได้ 2 ช่องทาง คือ ค่าคอมมิชชั่นจากผู้ซื้อและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ขาย เช่น

  • เงินเดือนประจำจากบริษัท
  • ค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทโดยตรง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แต่ละบริษัทจะได้ค่าตอบแทนแตกต่างกัน
  • ค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำช่างรับเหมาก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่ง หรือรีโนเวทใหม่

ถ้าเป็นพนักงานขายประจำจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 0.3 – 2% ถ้าเป็นพนักงานขายอิสระจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 3% และอสังหาริมทรัพย์มือสอง พนักงานประจำจะได้ค่าคอมมิชชั่นที่ 0.2 – 1.5% ถ้าเป็นพนักงานขายอิสระจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 2% สิ่งสำคัญของการเป็นพนักงานขายอสังหาริมทรัพย์คือการสร้างคอนเนคชั่นกลุ่มลูกค้าซื้อ-ขาย-เช่า เพราะลุกค้ากลุ่มที่เคยซื้อกับเราจะช่วยแนะนำให้เราได้รู้จักกับลูกค้าคนอื่นๆ ได้ โดยในการให้บริการเราต้องช่วยเหลือลูกค้าทุกเรื่องอย่างเต็มที่เช่นกัน

3.พนักงานขายจิวเวลรี่

24

ภาพจาก bit.ly/38vIlc8

จิวเวลรี่ เครื่องประดับ เพชร พลอย อัญมณี สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องมี ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มที่มีฐานะพอสมควรหรือชื่นชอบในเครื่องประดับเหล่านี้จริงๆ พนักงานขายจิวเวลรี่ (Diamond Advisor) จึงถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีรายได้ดี ค่าคอมมิชชั่นสูง

ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีเงินรายได้อื่นๆ ที่มอบให้พนักงานแตกต่างกันออกไป บางบริษัทให้ค่าตอบแทนสูงมากมีทั้งค่าเป้า ค่าคอมมิชชั่น ค่าตำแหน่ง และเงินเดือนมอบให้กับพนักงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน พนักงานขายจิวเวลรี่หลายคนมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000-70,000 บาทต่อเดือน (ในกรณีที่ทำงานมานานและมีประสบการณ์มากพอ)

สิ่งสำคัญในอาชีพพนักงานขายจิวเวลรี่ คือต้องแต่งกายดูเรียบร้อย น่าเชื่อถือ และต้องเป็นคนช่างสังเกต รอบคอบ เช็คทุกอย่างแบบละเอียดถี่ถ้วน และควรมีทักษะในการเจรจาต่อรองกับลูกค้า และมีมนุษยสัมพันธ์ที่สามารถพูดจาโน้มน้าวใจได้เก่งเพื่อให้สามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องประดับเป็นอย่างดีจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ตัวแทนขายประกัน

23

ภาพจาก bit.ly/34b0V5W

ถ้าพูดถึงงานขาย “ตัวแทนขายประกัน” น่าจะเป็นสิ่งแรกที่เรานึกถึง ถามว่า “อาชีพตัวแทนขายประกัน” เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีแค่ไหน เราก็ต้องมาย้อนถามตัวเองด้วยเช่นกันว่า “เราทุ่มเทให้กับงานนี้มากน้อยแค่ไหน” พนักงานขายประกันหลายคนสามารถมีเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ในขณะที่อีกหลายคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปสำหรับการทำอาชีพนี้

สิ่งที่พนักงานขายประกันจะได้รับ แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้ “ไม่มีเงินเดือน” แต่สิ่งที่ได้คือ “คอมมิชชั่นจากกรรมธรรม์” โดยเฉพาะลูกค้าที่เปิดกรรมธรรน์ใหม่ ตัวแทนจะได้เปอร์เซ็นต์เฉลี่ย 10-40% จากเบี้ยประกันปีแรก และทุกๆ การส่งเบี้ยประกันของลูกค้าในปีต่อๆไปส่วนหนึ่งก็จะหักเป็นรายได้ของพนักงานขายประกัน

ยังไม่รวม “รางวัลแห่งความสำเร็จต่างๆ” ที่แต่ละบริษัทจะมีการ “ตั้งเป้า” ให้ตัวแทนทำยอดขายได้กี่รายต่อเดือน มีมูลค่ารวมกรรมธรรม์เท่าไหร่ เพื่อจะได้รับรางวัล เช่นการท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นต้น เบ็ดเสร็จรายได้ของตัวแทนในแต่ละเดือนคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 15,000 -30,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหาลูกค้าเป็นสำคัญ

ข้อดีของอาชีพตัวแทนขายประกันคือ อาชีพที่อิสระไม่มีขอบเขตในการทำงาน ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับความสามารถ รวมถึงมีโอกาสไต่ไปสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูงได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการสร้างเครือข่ายสาขา (สำนักงานตัวแทน) โดยเสมือนหนึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไซน์ของบริษัท

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ตัวแทนขายประกันจำเป็นต้องมีคือทักษะในการเจรจาต่อรอง การพูดจาที่โน้มน้าว และพูดให้ลูกค้าเข้าใจในตัวกรรมธรรน์ต่างๆ ได้ รวมถึงการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าทุกคนเป็นอย่างดี เพื่อเป็นฐานให้ลูกค้าบอกต่อซึ่งคนส่วนใหญ่จะเลือกทำประกันชีวิตกับคนที่ตัวเองไว้ใจเท่านั้น

5.พนักงานขายสินค้าแบรนด์เนม

22

ภาพจาก bit.ly/2RKflaD

สินค้าแบรนด์เนมจัดอยู่ในประเภทเดียวกับเครื่องประดับ คือ เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ที่พนักงานขายจะต้องมีมาตรฐานการบริการที่ดีมาก โดยแต่ละแบรนด์จะมีคาแรคเตอร์ของพนักงานแตกต่างกันไป

การสร้างคาแรคเตอร์ให้พนักงานจะสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์นั้นได้อย่างชัดเจน ในการให้บริการพนักงานขายสินค้าแบรนด์เนมจะต้องเข้าไปดูแลตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้านมา ลูกค้าเลือกสินค้า ลองชุด และปรับไซส์ ซึ่งต้องพิถีพิถันมากๆ เมื่อพนักงานขายถือเป็นหน้าตาของ

แบรนด์ฉะนั้นทั้งเงินเดือน และค่าคอมมิชชั่นจึงดีมากๆ ในบางพื้นที่พนักงานขายอาจมีรายได้ต่อเดือนเกือบ 100,000 บาทเลยทีเดียว แต่สำหรับนักขายมือใหม่ที่ต้องอาศัยสะสมประสบการณ์ ช่วงแรกอาจมีรายได้ประมาณ 15,000 -20,000 บาท แต่ถ้ามุ่งมั่นและพยายามต่อไปก็มีโอกาสที่จะสร้างรายได้สูงขึ้น

6.พนักงานขายสื่อโฆษณาออนไลน์

21

ภาพจาก pixabay.com

จากข้อมูลในอินเทอร์เนตเกี่ยวกับตำแหน่งงานพนักงานขายสื่อออนไลน์ที่บริษัทต่างๆ เปิดรับสมัครพบว่า ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 20,000-40,000 บาท ขึ้นอยู่กับประสบการณ์+ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งดูเหมือนว่าในยุคการตลาดดิจิทัลแบบนี้ อาชีพพนักงานขายสื่อโฆษณาออนไลน์ดูจะน่าสนใจ

โดยหน้าที่สำคัญของอาชีพนี้ คือการเสนอขายสื่อโฆษณาครบวงจร Facebook Ads/Google Ads/Line@/E-mail Marketing ทางโทรศัพท์ (TeleSales) , การหาฐานลูกค้าใหม่เพื่อเสนอขายสื่อโฆษณาออนไลน์ , การจัดทำเอกสารและใบเสนอราคาที่ใช้ในการติดต่อลูกค้า ,การให้คำปรึกษาและแนะนำเรื่องการลงโฆษณากับลูกค้า รวมถึงสามารถปิดการขายตามเป้าหมายที่ได้รับ

คุณสมบัติผู้สมัครส่วนใหญ่มักรับคนรุ่นใหม่ไฟแรงอายุระหว่าง22-35 ปี ชอบการเรียนรู้และสนใจด้านเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์ Internet, Website, Social Media หรือความรู้ด้านสื่อโฆษณาออนไลน์ สามารถวิเคราะห์และประเมินลูกค้าได้ก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ รวมถึงต้องมีทักษะการขายการเจรจาต่อรองและการนำเสนอที่ยอดเยี่ยมด้วย

7.พนักงานขายเครื่องสำอาง

20

ภาพจาก bit.ly/34ji5OV

อาชีพพนักงานขายเครื่องสำอางอาจจะเหมาะสำหรับผู้หญิง เนื่องด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดีกว่าการเอาผู้ชายมาขายเครื่องสำอาง ซึ่งรายได้ของพนักงานขายเครื่องสำอางของแต่แบรนด์อาจแตกต่างกันไป สวัสดิการของแต่แบรนด์ก็อาจแตกต่างกันไปด้วย โดยเฉลี่ยอาชีพนี้มีฐานเงินเดือนประมาณ 14,000 -18,000 บาท ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถ รวมถึงบางแห่งอาจตั้งฐานเงินเดือนต่ำกว่านี้แต่ไปบวกที่ค่าคอมมิชชั่นในสินค้าแต่ละชนิด ซึ่งสินค้าแต่ละชนิดอาจจะมีรายได้ให้กับพนักงานต่างกัน

คุณสมบัติของพนักงานขายเครื่องสำอางจะเน้นวัยรุ่นใสๆ หรือคนที่อายุไม่เกิน 30 ไม่เน้นวุฒิการศึกษาทำได้ตั้งแต่ จบ ม.3 ม.6 รวมถึงจบการศึกษาในระดับปวช., ปวส. หรือ ปริญญาตรี สำคัญต้องมีความสูง ไม่น้อยกว่า 160 ซม. , มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี และรักงานบริการ ,มีความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และตรงต่อเวลา ซึ่งบางบริษัทอาจจะเพิ่มข้อกำหนดพิเศษเช่น สามารถเดินทาง โยกย้าย ระหว่างสาขาได้บางครั้ง หรือสามารถใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน Microsoft Office ได้

นอกจาก 7 อาชีพพนักงานขายที่เรากล่าวถึง ก็ยังมีการขายในแบบอื่นๆที่สร้างรายได้เช่น ขายของออนไลน์ ขายสินค้าตลาดนัด ขายส่งสินค้าต่างๆ ฯลฯ ซึ่งทุกอาชีพการขาย มีทักษะพื้นฐานที่เหมือนกันคือ “การพูดคุย” ถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าจะขาย

เราต้องคุย และเทคนิคในการคุยเพื่อปิดการขาย เพื่อหาลูกค้าใหม่ เพื่อโน้มน้าวใจเราก็สามารถหาข้อมูลศึกษาได้ อาชีพพนักงานขายไม่ใช่อาชีพที่ยากเกินไปหากตั้งใจจริง รายได้ดีอาจจะดีกว่าบางอาชีพด้วยซ้ำ


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/34sHyVT\

ขอบคุณข้อมูล

แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/2PvGgFm

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด