รวม 20 ข่าวเศรษฐกิจสุดปัง! ปี 2020 มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ปี 2563 เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่เกิดเรื่องราวแบบ “ที่สุด” มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือว่าอาชญากรรม ปี 2563 จัดหนักมาครบแบบที่คนบอกว่าไม่ต้องการ ภาพรวมของปี 2563 จึงเป็นปีที่หนักหนาสาหัสแม้กระทั่งตอนนี้สถานการณ์หลายอย่างแม้เริ่มคลี่คลายแต่ก็ยังไม่ฟื้นตัวดี

โดยเฉพาะในภาพรวมเรื่องเศรษฐกิจที่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด จากปลายปี 2562 ก็ว่าแย่ในระดับหนึ่ง เข้าปี 2563 มาแทนที่จะดีขึ้นกลับกลายเป็นแย่ลงเรื่อยๆ และเพื่อให้มองเห็นภาพว่าในปี 2563 แวดวงเศรษฐกิจ การลงทุนมีอะไรที่เป็นข่าวเด่นกันบ้าง
www.ThaiSMEsCenter.com รวบรวมมาเป็น 20 ข่าวเศรษฐกิจสุดปัง เผื่อบางข่าวใครหลายคนลืมไปแล้วจะได้นึกขึ้นได้อีกครั้ง

1.เริ่มมาตรการ “งดใช้ถุงพลาสติก”

ข่าวเศรษฐกิจสุดปัง

ภาพจาก https://bit.ly/3oWXn1Z

เริ่มต้นปี 1 มกราคม 2563 มีความเห็นชอบจากรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2562 เห็นชอบกลไกการขับเคลื่อนการงดให้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป เพื่อเป็นนโยบายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการดำเนินงานเพื่อลด ละ เลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้โรดแมปการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 และถึงตอนนี้ก็หลายธุรกิจก็งดใช้ถุงพลาสติกอย่างสิ้นเชิง

2.ปิดเทอมยาวนานกว่า 4 เดือน

2

ภาพจาก https://bit.ly/2KmC76G

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 ส่งผลให้ปีนี้ถูกบันทึกว่ามีการปิดภาคเรียนยาวนานเป็นประวัติการณ์กว่า 4 เดือนจากเดิมในสถานการณ์ปกติที่ปิดภาคเรียนประมาณ 2 เดือนครึ่ง โดยเวลาการเปิดภาคเรียนใหม่ ของปีการศึกษา 2563 เลื่อนมาถึงวันที่ 1 กรกฏาคม 2563 มีนักเรียนที่ได้รับผลในครั้งนี้เกือบ 7 ล้านคน และเมื่อรวมกับโรงเรียนระดับอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนปลายทุกสังกัด ทั้งสังกัดเอกชนและอื่นๆ ในประเทศไทยจะมีนักเรียนอยู่ที่ 10.84 ล้านคน จากโรงเรียน 41,073 แห่ง

3.จดหมายเปิดผนึกถึง 20 เศรษฐี สู้COVID 19

3

ภาพจาก https://bit.ly/387MSll

ช่วงเดือนเมษายน 2563 รัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากบรรดาเศรษฐีและนักธุรกิจชั้นนำของประเทศในการช่วยเหลือประเทศจากสถานการณ์การแพร่ระบาดCOVID 19 โดยมี 20 เศรษฐีที่ได้รับจดหมายเปิดผนึกในครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมความคิด และหาวิธีรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ทางเศรษฐกิจ ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจและไม่ค่อยจะเกิดขึ้นให้เห็นมากนัก

4.สงกรานต์ที่หายไป

4

ภาพจาก https://bit.ly/2WdFQpO

เทศกาลสงกรานต์อยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน แต่ในปี 2563 นี้ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เมื่อมีประกาศ “งดการจัดงานสงกรานต์ในทุกพื้นที่” อันเนื่องมาจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID 19 ยิ่งกว่านั้นช่วงวันที่ 13-15 เมษายนของใครหลายคนกลายเป็นวันทำงาน สวนทางกับทุกปีที่ช่วงนี้มีแต่ความชุ่มฉ่ำ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น ในอีกหลายประเทศที่มีการจัดงานสงกรานต์ช่วงนี้ ต่างก็งดจัดเช่นกันทั้งใน ลาว , กัมพูชา ,เมียนมาร์ แน่นอนว่าส่งผลกระทบโดยตรงในเรื่องการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล

5.จีดีพีไทยติดลบ 5.3% – เศรษฐกิจไทยตกต่ำสุดรอบ 10 ปี

5

ภาพจาก https://bit.ly/3gLtmiK

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ GDP ในปี 2563 มีโอกาสติดลบสูงถึง 5.3% หลังเกิดการแพร่ระบาดของ COVID 19 กระทบเศรษฐกิจรุนแรง ซึ่งปัญหาของกาารติดลบครั้งนี้มาจากภาคท่องเที่ยว ที่แทบจะเป็นศูนย์ ขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ปรับประมาณการเติบโตเศรษฐกจไทยติดลบ 5.6% สอดคล้องกลุ่มธนาคารเกียรนาคินภัทร ได้ปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตจีดีพีใหม่อยู่ที่ติดลบ 6.8% ให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงขึ้น

6.ดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

8

ภาพจาก https://bit.ly/3p2h08V

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีการประชุมนัดพิเศษ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.00% เป็น 0.75% ต่อปี ต่ำสุดในประวัติการณ์ ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ต่ำกว่า 1% เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย เพื่อลดภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ บรรเทาปัญหาสภาพคล่องในตลาดการเงิน และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนมาตรการการคลังของรัฐบาลที่ได้ออกมาแล้วและจะออกมาเพิ่มเติม

7.ราคาน้ำมันดิ่งลงแรงที่สุด

7

ภาพจาก https://bit.ly/2WjxRHQ

ราคาน้ำมันในตลาดโลก ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 29 ปี หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียเปิดฉากทำสงครามราคากับรัสเซีย นับตั้งแต่ต้นปีราคาน้ำมันดิบปรับลงกว่า 60% มากที่สุดและเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผสมกับภาวะทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่หดตัวจาก COVID-19 ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ ถูกเทขายจน “ติดลบ” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่การซื้อขายปกติราคาลงไปต่ำถึงระดับ 10 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านราคาน้ำมันในประเทศไทยได้รับอานิสงส์เรื่องนี้เต็มๆ ราคาน้ำมันในสถานีบริการน้ำมันลดลงอย่างน่าตกใจ โดยกลุ่มดีเซลต่ำสุดที่ 17.54(B20) และแก๊สโซฮอล์ 91 เหลือลิตรละ 18.58 บาทเท่านั้น

8.ตลาดหุ้นงัด “เซอร์กิต เบรคเกอร์” มาใช้มากที่สุด

9

ภาพจาก https://bit.ly/3mkYqXD

“เซอร์กิต เบรคเกอร์” คือมาตรการระงับการซื้อขายชั่วคราวได้ถูกนำมาใช้มากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกวิกฤตที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นปีที่ COVID-19 เริ่มระบาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นหลายประเทศต้องงัดเซอร์กิต เบรคเกอร์ มาใช้มากเป็นประวัติการณ์ เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ต้องใช้เซอร์กิต เบรคเกอร์ ถึง 4 ครั้งในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ มากกว่าช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่ใช้เพียง 2 ครั้ง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่มีการใช้เซอร์กิต เบรคเกอร์ ถึง 3 ครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น

9.หวยหยุดออกรางวัลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

11

ภาพจาก https://bit.ly/3oWZva0

คนไทยคุ้นเคยกับการลุ้นรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลและที่ผ่านมาก็สามารถออกรางวัลได้ปกติทุกงวด แต่ในปีนี้ แตกต่างเนื่องจากสลากกินแบ่งรัฐบาลหยุดออกรางวัลเป็นครั้งแรก โดยเลื่อนออกรางวัลงวด 1 เม.ย. 63 เป็นวันที่ 16 พ.ค. 63 แทน และเลื่อนออกรางวัลติดกันถึง 3 งวด เพราะผลจาก COVID 19 ซึ่งคาดว่าภาครัฐจะสูญรายได้รวมกันถึง 5,400 ล้าน และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการเลื่อนออกรางวัลติดกันถึง 3 ครั้ง

10.ความเชื่อมั่นผู้บริโภคตัวเลข “ต่ำสุด”

12

ภาพจาก https://bit.ly/2IRRTGc

ในปี 2563 ตัวเลขจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคม 2563 อยู่ที่ระดับ 50.3 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมยังประเมินครึ่งปีแรกของปี คาดเงินจะหายออกจากระบบเศรษฐกิจถึง 1.5 ล้านล้านบาท ตัวเลขความเชื่อมั่นที่ต่ำสุดนี้เทียบเคียงได้กับปี 2541 ที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง แต่ในคราวนั้นยังพอจะมีทิศทางกลับฟื้นคืนมาได้ แต่สำหรับปัญหาครั้งนี้ยังมองไม่ออกว่าอัตราการฟื้นคืนจะกลับมาได้เมื่อไหร่ในเมื่อเป็นภาพรวมของผลกระทบที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก

11.สายการบินหยุดให้บริการทั่วโลก

13

ภาพจาก https://bit.ly/2WjIHh0

ปี 2563 ถือว่าเป็นวิกฤติของ “อุตสาหกรรมการบิน” อย่างแท้จริง แม้ที่ผ่านๆมาจะประสบปัญหามาบ้าง แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นต่างจากปัญหาครั้งนี้ที่กินเวลาเนิ่นนาน โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประกาศห้ามเครื่องบินจากต่างประเทศเข้าประเทศไทยตั้งแต่ 3 เม.ย. – 30 เม.ย. 63 และขยายเพิ่มเติมไปจนถึง 31 พ.ค.63 รวมถึงสั่งปิดสนามบินภูเก็ตตั้งแต่ 10-30 เม.ย.63 ล้วนส่งผลให้สายการบินต่าง ๆ ลดเที่ยวบินลงอย่างมากหรือหยุดทำการบิน เพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์การระบาดของ COVID 19 รุนแรงมากยิ่งขึ้น จนถึงขณะนี้ปลายปี 2563 อุตสาหกรรมการบินก็ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาและเรายังไม่เปิดประเทศเต็มตัว สายการบินต่างๆ ต้องรอโอกาสฟื้นตัวต่อไป

12. 7-eleven เปิดแค่เที่ยงคืน

14

ภาพจาก https://bit.ly/2KylTav

สิ่งที่ไม่เคยได้เห็นปี 2563 เราก็ได้เห็น ใครจะไปคิดว่าคำพูดเล่นๆที่บอกว่า “เจอกันหลังเซเว่นปิด” จะกลายเป็นจริงขึ้นมา เมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาด COVID 19 ที่ทำให้มีประกาศเคอร์ฟิว ขนาดที่ 7-eleven ที่เคยเปิดตลอด 24 ชม.ยังต้องปิดให้บริการ โดยเป็นคำสั่งของรัฐบาลที่ให้ทุกคนร่วมมือโดย 7-eleven ปิดให้บริการตั้งแต่24.00 น.ถึง 05.00 น. ถือว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยาก และกลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์สำคัญทีเดียว

13.ปรากฏการณ์ปิดห้างสรรพสินค้า

15

ภาพจาก https://bit.ly/3njaI49

ไม่ใช่แค่ร้านสะดวกซื้อทั่วไป ปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID 19 ยังลุกลามไปถึงบรรดาห้างสรรพสินค้าต่างๆ กลายเป็นปรากฏการปิดห้างสรรพสินค้าทั่วกรุงเทพมหานครนานถึง 22 วัน แน่นอนว่าผลกระทบที่ตามมามีมากมายเริ่มตั้งแต่บรรดาเจ้าของห้างสรรพสินค้าต่างๆ ลุกลามไปถึงกลุ่มผู้เช่าพื้นที่ค้าขาย ซ้ำเติมรายได้ของพ่อค้าแม่ค้าที่ปกติก็แทบจะขายไม่ได้เมื่อมีคำสั่งดังกล่าวรายได้จึงเป็นศูนย์ทันที แต่ทั้งนี้ก็เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID 19 ไม่ให้ลุกลามมากขึ้นกว่าเดิม

14.โรงภาพยนตร์ก็ไม่รอด! โดนสั่งปิดเช่นกัน

16

ภาพจาก https://bit.ly/385JlEl

ผลกระทบจาก COVID 19 ลุกลามเป็นลูกโซ่ จากร้านสะดวกซื้อ อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมค้าปลีก มาจนถึงอุตสาหกรรมภาพยนต์ ที่โรงภาพยนตร์หลายแห่งต้องระงับการให้บริการชั่วคราว นั่นหมายถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเช่น โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ ลานสเก็ต แน่นอนว่าผลกระทบครั้งนี้ลามไปถึงบรรดาผู้กำกับ นักแสดงที่ไม่สามารถเปิดกองถ่ายละครได้ตามปกติ แม้แต่ในต่างประเทศเอง ก็ได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกันนี้

15.คำสั่งล็อกดาวน์ทั้งประเทศ

17

ภาพจาก https://bit.ly/37ovWIi

จากทีแรกมองว่ารับมือได้ เอาอยู่ แต่สุดท้ายเริ่มจะเอาไม่อยู่ และดูว่าสถานการณ์จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น สุดท้ายรัฐบาลต้องประกาศ “ล็อคดาวน์” และไม่ให้คนต่างชาติเข้ามาในประเทศ รวมถึงคนในประเทศก็ออกไปยังต่างประเทศไม่ได้ด้วย เป็นมาตรการเข้มข้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID 19 ขั้นสูงสุด ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศไทยแต่มีอีกหลายประเทศที่ใช้มาตรการนี้และทำมาก่อนด้วยเช่นอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ เอลซัลวาดอร์ เดนมาร์ก โปแลนด์ สหภาพยุโรป(อียู)เปรู มาเลเซีย ยูเครน และเบลเยียม เป็นต้น

16.ร้านบริการก็ถูกสั่งปิดเช่นกัน

19

ภาพจาก https://bit.ly/2KbYpID

บรรดาร้านบริการต่างๆ ไม่ว่าจะร้านตัดผม ร้านนวด ร้านสปา ฯลฯ ในปี 2563 นี้ก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ จากคำสั่งระงับให้บริการชั่วคราว ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากขาดรายได้ และหลายคนหันมาบริการแบบเดลิเวอรี่กันมากขึ้น เกิดเป็นสังคมยุค Newnormal ที่เราได้ยินกันจนถึงทุกวันนี้ แม้ปัจจุบันร้านบริการเหล่านี้จะกลับมาเปิดให้บริการได้เช่นเดิมแต่ก็มีกฏระเบียบที่เข้มข้นเช่น ลูกค้าต้องสวมหน้ากากอนามัยเข้าร้าน , ห้ามเข้าร้านเกินกว่าครั้งละ 5 คน เป็นต้น

17. เกิดระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)

18

ภาพจาก https://bbc.in/37kU7HG

ในปี 2563 นอกจากคำว่า Newnormal , Work from Home เรายังได้รู้จักกับคำว่า Social Distancing มากขึ้น พูดให้เข้าใจง่ายๆ Social Distancing ก็คือระยะห่างทางสังคมที่ภาครัฐส่งเสริมให้ประชาชนอยู่ห่างกันมากขึ้น เวลาเข้าแถวซื้อของก็ต้องมีช่องว่างประมาณ 1 เมตร หรือแม้แต่ในร้านอาหาร ก็ต้องจำกัดจำนวนเก้าอี้ และคนเข้าร้านเพื่อให้มีพื้นที่เปิดโล่งมากขึ้น แน่นอนว่าผลกระทบไปตกอยู่ที่ผู้ประกอบการที่ยอดขายตกวูบ กลายเป็นกระแสเดลิเวอรี่ที่มาแทน บรรดาคนขับ Grab , Foodpanda , Lineman ต่างมีรายได้ดีกันถ้วนหน้า โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ว่า บริการขนส่งอาหารน่าจะมีการเพิ่มขึ้น 35 – 40% จากช่วงเวลาปกติ

18.วิกฤติอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตกต่ำทั่วโลก

21

ภาพจาก https://bit.ly/3ajYKDF

ในปี 2563 เป็นปีที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่อยากจดจำ นี่คือปีที่การท่องเที่ยวหยุดชะงักต่ำสุดในรอบ 15 ปี ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยแต่รุนแรงและกระทบไปทุกประเทศทั่วโลก เพราะการเดินทางระหว่างประเทศต้องหยุดชะงัก จนถึงตอนนี้ปลายปี 2563 ก็ยังไม่มีวี่แววฟื้นตัว ถ้ามองแค่ในประเทศศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน (หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ) การท่องเที่ยวถึงจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยประเมินภาพรวมทั่วโลกว่า นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะมีประมาณ 800-900 ล้านคน หดตัวกว่า 38%-45% รายได้การท่องเที่ยวทั่วโลกที่น่าจะหายไปไม่ต่ำกว่า 570,000-677,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 62 รายได้การท่องเที่ยวทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านเหรียญ

19.ตัวเลขคนว่างงาน-ตกงาน สูงปรี๊ด

22

ภาพจาก https://bit.ly/3ns6DL1

กลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจสำคัญที่ตอนนี้ก็ยังไม่มีทางออกสำหรับ “อัตราการว่างงาน” จากผลกระทบการปิดโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง หลายบริษัทต้องปิดตัว กิจการหลายแห่งต้องลดขนาด มีพนักงานที่เคยทำงานต้องออกจากงานด้วยเหตุผลเหล่านี้มากมาย โดยจำนวนผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานและเลิกจ้างในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 435,010 คน และ 220,324 คน ตามลำดับ ขณะที่อุตสาหกรรมหลักที่ หดตัว ได้แก่ สาขาที่พักแรม/ร้านอาหาร -24.01%, สาขาการผลิต -6.37%, สาขาก่อสร้าง -3.17% และสาขาการค้า -2.24% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นกับตลาดแรงงานไทยได้อย่างชัดเจน

20.ปีที่คนไทยได้รู้จักคำว่า “Work from Home” มากขึ้น

23

ภาพจาก https://bit.ly/3mnZObZ

แม้ Work from Home จะไม่ใช่ศัพท์ใหม่แต่ที่ผ่านมาคนไทยก็ไม่ค่อยสนใจกับคำนี้ เพราะระบบงานของคนไทยส่วนใหญ่ต้องเข้าออฟฟิศ จนกระทั่งปี 2563 เราถึงได้รู้จักคำว่า Work from Home ชัดเจนขึ้นเมื่อภาครัฐส่งเสริมให้บริษัทหลายแห่งมีมาตรการ “ทำงานจากที่บ้าน” เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID 19 ยืนยันว่า Work from Home ในประเทศไทยสูงขึ้นจากแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเช่น Line ที่เติบโตขึ้นมากในช่วงเวลานี้ โดยมียอดการใช้ LINE Call ทั้งบนมือถือและบนคอมพิวเตอร์รวมกันสูงขึ้น 10% ขณะที่การใช้งาน LINE Call บนเครื่องคอมพิวเตอร์ สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 264%ในขณะที่การโทรวิดีโอคอลผ่าน LINE Video call บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราการใช้งานที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 270% และ Voice Call ที่สูงขึ้นกว่า 236%

ภาพรวมทางเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2563 นี้ กำลังซื้อของคนส่วนใหญ่ยังไม่กลับมา ปัญหาการว่างงานยังมีสูง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว การบิน ก็ยังไม่ฟื้นตัว การเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศยังทำไม่ได้เพราะมีความเสี่ยงสูง ประเมินแล้วในปี 2564 น่าจะเป็นปีที่เราพอจะเริ่มดีขึ้นได้บ้างหลังผ่านไตรมาสแรกของปี 2564 แต่ทั้งหมดก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขว่าการแพร่ระบาดของ COVID 19 ไม่ซ้ำเติมเข้ามาอีก และที่สำคัญปัจจัยทางการเมืองในประเทศที่ขอให้ไม่แย่ไปกว่านี้ ปี 2564 ก็อาจจะมีอะไรดีๆ ให้จดจำได้บ้าง


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/39w9E8T , https://bit.ly/3lCyMgV , https://bit.ly/3lq0M7j , https://bit.ly/3fYlIkx , https://bit.ly/39Cl5vR , https://bit.ly/2JxJdF8 , https://bit.ly/33xDTIO , https://bit.ly/39wemDB , https://bit.ly/36uM1M9 , https://bit.ly/2Vnr8fu , https://bit.ly/3qlDwuE

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3npJHfx

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด