มาดู! 4 กลยุทธ์ธุรกิจ ช่วยเพิ่มยอดขาย ในช่วงหน้าฝน

ช่วงนี้ฝนตกหนักไม่เช้าก็เย็น ทำร้ายคนที่ต้องเร่งรีบไปทำงานแต่เช้า มิหนำซ้ำยังรถติด แถมตอนกลับบ้านช่วงเย็นยังเปียกปอนแทบทุกวัน ยิ่งถ้าเป็นผู้ประกอบอาชีพค้าขายด้วยแล้ว ฝนมาทีไร ต้องบ่นและกุมขมับกันแทบทุกคน

ขายของไม่ได้ ไม่มีลูกค้ามาเดินซื้อ เพราะคนไม่อยากเปียกฝน และกลัวเป็นไข้หวัดด้วย แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่ออยู่ในอาชีพค้าขายแล้ว ต้องดิ้นรนกันต่อไป รู้จักหากลยุทธ์หรือวิธีการเอาชนะใจลูกค้า เพื่อ ช่วยเพิ่มยอดขาย ในช่วงหน้าฝนให้ได้

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ได้มี 4 กลยุทธ์การบริหารธุรกิจ ที่จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงหน้าฝน มาฝากผู้ประกอบการธุรกิจ และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทุกคน มาดูเลยว่ามีอะไรกันบ้างครับ

1.ค้นหาปัญหาและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุด

ii14

ภาพจาก http://goo.gl/SEzwcT

ในช่วงหน้าฝนจะทำให้ลูกค้ามีความกังวลในการออกไปซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้า เพราะไม่สามารถออกนอกบ้านได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งเปียก และรถติด ดังนั้น ผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขายในช่วงหน้าฝน จะต้องมองไปที่ปัญหาที่ลูกค้ากำลังเจอ เช่น ไม่อยากเปียกฝน กลัวรถติด เสียเวลา ตรงนี้ถือเป็นเป็นปัญหาของลูกค้า

ถ้าคุณเปิดร้านอาหาร ลูกค้าอยากทานอาหารจากร้านคุณ แต่ไม่อยากออกจากบ้านมาทานที่ร้าน เพราะเบื่อฝนตก รถติด การแก้ปัญหาก็คือ คุณจะอาจให้บริการ Delivery ส่งตรงถึงบ้าน ที่ทำงาน จัดเลี้ยงนอกสถานที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแบบสุดๆ

แต่ถ้าลูกค้าประทับใจในบรรยากาศการตกแต่งภายในร้านของคุณ อยากมารับประทานอาหารที่ร้านของคุณ แต่มีความกังวลใจว่า ลงจากรถแล้วจะเปียกหรือเปล่า ชุดสวยที่ใส่มาจะเลอะไหม รองเท้าคู่งามจะเปรอะเปื้อนไหม

ตรงนี้คุณอาจจะต้องมีร่มคันใหญ่ๆ ไปรับ-ส่งลูกค้า เมื่อลูกค้าจอดรถแล้ว หรือไม่ก็ปรับปรุงทำหลังคา คลุมทางเดินให้กับลูกค้า ระหว่างลานจอนรถกับตัวร้านค้า หรือการเตรียมความพร้อมเรื่องพนักงานต้องมีกี่คน จึงจะเพียงพอต่อการให้บริการ ไม่ต้องให้ลูกค้ารอคอยนาน ตรงนี้คุณต้องทำการจัดเตรียมซะให้พร้อม

นอกจากนี้ ในฐานะเจ้าของร้านคุณอาจจะต้องมีการเดินทักทายลูกค้า พูดคุย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส บริการเติมน้ำแข็ง รินน้ำให้ ถามถึงการให้บริการเป็นอย่างไร รสชาติอาหารถูกปากหรือเปล่า เดินทางไกลไหม มาสะดวกไหม อยากให้ช่วยทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เมื่อลูกค้ารู้สึกเป็นกันเองแล้ว คุณอาจจะให้บัตรส่วนลดค่าอาหาร 5% หรือ 10% ก็ได้ จะทำให้ลูกค้าไม่อยากที่จะไปกินร้านอื่นเลย กลายเป็นลูกค้าประจำในที่สุด

2.ให้บริการที่ดีเยี่ยมในร้าน และสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้าทันที

ii15

ภาพจาก http://goo.gl/mpqwEg

การทำธุรกิจค้าขายจะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าเสมอ เพราะลูกค้ามีต้นทุนในการมาใช้บริการจากคุณ ซึ่งต้นทุนไม่ได้หมายถึงเงินค่าสินค้าที่จ่ายไปเท่านั้น

แต่หมายถึงต้นทุนเวลาที่เสียไปในการรอคอย ในการเดินทางมาหาคุณ รวมถึงเวลาที่เสียไปในการหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า หรือบริการของคุณ และต้นทุนความรู้สึก เวลาที่ลูกค้ารู้สึกหงุดหงิด ไม่พอใจในสินค้า บริการที่ได้รับ ต่อให้สินค้ามีราคาถูก ก็จะกลายเป็นของแพงขึ้นมาทันทีในความรู้สึกของลูกค้า

ดังนั้น คุณจะต้องทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย สินค้าหรือบริการต้องมีคุณภาพถูกใจลูกค้า มีการบริการที่เยี่ยม ให้บริการที่รวดเร็ว ไม่ทำให้ลูกค้าไม่เสียเวลา ไม่เสีย ซึ่งตรงนี้คุณจะมีความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ

3.เพิ่มช่องทางที่หลากหลาย ในการเข้าถึงสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้า

ii16

ภาพจาก https://goo.gl/NAK6qT

ความสะดวกสบายของลูกค้า ในการเข้าถึงสินค้าหรือบริการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งในช่วงหน้าฝน ลูกค้ายิ่งมีความคาดหวังว่า จะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าครับ คุณต้องคิดว่า ลูกค้าจะเข้าถึงสินค้าหรือบริการของคุณ ตั้งแต่ก่อนตัดสินใจซื้อ ระหว่างซื้อ และหลังการซื้อได้อย่างไรบ้าง

ส่วนใหญ่ลูกค้าต้องการความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสินค้าและบริการของคุณ เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ และเปรียบเทียบกับร้านอื่น

ดังนั้น คุณอาจจะให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสินค้า ผ่านช่องทางทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ผ่าน Call Center หรือ ศึกษาจากข้อมูลที่ท่านโฆษณาทางเอกสาร สิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณาต่างๆ ที่สำคัญ คือ อย่าให้ข้อมูลจนลูกค้ารู้สึกสับสนนะครับ

กลยุทธ์นี้จะทำให้ลูกค้ารู้ว่าร้านของคุณมีโปรโมชั่นอะไรบ้าง มีสินค้าตัวไหนมาใหม่บ้าง สิ่งสำคัญคุณต้องมีการติดตามและส่งข้อมูลให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพิ่มเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยไม่ต้องหาข้อมูลเอง

4.ให้บริการหลังการขายที่ดีเลิศกับลูกค้า

ii12

ภาพจาก http://goo.gl/Ahly40

คุณควรต้องมีช่องทางให้ลูกค้าได้สามารถติดต่อสื่อสารกับคุณได้ตลอดเวลา สะดวกสบายที่สุด ประหยัดที่สุดสำหรับลูกค้า ไม่ว่าคุณจะใช้ช่องทางสื่อสารใดก็ตาม ต้องประกาศให้ลูกค้าได้รับทราบอย่างทั่วถึง และพร้อมที่จะรองรับความต้องการในการติดต่อสื่อสารนั้นๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นร้องเรียน ติดต่อสอบถาม หรือให้คำแนะนำต่างๆ

เช่น คุณอาจจัดให้มี Call Center ถ้าไม่ตลอด 24 ชั่วโมง ก็ต้องกำหนด วัน เวลา การติดต่อให้ชัดเจน มีจำนวนคู่สาย และพนักงานรับสายโทรศัพท์ มากเพียงพอต่อปริมาณของลูกค้า ไม่ควรให้มีการรอสายนาน หรือ มีระบบการโอนสายที่ล่าช้า

หรืออาจมีช่องทางการติดต่ออื่นๆ สำหรับลูกค้าอีก เช่น ทาง Email, LINE, Fecebook, Web Board รวมไปถึง การมีชุมชน Fan page ที่คุณต้องสามารถตอบคำถามข้อสงสัย และพูดคุยกับลูกค้าของเราได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว

ผู้ประกอบการค้าขายต้องไม่ลืมว่า ลูกค้าเป็นคนพิเศษของคุณ เมื่อไหร่ที่คุณทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ เชื่อใจ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด ธุรกิจค้าขายของคุณก็จะประสบความสำเร็จ เพิ่มยอดขายได้แน่ในช่วงหน้าฝนครับ

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช