มวยถูกคู่ แบรนด์ Vs สก๊อต

เชื่อว่าทุกวันนี้ หากใครอยากจะกินซุปไก่หรือรังนก ก็คงต้องเลือกระหว่างจะซื้อ “ แบรนด์ ” หรือ “สก๊อต” ดี เพราะ 2 ยี่ห้อเป็นผู้ผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม ฝั่งแรกคือ “เซเรบอส” ผู้ผลิตซุปไก่สกัด และรังนก “แบรนด์” (BRAND’S) และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอื่นๆ ฝั่งที่สองคือ “สก๊อต อินดัสเตรียล” ผู้ผลิตซุปไก่สกัด-รังนก “สก๊อต (SCOTCH)

ไม่ว่าผู้บริโภคจะเลือกซื้อยี่ห้อไหน ล้วนแต่จะต้องคิดหนักด้วยกันทั้งนั้น เพราะด้วยรสชาติของ 2 ยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นซุปไก่สกัด หรือรังนกแท้ ต่างมีรสชาติไม่แตกต่างกันมากนัก ถ้าจะแตกต่างก็ตรงที่ “ราคา” เท่านั้น เครื่องดื่มแบรนด์จะราคาต่ำกว่าเครื่องดื่มสก๊อตลงมานิดหนึ่ง เพราะแบรนด์ต้องการเจาะกลุ่มตลาดคนทั่วไป

โดยเฉพาะเครื่องดื่มซุปไก่สกัด ซึ่งเป็นตลาดที่มีผู้เล่นเพียงแค่ 2 ราย คือ “แบรนด์” และ “สก๊อต” ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 90:10 นับว่าห่างกันหลายเท่าตัว แต่ถ้าเทียบในเรื่องของเครื่องดื่มรังนกแท้ คงต้องยกพื้นที่ให้กับ “สก๊อต” เขาเลย

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาคุณผู้อ่านไปดูการช่วงชิงพื้นที่การจัดจำหน่ายระหว่าง “แบรนด์” และ “สก๊อต” ว่าใครจะเป็นผู้ได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ ใครจะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของเครื่องดื่มสุขภาพและความงาม แลกกันหมัดต่อหมัด ช่วงชิงช่องทางขยายตลาดซุปไก่

“แบรนด์” แยกทาง “DKSH” หันมาควง “เดอเบล” – “ซีโน-แปซิฟิค”

แบรนด์

ภาพจาก goo.gl/sbmA4i , goo.gl/i4TBHE , goo.gl/Cbd0QQ

เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ทศวรรษที่ “แบรนด์” (BRAND’S) ในประเทศไทย จับมือกับ “DKSH” บริษัทที่ได้ชื่อว่ามีระบบและเครือข่ายกระจายสินค้าแข็งแกร่งเป็นอันดับ 1 ในไทย และเป็นยักษ์ใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนได้เกิดขึ้น เมื่อ “แบรนด์” แยกทางกับ “DKSH” และได้ใช้จังหวะนี้ ปรับโมเดลธุรกิจครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปีของแบรนด์ ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก

1. มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี และเปิดตัวทีมขายของ “แบรนด์” กว่า 900 คน ประกอบด้วยทีมขายกว่า 120 คน และทีมส่งเสริมการขายกว่า 800 คน

2. สร้างคู่ค้าทางธุรกิจใหม่ โดยผนึกกำลังกับสองผู้จัดจำหน่ายและกระจายสินค้ารายใหญ่ของไทย นั่นคือ “เดอเบล” (Durbell) บริษัทในเครือกระทิงแดง และ “ซีโน-แปซิฟิค” (Sino-Pacific) โดยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบชัดเจน

“เดอเบล” ดูแลช่องทางร้านค้าปลีกและค้าส่ง เนื่องจากมีจุดแข็งเครือข่ายช่องทางร้านค้าปลีก- ค้าส่งกว่า 100,000 ร้านค้าทั่วประเทศ พร้อมด้วยคลังสินค้า 24 แห่ง ใน 20 จังหวัด และหน่วยรถกระจายสินค้า 470 ทีมทั่วประเทศ

โดยตั้งเป้าหมายการจับมือครั้งนี้ว่า จะครอบคลุมการขายผ่านร้านค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น จากเดิมที่แบรนด์มีกระจายเข้า 30,000 ร้าน ขยับขึ้นเป็น 60,000 ร้านค้าภายในปี 2560 และเป้าหมายในอนาคตอยู่ที่การกระจายครอบคลุม 100,000 ร้านค้า ขณะที่ “ซีโน-แปซิฟิค” ดูแลการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าเข้าช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade)

r53

ภาพจาก www.facebook.com/BRANDSWorldThailand/

3. ขยายช่องทางการขายแพลตฟอร์ม E-Commerce เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิตอล ที่หันมาซื้อสินค้าบนออนไลน์มากขึ้น

จะเห็นได้ว่า คู่ค้าทางธุรกิจมีความสำคัญต่อ “แบรนด์” มาก ช่วยเพิ่มห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ในด้านการจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่มความพึงพอใจแก่ลูกค้ามากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจของแบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องช่องทางการกระจายสินค้า ที่จะสามารถกระจายสินค้าได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ถึงมือผู้บริโภคมากขึ้น

ทำให้ตลาดขยายเพิ่มขึ้นในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงเรามีนโยบายการทำตลาดทั้งแบบเดิมและดิจิตอล รวมทั้งแนวทางบริการงานต่างๆ ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ “แบรนด์” สามารถขยายตลาดสู่ลูกค้าใหม่ๆ

โดยยอดขาย “แบรนด์” ในปี 2559 มียอดขายรวม 12,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากซุปไก่สกัด 7,000 ล้านบาท ซึ่งแบรนด์เป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์กว่า 90% แบรนด์รังนกรายได้ 3,000 ล้านบาท โดยปี 2560 ตั้งเป้าหมายเติบโต 8-10%

“สก๊อต” ผนึกกำลัง “DKSH” เจาะโชว์ห่วย-ขยายตลาดอาเซียน

r54

ภาพจาก goo.gl/5tU6C0

“สก๊อต อินดัสเตรียล” ได้เริ่มก่อตั้งธุรกิจในไทยเมื่อปี 2526 เป็นทั้งผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “สก๊อต” เอง ทั้งค้าปลีกสมัยใหม่ และค้าปลีกดั้งเดิม แต่แล้วในวันนี้ก็ต้องหาคู่ค้าพันธมิตรด้านจัดจำหน่าย

จับมือกับ DKSH เป็นพันธมิตรทางธุรกิจเดิมของ “แบรนด์” ถือเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ที่สำคัญของ “สก๊อต” ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจกระโดดเร็วขึ้น และไกลขึ้นกว่าที่ผ่านมา โดยยุทธศาสตร์และเป้าหมายของความร่วมมือครั้งนี้ คือ

  • ยกระดับจาก “Thai Brand” ไปสู่การเป็น “Regional Brand” โดยรุกจากตลาดในประเทศก่อน แล้วจึงสยายปีกออกสู่ตลาดต่างประเทศ เนื่องจาก “DKSH” มีเครือข่ายจัดจำหน่ายครอบคลุมทั้งในระดับอาเซียน และเอเชีย
  • ในปี 2560 ยังคงโฟกัสตลาดในประเทศไทยก่อน โดยตั้งเป้าหมาย 5 เรื่องหลัก คือ

1. DKSH เข้ามาดูแลการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ “สก๊อต” ให้เข้าถึงร้านค้าทั่วไป (Traditional Trade) โดยจะเพิ่มจากเดิมที่มี 10,000 ร้านค้า เป็น 100,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ส่วนช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ “สก๊อต” ยังคงดูแลเอง

ผลจากการผลักดันสินค้าเข้าร้านค้าทั่วไปมากขึ้น ย่อมทำให้สัดส่วนการขายในช่องทางนี้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 30% ในปีนี้ และคาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้า สัดส่วนการขายระหว่างร้านค้าทั่วไป กับค้าปลีกสมัยใหม่ จะอยู่ที่ 50:50

2. การเสริมช่องทางร้านค้าทั่วไปให้มีความแข็งแกร่งขึ้น “สก๊อต” มั่นใจว่ายอดขายซุปไก่สกัดในปีนี้ จะทำได้ 4,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 30% เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ทำได้ 3,300 ล้านบาท โต 6%

r55

ภาพจาก goo.gl/JTr9zG

3. เดินหน้าลงทุนด้าน R&D และนำเสนอสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยยังคงอยู่ใน 4 กลุ่มสินค้าของบริษัท ได้แก่ ซุปไก่สกัด, รังนก, เครื่องดื่มผลไม้สกัดเข้มข้น, เครื่องดื่มคอลลาเจน

4. เพิ่มงบการตลาดจากปีที่แล้ว 450 ล้านบาท เป็น 600 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อรุกตลาดหนักขึ้น

5. มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น จากปี 2559 “ซุปไก่สกัดสก๊อต” มีส่วนแบ่งในตลาด 10% ตั้งเป้าขยับขึ้นเป็น 15% ขณะที่ “แบรนด์” เป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 90%

  • กำลังการผลิตมากกว่า 700 ล้านขวดต่อปี สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าในทุกช่องทางการจำหน่าย รวมถึงฐานลูกค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นจากการจับมือกับ DKSH
  • ในปี 2561 หรือ 1-2 ปีข้างหน้าจะขยายออกสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง จากปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่แล้วในเมียนมา, กัมพูชา และลาว โดยยังมีสัดส่วนการส่งออกเพียง 1-2% แต่การบุกตลาดต่างประเทศ จะมุ่งไปที่ตลาด CLMV ก่อน แล้วขยายไปยังประเทศสิงคโปร์, มาเลเซีย, ฮ่องกง โดยให้ “DKSH” เป็นผู้จัดจำหน่ายในทุกตลาด ทั้งอาเซียน และเอเชีย

มาดูกันว่ามูลค่าการตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามของไทยในปี 2559 มีมูลค่ากว่า 15,710 ล้านบาท โดยกลุ่มซุปไก่สกัด 9,000 ล้านบาท และรังนก 3,950 ล้านบาท และในปี 2560 คาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามจะมีมูลค่าสูงถึง 17,410 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดซุปไก่ 10,000 ล้านบาท ตลาดรังนก 4,500 ล้านบาท ตลาดเครื่องดื่มผลไม้ 2,600 ล้านบาท และตลาดเครื่องดื่มคอลลาเจน 310 ล้านบาท

ตารางเปรียบเทียบ มวยถูกคู่ แบรนด์ vs สก๊อต

r50

อ่านบทความเกี่ยวกับแฟรนไชส์ goo.gl/BbyxUk
อ่านบทความธุรกิจ SMEs goo.gl/PJQQvG
สนใจซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ต่างๆ goo.gl/323Te9


คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช