ประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ ที่โลกต้องรู้!

ประวัติศาสตร์ยุคกลาง

ประวัติศาสตร์แฟรนไชส์

โมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์เริ่มในสมัยยุคกลางรัฐบาลท้องถิ่นได้มอบอำนาจให้โบสถ์และบุคคลสำคัญรักษาความเป็นระเบียบและจัดเก็บภาษีราษฎร รัฐบาลให้สิทธิ์แก่โบสถ์และบุคคลสำคัญในพื้นที่ต่างๆให้ระดมความคิดและทำกิจกรรมทางธุรกิจแฟรนไชส์แรกจึงเป็นการจ่ายภาษีของราษฎรในพื้นที่ต่างๆ เพื่อที่จะได้รับการปกป้อง

ยุคอาณานิคม

ลอร์ดท้องถิ่นจะให้สิทธิแก่ประชาชนในการถือครองตลาดเรือ ค้าขายสินค้า หรือแม้แต่การล่าสัตว์ในยุคนี้ธุรกิจแฟรนไชส์ยังเป็นการเก็บภาษีของประชาชนเพื่อรับการปกป้องจากขุนนางและกษัตริย์

ปีทศวรรษ 1840

ในยุคนี้มีนักต้มเบียร์ชาวเยอรมันชื่อ สพาเท็น ร้านเบียร์ท้องถิ่น เจ้าของโรงเตี๊ยมต่างต้องการเบียร์นี้มาขาย จึงได้จ่ายเงินเพื่อใช้ชื่อแบรนด์ของเบียร์นี้มาขายในร้านของตน

ปีทศวรรษ 1880

แฟรนไชส์ในยุคปัจจุบันเริ่มมาจากยุคนี้ นายไอแซค เมอร์ริท ผู้ก่อตั้ง ไอ.เอ็ม. ซินเกอร์ แอนด์ คอมแพนนี และ เป็นผู้ประดิษฐ์จักรเย็บผ้าที่มีชื่อเสียงเขาได้จดสิทธิบัตรของจักรเย็บผ้านี้และได้ขายให้ผู้ที่ต้องการรวมทั้งสอนวิธีการใช้จักรเย็บผ้านี้ด้วย

626

ปลายทศวรรษ 1800

ผู้ผลิตรถยนต์ต้องการหาทางจำหน่ายรถยนต์ หนึ่งในแนวทางใหม่ในการจำหน่ายรถยนต์คือ ในปีค.ศ. 1896 , วิลเลียม แมทซ์เกอร์ สร้างและเปิดตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แห่งแรกในเดทอย มิชิแกน เมื่อเวลาผ่านไปตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เริ่มเพิ่มขึ้นทุกหนทุกแห่งทำให้เฮนรีฟอร์ดและผู้จำหน่ายรถยนต์รายอื่นๆ ขยายตัวเป็นเครือข่ายแฟรนไชส์เพื่อจำหน่ายรถยนต์ของตน

627

เริ่มทศวรรษ 1900

ประชาชนจำนวนมากซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น บริษัทน้ำมันก็เปิดสถานีเติมน้ำมันเพิ่มมากขึ้นบ้างก็เกิดขึ้นมาเป็นแฟรนไชส์เช่น ยี่ห้อเชฟรอน ที่ยังเป็นแฟรนไชส์อยู่ทุกวันนี้ แฟรนไชส์ร้านอาหารก็เริ่มเกิดขึ้นในปีนี้

ปีทศวรรษ 1960

เรย์ ครอก เป็นผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ McDonald ที่แรกในปี ค.ศ. 1955 ใน เดส เพลนเนส และขยายสาขาถึง 500 สาขาใน 8 ปี ในปัจจุบันมีมากกว่า 34000 สาขา

ปีทศวรรษ 1970 ถึง 1990

แฟรนไชส์บูมมากในปลายปี ทศวรรษ 1950 ถึงจบปีทศวรรษ 1960 แฟรนไชส์เริ่มมีปัญหาในปีทศวรรษ 1970 เพราะ สูญเสียการสนับสนุนแฟรนไชส์ที่ขายออกไป บวกกับบางแฟรนไชส์ถูกบิดเบือนความจริงบางอย่างหลังจากผ่านช่วงแก้ไขปัญหามาแล้ว แฟรนไชส์กลับมาเริ่มต้นอีกครั้งในปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990

ปีทศวรรษ 2000 และอื่นๆ

รูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการอยู่เสมอ

628

ความจริงของแฟรนไชส์สหรัฐ

คาดคะเนว่ามี แฟรนไชส์ 3,383 สาขา ที่ดำเนินการในสหรัฐ ในปลายปี 2018 คาดคะเนว่าจะมีแฟรนไชส์ดำเนินการ 759,236 สาขา
50% เป็นแบรนด์แฟรนไชส์ท้องถิ่น 34 % เป็นแบรนด์แฟรนไชส์ภูมิภาคอื่น 1 ใน 7 ธุรกิจเป็นแฟรนไชส์

ไอเอฟเอ คาดคะเนว่าจำนวนแฟรนไชส์จะดำเนินการเพิ่มขึ้น 1.6% ในปี 2017 และการจ้างงานของแฟรนไชส์จะเพิ่มขึ้น 3.7% ในปี 2018 เฉลี่ยมีแบรนด์แฟรนไชส์เกิดใหม่ 1-2 แฟรนไชส์ในแต่ละวัน

เฉลี่ยมี 300 แบรนด์เริ่มแฟรนไชส์ใหม่ต่อปี ประมาณ 53% ของแฟรนไชส์ทั้งหมดในสหรัฐถูกควบคุมแบบหลายหน่วยงาน
29 อุตสาหกรรมใช้แฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่กระจาย 226 สาขา

รูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ทำให้มีการจ้างงาน 7.6ล้านงาน และให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 674.3 พันล้านดอลล่าร์ สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐเช่น 2.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของสหรัฐ (GDP)

รูปแบบแฟรนไชส์หลัก (63%) ไม่ใช่แบรนด์อาหาร ขณะที่มีเพียง 37% ของแฟรนไชส์ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับอาหาร
โดยเฉลี่ยแล้วมีการลงทุนแฟรนไชส์น้อยกว่า 250,000 ดอลล่าร์

 

อ้างอิงที่จาก https://bit.ly/3ho7Dxw

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต