ประชาสัมพันธ์ ตลาดนัด อย่างไรให้ปัง!

นับเป็นเรื่องพื้นฐานของการทำธุรกิจก็ว่าได้แม้สินค้าที่ว่านี้จะขึ้นชื่อว่าเป็น ตลาดนัด แต่ถึงกระนั้นก็ต้องมีวิธีบริหารจัดการที่จะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่ได้รู้จักและรู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

ซึ่งการสร้างการรับรู้เบื้องต้นนี้ถือเป็นหัวใจของทำตลาดนัดลองคิดดูว่าถ้าเราเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้ามาขายของแต่คนในพื้นที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีตลาดนัดแล้วแบบนี้การซื้อขายจะเกิดได้อย่างไร ทุนหาย กำไรหดแน่ๆ

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าถ้าตกลงปลงใจจะทำธุรกิจตลาดนัดแล้วในระหว่างที่กำลังปรับปรุงพื้นที่หรือติดต่อกับพ่อค้าแม่ค้าให้มาเช่าพื้นที่สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไปคือการประชาสัมพันธ์ที่ขอเน้นย้ำว่า

ควรมีช่วงเวลาที่เหมาะสมไม่ใช่มาทำกันแค่ 7 วันก่อนเปิดตลาด แบบนั้นก็ไม่น่าจะเวิร์คเหมือนกัน แน่นอนว่าเวลาที่เหมาะสมจริงๆ นั้นควรมีอย่างน้อย 1 เดือนก่อนเปิดตลาด แต่ปัญหาก็คือว่าจะทำอย่างไรให้คนรู้สึกสนใจและอยากมาเดินตลาดนัดเปิดใหม่ของเรามากที่สุด

1.ใช้รถกระจายเสียงวิ่งให้ทั่วในเขตพื้นที่บริการ

ตลาดนัด

ภาพจาก goo.gl/ph6nI3

เป็นวิธีที่เรียกว่าเก่าแก่ที่สุดของการโปรโมทตลาดก็ว่าได้ แต่ถึงจะเก่าแก่ก็นับว่าเป็นวิธีที่เห็นบ่อยและได้ผลดีในระดับหนึ่ง จากการทำข้อมูลเชิงสถิติพบว่า การเลือกช่วงเวลาในการวิ่งกระจายเสียงก็มีผลต่อการรับรู้ของคนเช่นกันโดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือตั้งแต่บ่าย 3 โมงไปจนถึง 6 โมงเย็นของวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนเสาร์-อาทิตย์

มี 2 รอบ คือตั้งแต่ 08.00-10.00 น. และตั้งแต่ 15.00 – 18.00 เช่นกัน เหตุผลคือช่วงเวลาเหล่านี้คนจะอยู่ในที่พักอาศัยกันมากที่สุดและเป็นช่วงเวลาที่ก่อให้เกิดความรำคาญน้อยที่สุด ซึ่งเป็นจิตวิทยาที่สำคัญที่ทำให้คนรู้สึกสนใจและอาจทำให้เป็นกระแสบอกกันปากต่อปากเสริมการตลาดได้อีกทางหนึ่งด้วย

2.แจกใบปลิวไปตามหมู่บ้านและย่านที่พักอาศัย

tt2

ภาพจาก goo.gl/hdE8vT

นี่คือวิธีเพิ่มการรับรู้ที่ดีแต่ก็มีความเสี่ยงมากเช่นกัน จากผลการสำรวจระบุว่า มีใบปลิวไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์จะกลายเป็นเพียงเศษกระดาษ นั้นคือเจ้าของบ้านแทบจะไม่หยิบมามองบางครั้งขยำทิ้งถังขยะแทบจะในทันทีที่หยิบด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยๆ ก็มีประมาณ 30 เปอร์เซ็นที่หยิบมาอ่านและในนั้นจะกลายเป็นลูกค้าได้แม้จะมีสัดส่วนไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ก็ตามที

วิธีการที่แจกใบปลิวแล้วสูญเปล่าน้อยที่สุดคือ แจกแล้วติดตามผลร่วมด้วยซึ่งก็อาจจะยุ่งยากขึ้นมาอีกหน่อยแต่อย่างน้อยการเดินเข้าถึงตัวลูกค้าหลังจากการแจกใบปลิวก็ทำให้ลูกค้ารับรู้ได้มากขึ้น ซึ่งวิธีเราจะเห็นได้จากการจัดงานแสดงสินค้าซึ่งก็สามารถเอามาประยุกต์ใช้ในการประชาสัมพันธ์ตลาดนัดได้เช่นกัน

3.ขึ้นป้ายคัทเอาร์หรือบิลบอร์ดให้ชัดเจน

tt3

ภาพจาก goo.gl/I9XVrW

ถ้าเลือกการประชาสัมพันธ์ด้วยวิธีนี้ก็ต้องมองหาจุดที่เกิดประโยชน์สูงสุดในการติดตั้งเพราะสื่อแบบเคลื่อนที่ไม่ได้นี้จะไร้ประโยชน์ทันทีถ้าไม่มีคนมองเห็น ซึ่งปัจจุบันราคาของบิลบอร์ดหรือไวนิลประเภทOutdoor นั้นจะคิดกันเป็นตารางเมตรตั้งแต่ 300 บาท/ตร.ม. เป็นต้นไป

แต่ถ้าใช้ป้ายขนาดเล็กราคาก็อาจจะสูงกว่านี้ได้ ก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของผู้จัดทำป้ายแต่ละคน สิ่งสำคัญที่ควรอยู่ในป้ายคัทเอาร์หรือบิลบอร์ดคือ รูปแบบของตลาด ชื่อตลาด วันเวลาที่จะเปิด ไม่ต้องเน้นข้อความมากเพราะส่วนใหญ่จะเป็นการมองผ่านแบบรวดเร็วใช้ข้อความน้อยอ่านง่ายเข้าใจเร็วจะได้ผลดีที่สุด

4.ใช้ประโยชน์จากวิทยุชุมชนให้เป็นประโยชน์

tt4

ภาพจาก goo.gl/l1GHM4

วิทยุชุมชนที่ว่านี้ไม่จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นตลาดนัดในต่างจังหวัดเท่านั้นในเขตกรุงเทพฯบางแห่งก็มีสถานีชุมชนเป็นของตัวเองเช่นกัน และถ้าตลาดนัดของเราเปิดในพื้นที่ซึ่งมีสถานีวิทยุชุมชนที่ว่านี้ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบที่ดีทีเดียว

เพราะการลงทุนโฆษณาผ่านสถานีวิทยุชุมชนนั้นเพียงเดือนละไม่เกิน 20,000 บาท แต่สามารถกระจายเสียงให้คนฟังในพื้นที่ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 คนหรือถ้าในเขตไหนมีที่พักอาศัยอยู่มาก การรับรู้ที่เกิดขึ้นก็จะมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

5.ประชาสัมพันธ์ผ่านโลกออนไลน์

tt5

เรียกว่าตกเทรนด์กันเลยทีเดียวกับการประชาสัมพันธ์ในยุคสมัยนี้แล้วไม่คิดจะทำการตลาดผ่านโลกออนไลน์ ช่องทางสื่อสารที่ได้ผลและเข้าถึงคนจำนวนมากก็เช่น Line , Facebook ดังนั้นถ้าคิดจะทำตลาดและอยากให้คนมาเดินกันมากๆควรถ่ายภาพของตลาดในมุมสวยๆหรือหาภาพที่เกี่ยวข้องมานำเสนอแล้วเพิ่มเพื่อนเข้าไปให้มากที่สุดส่งข้อความประชาสัมพันธ์ออกไปให้หลากหลายกลุ่ม

ยิ่งปัจจุบันช่องทางของ Facebook เองก็มีหลายฟีเจอร์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตลาดเช่นการ Live ถ้าเจ้าของตลาดรู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีได้ดีนอกจากประหยัดต้นทุนได้มากยังเป็นการสร้างกระแสที่น่าสนใจได้เป็นอย่างดีทีเดียว

และยิ่งปัจจุบันการทำธุรกิจไม่ว่าจะเปิดร้านค้าสร้างธุรกิจแฟรนไชส์หรือว่าทำธุรกิจตลาดนัดมีเครื่องมือในโลกออนไลน์ที่พร้อมจะทำให้กิจการนั้นประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นเช่นการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เช่น www.thaifranchisecenter.com ที่เป็นศูนย์รวมของธุรกิจจำนวนมากและรวมทำเลน่าสนใจและเป็นเส้นทางลัดให้ผู้ประกอบการได้พบกับความสำเร็จทางธุรกิจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

สนใจเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaifranchisecenter.com

หรือสนใจการทำตลาดนัดและมองหาทำเลน่าสนใจเราก็มีรวบรวมไว้มากมายเช่นกัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ goo.gl/ZegEJf

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด