ธุรกิจออนไลน์ขายดีด้วยเทคนิค 3:2

ตัวเลขของตลาดออนไลน์ช็อปปิ้ง ในไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างโดดเด่น เฉลี่ย 15-20% ต่อปี หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 214,000 ล้านบาท ในทางกลับกันรายได้ของธุรกิจค้าปลีกผ่านช่องทางเดิมอย่าง Offline มีการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งมาจากการเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดในบางกลุ่มสินค้าของออนไลน์ช็อปปิ้ง พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปี 2561 ตลาด B2C-Online-Shopping (เฉพาะสินค้า) จะมีมูลค่าตลาดประมาณ 256,000 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 470,000 ล้านบาทในปี 2565 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 16% ต่อปี ทำให้ช่องทางออนไลน์ช็อปปิ้ง มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 5% ในปี 2560 เป็น 8.2% ในปี 2565 เมื่อเทียบกับภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั้งระบบ โดยรูปแบบของ e-Market Place จะเป็น Online-Platform ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

www.ThaiSMEsCenter.com ต้องการให้ทุกคนที่กำลังสนใจในการลงทุนทำธุรกิจออนไลน์ได้มีเทคนิคที่จะช่วยทำให้ขายดียิ่งขึ้นหนึ่งในเทคนิคน่าสนใจคือ3ข้อต้องทำกับ2ข้อต้องห้ามมีอะไรบ้างไปดูกัน

3ข้อต้องทำ

1.ตั้งราคาให้ถูกต้องเหมาะสม

ธุรกิจออนไลน์ขายดีด้วยเทคนิค 3:2

สินค้าออนไลน์จะขายดีการตั้งราคาเป็นด่านแรกที่จะดึงดูดคนให้สนใจได้ คำว่าการตั้งราคาจึงไม่ใช่แค่ให้ “ถูก” แต่ควรจะ “ถูกต้อง” คำว่าถูกต้องคือมีการเช็คราคาสินค้านั้นๆว่าส่วนใหญ่ในตลาดขายอยู่เท่าไหร่ แล้วควรตั้งราคาให้ใกล้เคียงกับราคากลาง โดยดูจากสภาพสินค้าของตัวเองเป็นสำคัญ การตั้งราคาให้ถูกกว่าคนอื่นไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คนอยากซื้อ เพราะคนซื้อเองเขาก็อยากได้สินค้าที่มีคุณภาพซึ่งเหมาะสมกับราคา การตั้งราคาที่ถูกต้องเหมาะสมจึงถือว่า win win ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

2.ใส่รายละเอียดให้ชัดเจน

177

 ภาพจาก  https://goo.gl/xkqF2n

ข้อเสียของการขายออนไลน์คือคนซื้อกับคนขายไม่ได้พูดคุยกันโดยตรงในครั้งแรก คนซื้อจะเห็นเพียงข้อมูลที่ผู้ขายเอามาโพสต์ลงเท่านั้น ดังนั้นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเหล่านี้ต้องชัดเจน บอกให้ลูกค้าทราบตรงๆว่าเราจะขายสินค้าอะไร สีไหน รุ่นไหน ยี่ห้ออะไร สภาพมือหนึ่งหรือมือสอง ที่สำคัญไม่ควรใส่คำว่า “Sale” หรือ “ขายถูก” ในรายละเอียดเพราะดูเหมือนเป็นการหลอกลวงให้คนมาซื้อมากกว่า

3.ถ่ายภาพให้คมชัดในทุกมุม

178

ภาพจาก https://goo.gl/qQu2xg

รูปภาพเป็นปัจจัยหลักในการสื่อสารที่ดึงดูดคนให้เข้ามาดูสินค้า ดังนั้นคนขายสินค้าจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้จักการถ่ายภาพให้ออกมาสวยงาม ภาพมีความคมชัด โดยต้องมีความละเอียดของรูปภาพแบบ High-quality สำหรับคนมาขยายภาพดูแล้วไม่แตก นอกจากนี้ควรจะถ่ายภาพในหลายๆมุมของสินค้า และถ้าเป็นสินค้ามือสองมีตำหนิก็ควรถ่ายภาพที่เป็นตำหนินั้นโพสต์ลงไปด้วย เพื่อให้คนซื้อได้เห็นจะได้ตัดสินใจยอมรับได้หรือไม่ เท่ากับเป็นการไม่หลอกลวงคนซื้อที่จะทำให้เรามีฐานลูกค้ามากขึ้นในอนาคตด้วย

2 ข้อต้องห้าม

1.ข้อเสนออย่าดีจนเว่อร์

179

ภาพจาก https://goo.gl/9h1rvg

การทำโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถมในการค้าออนไลน์เราสามารถทำได้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่ามีพ่อค้าบางรายที่ดึงดูดคนด้วยโปรโมชั่นและสินค้าไม่ได้ดีอย่างที่โพสต์ไว้ เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าใจผิดและตีความเหมารวมของลูกค้าเราจึงไม่ควรตั้งข้อเสนอที่ดีจนเว่อร์ จนลูกค้ารู้สึกว่าจะลดแลกแจกแถมอะไรมากมายขนาดนั้น ดีลไหนที่ดีจนเว่อร์คนมักจะมองข้ามเพราะรู้สึกว่ามันคือการหลอกลวงและไม่มีความสมเหตุสมผล

2.อย่ารีบร้อนเรื่องเงิน

180

ภาพจาก https://goo.gl/hJRg8q 

ขายของก็อยากได้เงินแน่นอนใครทำธุรกิจก็ต้องคิดเช่นนี้ แต่บางทีการรีบร้อนเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะที่ยุคนี้ฉ้อฉลกลโกงมีหลายรูปแบบ คนซื้อเองก็กลัวคนขายหลอก คนขายเองก็กลัวคนซื้อโกง ดังนั้นที่ดีที่สุดคืออย่ารีบร้อนกันทั้งสองฝ่าย หากเราเป็นคนขายและมีคนสนใจซื้อสินค้า ควรให้โอกาสลูกค้าได้ตรวจเช็คสินค้าก่อน ในกรณีที่นัดพบกันและปิดการขายแบบพบหน้า แต่ในกรณีที่ปิดการขายแบบจัดส่งสินค้าเราก็ไม่ควรส่งสินค้าก่อนเช่นกัน แต่ควรให้ลูกค้ามีเวลาในการตัดสินใจกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจนภายในเวลาเท่าไหร่ที่เขายังมีสิทธิ์ในสินค้านั้นหากเกินกำหนดเวลามีคนสนใจเข้ามาเราก็สามารถขายสินค้านั้นให้กับคนอื่นได้เช่นกัน

ในแง่ของเทคนิคการขายออนไลน์ปัจจุบันมีอยู่มากมาย และมีหลายธุรกิจที่เป็นแพลตฟอร์มช่วยให้เรามีช่องทางการทำตลาดออนไลน์ได้ง่ายขึ้น สิ่งที่ต้องยอมรับในปัจจุบันคือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มากขึ้นกว่าแต่เก่าก่อนมากดังนั้นโอกาสในการทำกำไรจากการค้าก็น้อยลงด้วยเช่นกัน เว้นแต่ว่าเราจะมีการตลาดที่ดีกว่า จังหวะการขายสินค้าที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีกว่า เราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เช่นกัน


สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด