ธุรกิจร้านชานม กาแฟ รายได้ 1 หมื่นบาท/วัน

ธุรกิจเครื่องดื่ม ต่อให้มีคู่แข่งมากแค่ไหน สินค้าก็ยังขายง่ายขายดีส่วนจะขายได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้า บริการ และทำเล เป็นสำคัญ โดยเฉพาะเครื่องดื่มสุดฮิตอย่าง ชา กาแฟ

ที่ต่อแต่นี้ไปจนถึงวันโลกแตกก็คงไม่มีเครื่องดื่มอะไรมาฮิตแซงหน้าไปด้วย ปี 2562 มูลค่าตลาดชานมประมาณ 2,500 ล้านบาท มีหลายระดับ หลายราคาตั้งแต่แก้วละ 20-30 แก้วละ 35-50 ไปจนถึงแก้วละ 80-100 ตามแต่ชนิดของแบรนด์สินค้า

ธุรกิจร้านชานม

ภาพจาก https://bit.ly/38LOWyq

กระแสความฮิตของชานม กาแฟ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่านอกจากจะทำให้เกิดธุรกิจรายใหม่อย่างต่อเนื่อง บรรดายักษ์ใหญ่ในธุรกิจเครื่องดื่มเองก็ปรับตัวสร้างเมนูที่สอดคล้องรองรับลูกค้าจำนวนมากเช่น สตาร์บัคส์ ร้านกาแฟแบรนด์ดัง ที่สินค้าหลักคนรู้จักคือกาแฟต่างๆ

ยังเปิดตัวเมนูใหม่คือดาร์ก คาราเมล คอฟฟี่ สเฟียร์ แฟรปปูชิโน ที่ภายในมีเมล็ดไข่มุก หรือ เพิร์ลกาแฟ จากประเทศบราซิล หรือ “บาวคาเฟ่ของร้านสะดวกซื้อ ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ปจากเดิมที่มีบริการเฉพาะเมนูกาแฟก็ได้นำไข่มุกมาผสมในเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ราคาเริ่มต้น 25 บาท เป็นต้น

อะไรที่ทำให้ “ชา” “กาแฟ” ฮิตตลอดกาล

50

ภาพจาก www.facebook.com/firetigerbyseoulcialclub/

คำถามนี้ตอบไม่ยาก “โซเชี่ยล” นี่แหละคือคำตอบสุดท้าย ถ้าไม่เชื่อลองไปสืบค้นใน Facebook, Instagram, LINE หรือ Twitter เราจะต้องเห็นคนโพสต์ชานม กาแฟ ต่างๆ ยิ่งสมัยที่ฮิตหนักๆ เรียกว่าฟีดข่าวแต่ละทีก็เห็นแต่เมนูชา กาแฟ แบบนี้จะไม่ทำให้เราอยากกินได้ยังไง ยิ่งร้านชากาแฟ ยุคใหม่มีการแต่งเติมแปลงโฉมให้เครื่องดื่มหน้าตาสวยและน่ากิน

ทำให้ลูกค้าอยากโพสต์เครื่องดื่มที่สั่งลงบนโลกโซเชียล เป็นเหมือนการตลาดที่ จนมีคนพูดกันว่า เครื่องดื่ม “ชา” “กาแฟ” มันไม่ใช่แค่เทรนด์ฮิตอีกต่อไปแต่เครื่องดื่มเหล่านี้คือ “ไลฟ์สไตล์” ที่ลูกค้ารู้สึกผูกพันและดึงเอามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวันไหนไม่ได้ซื้อไม่ได้กินเหมือนชีวิตขาดหายอะไรไปสักอย่าง จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจชานมจะมีการเติบโตในรูปแบบของ

แฟรนไชส์ เพราะสามารถขยายสาขาได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด ผู้ลงทุนเองก็พอใจที่จะไม่ต้องไปเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่ต้องคิดสูตรเครื่องดื่มเอง ไม่ต้องหาอุปกรณ์การขายเอง ไม่ต้องสร้างแบรนด์ให้คนรู้จัก แค่ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ราคาตั้งแต่หลักหมื่น ถึงหลักแสน ตามแต่ที่ต้องการ ก็สามารถสร้างธุรกิจดีๆให้กับตัวเองและครอบครัวได้

ร้าน “ชา” “กาแฟ” คู่แข่งเยอะ ทำยังไงถึงจะขายดี

49

ภาพจาก www.facebook.com/firetigerbyseoulcialclub/

ปัญหาต่อมาคือเมื่อทุกคนมองว่ “ชา” “กาแฟ” คือเครื่องดื่มที่เป็นไลฟ์สไตล์ คิดอะไรไม่ออก ก็เลือกลงทุนเปิดร้าน ชา กาแฟ เมื่อเป็นดังนี้ทำให้มองว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่ร้าน ชา กาแฟ เกลื่อนเมืองไปหมด แล้วเมื่อตัวเลือกมีเยอะขนาดนี้ทำยังไงถึงจะขายดี ลองไปดู

1.หาสินค้าที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์

48

ภาพจาก bit.ly/38QPVgR

ในกรณีที่เป็นแบรนด์ของตัวเองอาจต้องใช้ไอเดียสร้างเมนูที่มีเฉพาะกับของเราเท่านั้นให้คนรู้จัก เช่น The Alley มีจุดเด่นที่ไข่มุกรสหอมหวานบวกกับเสต็ปในการเขย่าก่อนดื่ม หรือ Fire Tiger มีจุดเด่นคือน้ำตาลไหม้บนเครื่องดื่มที่ทำให้รสชาติหอมหวานมีเอกลักษณ์ หรือถ้าเราซื้อแฟรนไชส์มาลงทุนไม่ได้มีแบรนด์ตัวเอง ก็อาจใช้วิธีตกแต่งเมนูให้สวยงามน่ากินและแตกต่างออกไป หรืออาจจะเลือกใช้แก้วสีสันสดใส หรือแพคเกจจิ้งใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น เหล่านี้ก็เป็นการกระตุ้นยอดขายได้ทั้งนั้น

2.บัตรสะสมแต้ม

47

ภาพจาก bit.ly/3aOk8yH

เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจและน่าจะเห็นบ่อย ช่วยให้ลูกค้ามีแรงจูงใจในการซื้อมากขึ้นหากมีการสะสมคะแนนแลกของรางวัลสะสมแต้ม 10 แก้ว แลก 1 แก้วก็ถือว่าดีหรือจะพลิกแพลงใช้ระบบสมาชิกรายเดือน เช่น 1 เดือนดื่ม 20 แก้วหากแก้ว 50 บาทลูกค้าต้องจ่าย 1,000 บาท เราให้ลูกค้าสมัครสมาชิกรายเดือนแล้วจ่ายเพียง 900 บาท ก็น่าสนใจไม่น้อย

3.โปรโมชั่นขายพ่วง

หรือเรียกว่าโปรโมชั่นแบบแพ็คคู่ เช่น ซื้อกาแฟ 1 แก้วคู่กับชาเขียว 1 แก้วได้ส่วนลด xx บาท จะช่วยเพิ่มค่าเฉลี่ยต่อการซื้อใน 1 ครั้งให้มากขึ้น และแน่นอน ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

4.ระบบ POS ช่วยให้บริหารร้านดีขึ้น

46

ภาพจาก bit.ly/2tNAsiK

การใช้ระบบ POS ช่วยในการขายถือว่ามีประโยชน์มาก POS ยุคใหม่มีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมหลายอย่างเช่น เลือกเครื่องดื่มหรือเพิ่มท็อปปิ้งได้ตามใจลูกค้า, ติดตามการขายและข้อมูลสต๊อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ,สั่งซื้อสินค้าได้แบบอัตโนมัติเมื่อสต๊อกเริ่มเหลือน้อย, มีฟังก์ชั่นตัดสต๊อก ที่ทำให้เจ้าของร้านรู้ทันทีว่าวัตถุดิบชนิดไหนเหลือเท่าไหร่ ช่วยให้บริหารจัดการได้ง่ายและสะดวกขึ้น

ตัวอย่างแฟรนไชส์ที่คำนวณรายได้จากการลงทุนชัดเจน

ปัจจุบันมีแฟรนไชส์เครื่องดื่มชา กาแฟ ที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งแต่ละแฟรนไชส์ก็มีแพคเกจการลงทุนที่หลากหลาย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพัน ไปถึงหลักแสน บางแฟรนไชส์ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีส่วนแบ่งยอดขาย และแถมยังเป็นที่ปรึกษา ช่วยเหลือการตลาด และพัฒนาเมนูใหม่ๆ มาอัพเดทให้ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าคนลงทุนก็คงอยากรู้ว่าแฟรนไชส์ชา กาแฟเหล่านี้มีโอกาสสร้างรายได้มากขนาดไหนในแต่ละเดือนเรามีตัวอย่างมาให้ดูกัน

1.เอ็มมิลค์ นมสดแท้ 100%

45

แฟรนไชส์เครื่องดื่มยอดฮิตที่มีสาขาปัจจุบันกว่า 455 สาขา มีหลายแพคเกจลงทุนให้เลือก งบการลงทุนตั้งแต่ 19,000 – 39,000 บาท ผู้ลงทุนส่วนมากสามารถสร้างรายได้มากกว่างานประจำที่ทำ โดยทางแฟรนไชส์ได้คำนวณเรื่องผลตอนแทนเบื้องต้นจากการลงทุนคือ ราคาเครื่องดื่มขั้นต่ำ แบบเย็น แก้วละ 25 บาท ต้นทุนอยู่ที่ 8.50-16.00 บาท(ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องดื่ม) แฟรนไชส์ซีสามารถมีกำไรจากการลงทุนถึง 50% จากยอดขาย แต่ละวันอาจทำให้ผู้ลงทุนมีกำไรจาการขายไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 -2,000 บาทเป็นอย่างน้อยขึ้นอยู่กับทำเล โอกาสที่แต่ละเดือนสร้างรายได้กว่า 30,000 ไม่ใช่เรื่องยาก

สนใจลงทุน โทร.083-9359663, 094-8788894


2.เอชเจ เฟรชมิลค์ ปังหยา-นมสด

44

อีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ก่อตั้งมานานกว่า 13 ปีมีสาขากว่า 300 แห่งทั่วประเทศ มีแพคเกจลทุนให้เลือกกว่า 6 แบบ งบในการลงทุนประมาณ 18.900 – 59,990 บาท ทุกแพคเกจมีอุปกรณ์การขายครบชุดพร้อมการฝึกอบรม คู่มือการขาย วัตถุดิบสำหรับการเปิดร้าน โดยคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนไว้เบื้องต้นคือ เครื่องดื่ม,ขนมปังปิ้ง,ขนมปังเย็น, กำไรประมาณ 50% , ขนมปังสังขยา กำไรประมาณ 40% โดยทั่วไปหากอยู่ในทำเลที่ดีโอกาสคืนทุนประมาณ 1-2 เดือนและสร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัดพร้อมโอกาสในกาสขยายสาขาตัวเองเพิ่มมากขึ้นได้

สนใจลงทุน โทร.089-6738594, 086-5448738, 087-7033490, 02-4084591


3.กาแฟสดบราซิล อัฟ คอฟฟี่

43

ธุรกิจร้านกาแฟที่มีประสบการณ์มานานกว่า 10 ปีงบในการลงทุน 20,000 – 200,000 บาทขึ้นอยู่กับแพคเกจที่เลือกลงทุน มีอุปกรณ์การขาย และเครื่องมือการชงกาแฟให้ตามแต่แพคเกจที่เลือก พร้อมกันนี้ทางแฟรนไชส์ได้คำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนเบื้องต้นคือ ราคาขาย 45 – 55 บาท/แก้ว ต้นทุน 20 – 25 บาท/แก้ว กำไรต่อแก้ว 25 – 30 บาท/แก้ว หากขาย 100 แก้ว/วัน จะมียอดขาย ไม่ต่ำกว่า 130,000 – 150,000 บาท ต่อเดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเล การบริหารจัดการ และปัจจัยแวดล้อมทางกายภาพในพื้นที่การขาย เป็นสำคัญ

สนใจลงทุน โทร.085-3568159


4.โมโม่ฉะ ชานมไข่มุกไต้หวัน

42

จุดเด่นคือราคาเริ่มต้นเพียง 19 บาท และมีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกรวมกว่า 30 เมนู ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศ 31 แห่ง สามารถเลือกลงทุนได้ราคาเริ่มต้น 39,000 บาท เปิดร้านได้ทันที โดยทางแฟรนไชส์สอนฟรีทุกเมนู ฟรีค่าธรรมเนียม ไม่แบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย และคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนว่ามีกำไรจากสินค้าประมาณ 60% จากยอดขายโอกาสคืนทุนภายใน 3 เดือนโดยขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ

สนใจลงทุน โทร.092-4459942


5.มารุชา

41

เป็นอีกแฟรนไชส์ยอดฮิตที่ชูจุดเด่นด้วยราคาสินค้าเริ่มต้น 19 บาท การันตีคุณภาพด้วยสาขาทั่วประเทศกว่า 401 แห่ง มีหลายแพคเกจลงทุนให้เลือกตามความต้องการ งบในการลงทุนตั้งแต่ 59,000 – 259,000 บาท ทุกแพคเกจมีอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน การฝึกอบรมก่อนเปิดร้าน สอนสูตรเครื่องดื่ม แถมยังไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายปี ไม่หักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย และคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนมีกำไรต่อแก้ว 59% เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์สำหรับคนอยากสร้างรายได้ที่ดีอาจมีรายได้หลายพันบาทต่อวัน รายได้รวมต่อเดือนหลายหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับทำเล การบริหารจัดการ เป็นสำคัญ

สนใจลงทุน โทร.065-2905063 , 056-000845


และนอกจากแฟรนไชส์ที่ยกตัวอย่างเหล่านี้ยังมีอีกหลายแฟรนไชส์เครื่องดื่มที่น่าสนใจซึ่งสามารถสร้างรายได้ที่ดีสำหรับคนสนใจลงทุนสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมและเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่ตัวเองต้องการได้

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/38LrZvf
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงข้อมูลจาก https://bit.ly/36Iby19

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด