ต้นทุน 0 บาท สร้างอาชีพอะไรได้บ้าง!
ไม่ว่าจะ เริ่มต้นทำธุรกิจ อะไรยังไงก็ต้องใช้เงินในการเริ่มต้น ไม่ว่าจะใช้มาก ใช้น้อย แต่ยังไงก็ต้องใช้เงินอยู่ดี คำว่า “ต้นทุน 0 บาท” ในทางปฏิบัติจึงแทบจะเป็นเรื่องที่ไม่มีอยู่จริง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
www.ThaiSMEsCenter.com ลองมาคิดทบทวนไปมา ก็มองว่ามีหลายอาชีพที่เริ่มต้นจากเงินทุน 0 บาท ได้จริง เพียงแต่การเริ่มต้นแบบนี้เราต้องเหนื่อยมากขึ้น ทำงานมากขึ้น ออกแรงมากขึ้น เพราะเราเริ่มจากไม่มีอะไร
และในช่วงแรกไม่มีทางที่อาชีพเหล่านี้จะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำทันที หากแต่อดทนทำไปเรื่อยสะสมเงินทุนให้มากขึ้น อาจนำเงินดังกล่าวมาต่อยอดธุรกิจให้ดีกว่าเดิม แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเช่นกัน ลองมาดู 7 อาชีพที่เราแน่ใจว่าไม่มีเงินก็เริ่มต้นได้ทันที
1. ครูสอนพิเศษตามบ้าน
ภาพจาก bit.ly/3IJIyuF
ธุรกิจนี้เริ่มต้นได้แบบไม่ใช้เงินทุนแม้แต่บาทเดียว แต่ก็ต้องเป็นคนมีความรู้ มีทักษะในการสอน เริ่มต้นจากเขียนป้ายประกาศรับสอนเด็ก อาจเริ่มจากแถวบ้านตัวเอง ราคาเริ่มต้นก็ไม่ควรให้แพงเกินไปชั่วโมงละ 100-200 บาท เพื่อให้คนได้รู้จักเรา หากสอนดี ผู้ปกครองเชื่อใจไว้ใจ ก็อาจทำให้เรามีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
หรือหากจะเพิ่มรายได้ให้มากขึ้นก็อาจจะใช้การโพสต์ลงโซเชี่ยลรับสอนพิเศษที่อาจทำให้เรามีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ก็ถือว่าไม่ถือว่าเป็นเงินทุนในการเริ่มต้นทำธุรกิจ และอย่าคิดว่าการเป็นติวเตอร์แบบนี้จะไม่สร้างรายได้ที่ดี หากทำไปนานๆ จนมีประสบการณ์ มีคนรู้จัก และเริ่มมีเงินทุนมากขึ้น อาจเปิดเป็นสถาบันเล็กๆ นับเป็นจุดเริ่มต้นสู่การสร้างอาชีพที่ดีต่อไปได้
2. รับจ้างถ่ายภาพ/ ขายรูปภาพออนไลน์
ภาพจาก freepik
การรับจ้างถ่ายภาพ เริ่มต้นได้โดยไม่ต้องลงทุนแต่ก็ต้องมีอุปกรณ์ และมีความรู้ด้านการถ่ายภาพ ช่างภาพส่วนใหญ่มักเริ่มจากการรับงานให้กับคนใกล้ตัว ญาติสนิท เพื่อน เป็นการฝึกฝีมือและสะสมประสบการณ์ เมื่อมีความมั่นใจมากพอค่อยขยับไปรับงานทั่วไป โดยอาจใช้การโพสต์ให้คนรู้จักผ่านโซเชี่ยล
หรือหากมีฝีมือในการถ่ายภาพจริง ลูกค้าจะบอกกันปากต่อปาก ทำให้เรามีงานมากขึ้น รายได้ก็จะมากขึ้น รายได้ของการเป็นช่างภาพก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท บางงานอาจได้สูงกว่า 5,000 ก็ตามแต่การตกลง นอกจากนี้คนเป็นช่างภาพอาจมีวิธีสร้างรายได้ด้วยการขายภาพถ่ายผ่านโลกออนไลน์โดยมีหลายเว็บไซต์ เช่น Shutter Stock หรือจะเป็น Adobe Stock เป็นต้น
3. Dropship
ภาพจาก freepik
Dropship เป็นโมเดลการทำธุรกิจแบบตัวแทนจำหน่ายรูปแบบใหม่ โดยที่ผู้เป็นตัวแทนของแบรนด์ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้ามาสต๊อกไว้เพื่อขายให้ลูกค้า โดยหน้าที่ที่ตัวแทนจำหน่ายต้องทำก็คือ นำเอาข้อมูลสินค้าหรือบริการไปประกาศขาย เผยแพร่ และทำการตลาดในช่องทางต่าง ๆ เมื่อมีลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาผ่านตัวแทนจำหน่าย
เจ้าของผลิตภัณฑ์จะเป็นฝ่ายจัดส่งสินค้าในคลังไปยังลูกค้าได้ทันทีโดยเจ้าของผลิตภัณฑ์อาจจะเป็นผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่จากเว็บไซต์ซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ในต่างประเทศ เช่น eBay Amazon หรือ Alibaba เมื่อนำเข้าแล้วไม่อยากตั้งหน้าร้านขายสินค้าเอง จึงเปิดรับตัวแทนจำหน่ายในรูปแบบ Dropship
โดยที่ตัวแทนที่สมัครเข้ามาไม่ต้องสต๊อกสินค้า เพียงแค่นำข้อมูลสินค้า รูปภาพ โลโก้แบรนด์ไปตั้งร้านขายผ่านช่องทางออนไลน์ หากลูกค้าสั่งสินค้าเข้ามา ตัวแทนก็จะทำการส่งคำสั่งซื้อไปยังเจ้าของผลิตภัณฑ์ จากนั้นเจ้าของผลิตภัณฑ์จะเป็นผู้จัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าของตัวแทน โดยระบุใบจ่าหน้าออเดอร์ให้เสมือนกับร้านค้าตัวแทนเป็นผู้ส่งไปเอง
4. เขียนบทความออนไลน์
ภาพจาก freepik
เป็นการเขียนคอนเทนต์ต่างๆลงในเว็บไซต์ เช่น ข่าว รีวิวสินค้า ตามแต่ลูกค้าจะจ้างให้เขียน ถือเป็นงานอิสระที่ยังสามารถทำได้และสร้างรายได้ที่ดี เพียงแค่ต้องมีทักษะมีความสามารถและรู้จักถ่ายทอดความรู้ที่เรามีมาเป็นตัวหนังสือให้คนทั่วไปได้อ่าน รายได้ของอาชีพรับจ้างเขียนบทความ โดยส่วนใหญ่ค่าจ้างอยู่ที่ 100 คำ (นับจากไมโครซอฟร์เวิร์ด) ได้ 10 บาท ถ้าเขียนได้ 500 คำรายได้ต่อบทความก็ประมาณ 50 บาท
ส่วนรายได้รวมนั้นจะมากหรือน้อยอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถ ประสบการณ์ และจากผู้จ้างงานเองว่ามีความเป็นมืออาชีพในการจ้างงาน จ่ายเงินมากน้อยแค่ไหน ปัจจุบันหลายคนมองหาช่องทางสร้างอาชีพลักษณะนี้ซึ่งหาข้อมูลได้ในอินเทอร์เนต และขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลของนายจ้างแต่ละที่ให้ดีก่อนตัดสินใจทำงาน
5. ตัวแทนขายประกันชีวิต
ภาพจาก freepik
การเป็นตัวแทนประกันชีวิตอาจไม่ใช่อาชีพในฝันของใครหลายคน แต่เป็นอาชีพที่หากทำจริง ขยัน ตั้งใจ สามารถสร้างรายได้ที่ดีอย่างมาก ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเริ่มต้น เพียงแต่ตอนแรกต้องมีการอบรมเพื่อขอรับใบอนุญาต จากนั้นก็จะมีหัวหน้าทีมสอนงานการขาย วิธีการขาย เทคนิคการขาย ที่เหลือก็คือให้เราค่อยๆ ฝึกปรือฝีมือในการขาย
ตัวแทนส่วนใหญ่จะหาความมั่นใจในการขายเปิดลูกค้าจากคนใกล้ตัว เช่น พ่อแม่ เพื่อน ญาติสนิท จากนั้นค่อยขยับไปยังกลุ่มคนทั่วไป รายได้ของการเป็นตัวแทนประกันจะหักเปอร์เซ็นต์จากเบี้ยประกันของลูกค้า สัดส่วนเท่าไหร่ก็ตามแต่ละบริษัท ส่วนใหญ่จะมีรางวัลพิเศษสำหรับคนที่ทำยอดขายได้ตามเป้า หลายคนที่อยู่แวดวงขายประกันชีวิตก็สามารถมีบ้าน มีรถ มีเงินทองมากมายไม่แพ้อาชีพอื่นๆ เช่นกัน
6. ขายงานแฮนเมดด์/ D.I.Y (ออนไลน์)
ภาพจาก freepik
สำหรับคนที่รักในงานประดิษฐ์มีไอเดียสร้างสรรค์สามารถหยิบจับเอาของเหลือใช้ในบ้านมาดัดแปลงเป็นงานแฮนเมดด์ หรือ D.I.Y. ปัจจุบันสามารถโพสต์ขายผ่านอินเทอร์เนตได้ง่ายๆ และสร้างรายได้ที่ดี ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าว่าจะสวยงามน่าสนใจและเพิ่มมูลค่าได้มากแค่ไหน
ยกตัวอย่างบางคนมีทักษะในการดัดลวดก็หยิบเอาลวดมาทำเป็นตุ๊กตา มอเตอร์ไซด์ ขายได้ชิ้นละไม่ต่ำกว่า 100-200 บาท หรือมีฝีมือด้านการตัดเย็บ เย็บปักถักร้อย จะเลือกถักไหมพรมขาย ตัดเสื้อผ้าขาย หรือมีฝีมือด้านช่างไม้ก็อาจนำเศษไม้เก่าๆ มาดัดแปลงเป็นของใช้ต่างๆ ราคาก็ขึ้นอยู่กับสินค้าเป็นสำคัญ ยิ่งไอเดียดี ยิ่งขายได้ราคาแพง แถมไม่ต้องลงทุนอีกด้วย
7.ลงทุนแฟรนไชส์แบบสร้างอาชีพ
การลงทุนแบบต้นทุน 0 บาท หลายคนบอกว่าไม่มีหรอกแฟรนไชส์ที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน ถ้ามองในแง่นั้นก็อาจจะใช่แต่หลายแฟรนไชส์ก็ได้ปรับกลยุทธ์ให้ขายได้ง่ายขึ้น บางแฟรนไชส์มีโปรผ่อนค่าแฟรนไชส์ หรือบางแฟรนไชส์ก็มีสอนเฉพาะคอร์สไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ หรือบางแฟรนไชส์ก็เปิดโอกาสให้เขาไปพูดคุยปรึกษา
อย่าง แฟรนไชส์ ธงไชย ผัดไทย ที่แม้จะมีค่าแฟรนไชส์ในการเริ่มต้น แต่สำหรับคนไม่มีเงินทุน หรือมีเงินทุนน้อย ก็สามารถเข้าไปพูดคุยปรึกษาว่าหากต้องการจะลงมือทำจริง จะสามารถเริ่มต้นแบบไหนอย่างไร และทางแฟรนไชส์จะสนับสนุนอะไรได้บ้าง ทั้งนี้แฟรนไชส์ธงไชย ผัดไทย ถือเป็นอีกแฟรนไชส์ที่มุ่งมั่นตั้งใจจะสร้างอาชีพให้กับคนไทยในยุค Covid 19 นี้
การเริ่มต้นจาก 0 ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสเติบโตและประสบความสำเร็จหลายคนมองว่าอาชีพที่ไม่ลงทุนเป็นได้แค่อาชีพเสริมไม่มีทางทำให้เป็นอาชีพหลักได้ มีตัวอย่างของนักธุรกิจมากมายที่ชีวิตเขาก็เริ่มจาก 0 แต่ปัจจุบันกลายเป็นเศรษฐีที่คนรู้จักทั่วโลก
ยกตัวอย่าง George Soros ที่หลังจากเรียนจบได้ตระเวนหางาน จนในที่สุดก็ได้เข้าทำงานในสายการเงิน ก่อนจะสร้างความร่ำรวยมหาศาลและชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการเดิมพันค่าเงินปอนด์ในปี 1992 ซึ่งตอบแทนการลงทุนนี้ด้วยจำนวนเงินที่มากกว่าพันล้านดอลลาร์ในคราวเดียว
หรือ Do Won Chang คู่สามี-ภรรยาชาวเกาหลีที่อพยพมาปักหลักยังสหรัฐอเมริกาในปี 1981 ระยะแรก โด วอน ชาง ต้องทำงานถึง 3 ที่ ในเวลาเดียวกันเพื่อหาเงินประทังชีพ ทั้งการเป็นภารโรง เด็กปั๊มและบริกรในร้านกาแฟ ก่อนที่เขาจะเปิดร้านขายเสื้อผ้าในปี 1984 เริ่มต้นจากร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆ ร้านเดียวก็กลายมาเป็นธุรกิจเสื้อผ้า ‘Forerver21’ ที่ทำกำไรได้ถึงปีละกว่า $3 พันล้านเหรียญฯ (1 แสนล้านบาท) และมีสาขาอีกกว่า 480 สาขาทั่วโลก
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล
https://bit.ly/3oxrz4n , https://bit.ly/31L9WUC , https://bit.ly/37J7QIJ , https://bit.ly/3e7trvS
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3l2MSZu
