ชีวิต นี้เปลี่ยนได้ ! 5 วิธีสู่การเป็นเจ้านายตัวเองที่ได้ผลเป็นเลิศ

เราเชื่อว่าหลายคนคงเบื่อกับ ชีวิต การทำงานที่สุดแสนจะจำเจ เบื่อกับการตอกบัตรเข้าออกงานที่มีเวลาประจำมากเกินไป เบื่อกับการทำงานในสังคมที่เหมือนกับการสวมหน้ากากเข้าหากันแต่เพียงอย่างเดียว สุดท้ายคือเบื่อกับรายได้ที่ทำงานมากเท่าไหร่ก็ยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องมากกว่ารายรับอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้คนจบใหม่หรือคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาบ้างแล้วมุมหนึ่งในความคิดย่อมต้องมองถึงโอกาสของการเป็นเจ้านายตัวเอง ซึ่งคำว่าเจ้านายตัวเองดูเหมือนทำง่ายแต่แท้ที่จริงมันยากเย็นแสนเข็ญไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

www.ThaiSMEsCenter.com จึงขอรวบรวม 5 วิธีสู่การเปลี่ยนชีวิตธรรมดาให้เป็นเจ้านายตัวเองที่ได้ผลดีเลิศงานนี้ขอแค่ความมุ่งมั่นและมีความฝันที่แรงพอ สิ่งที่หวังทำสำเร็จได้ทุกคนแน่นอน

ชีวิต

การที่คนเราก้าวขึ้นมาเป็นนายตัวเองไม่ได้ไม่ใช่เพราะไร้ความสามารถแต่ปัญหาคือ ไม่รู้เคล็ดลับที่ดีพอ การก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดโดยบังเอิญ ต้องมีการวางแผนเป็นลำดับขั้นอย่างดี มีการลองผิดลองถูก สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนไม่กล้าที่จะก้าวคือกลัวคำว่า ผิดพลาดและกลัวคำว่าล้มเหลวมากเกินไป

การเป็นนายตัวเองคือการทำธุรกิจแบบหนึ่งที่เราเลือกแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เราถนัด สิ่งที่ตามมาคือเงินลงทุน บางคนก็บอกว่าติดอยู่ตรงนี้ หรือบางทีการทำงานประจำมีเงินเดือนแน่นอน ก็ทำให้กลัวจะเสียรายได้ตรงนั้นเพื่อไปทำธุรกิจตัวเองที่ยังไม่การันตีว่ารายได้จะดีเหมือนที่ทำงานหรือเปล่า

หลัก 5 ประการสู่การเป็นนายตัวเองที่สมบูรณ์แบบ

c3

1.อย่าเสียเวลาค้นหาว่าตัวเองขาดอะไร แต่ให้ค้นหาว่าตัวเองมีอะไรมากกว่า

หลายคนมองเห็นคนอื่นได้ดีแล้วคิดว่าอยากออกไปทำธุรกิจแบบนั้นบ้าง แบบนี้บ้าง แท้ที่จริงนั้นคือความคิดที่ผิดพลาดและโอกาสจะพลาดท่าก็มีสูง หลักการเป็นนายตัวเองที่ดีคือทำในสิ่งที่เรามีอยู่ ทำในสิ่งที่เราถนัด ทำในสิ่งที่เรามีพื้นฐาน อย่าไปเสียเวลากับการสร้างสิ่งใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย

สมมุติว่าถ้าคุณกำลังเป็นลูกน้องในบริษัทสิ่งพิมพ์แน่นอนว่าสิ่งที่คุณเรียนรู้มาคือกระบวนการพิมพ์ ทักษะการต่อรองราคา การหาแหล่งอุปกรณ์ราคาถูก รวมถึงรู้ตลาดว่าต้องเริ่มที่ไหนอย่างไร ทุกอย่างควรเริ่มที่จุดนั้นเพื่อนำไปสู่คำว่าธุรกิจของตัวเองในอนาคต

2.ค้นหาคนที่มีชีวิตแบบที่เราอยากมี

เรียกว่าเป็นการหาไอดอลในดวงใจ ซึ่งฟังดูแล้วเหมือนเป็นการย้อมใจหรือใช้ศัพท์วัยรุ่นว่าโลกสวยอะไรก็ตามที แต่พลังของการมีต้นแบบในจิตใจถือเป็นการขับเคลื่อนความรู้สึกที่ดีประการหนึ่ง

แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ภาพไอดอลที่เราอยากเป็นเด่นชัดและตัวเราเองต้องมีเป้าหมายว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่จะทำให้เรากล้าถามในสิ่งที่ไม่รู้เพื่อก้าวไปให้ถึงจุดนั้นได้เร็วมากขึ้น

c6

3.เลิกลีลา! อยากรู้ว่าจะรอดหรือไม่รอดต้องลุยเลย…!!

คำว่า กลัวล้มเหลว มักจะก้องอยู่ในหัวของคนที่คิดก้าวเข้ามาทำธุรกิจ แท้ที่จริงความไม่มั่นใจนั้นเกิดจากการดูและติดตามคนอื่นมากไป เราอาจมีตัวอย่างให้เปรียบเทียบจนทำให้ความรู้สึกเราเหมือนถูกกดทับ

สิ่งที่เราต้องทำคือ ลุยและเดินหน้า! เรียนรู้ไปพร้อมกับปัญหาที่ต้องเกิดตามมา ยิ่งถ้าคุณยังเป็นมนุษย์เงินเดือนที่อยากเป็นนายตัวเองยิ่งต้องเข้ามาทำเต็มที่เพราะอย่างน้อยถ้ามันยังไม่ดีอย่างที่คิด เราจะได้เรียนรู้ปัญหาก่อนที่จะได้เจอปัญหายามไม่มีเงินเดือนจริง ๆนั่นเอง

4.ขายความเป็นตัวตนของเราเองให้ชัดเจนที่สุด

ข้อนี้แทบจะเป็นหัวใจสำคัญที่บอกเราได้ว่า การเป็นนายตัวเองของเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม คุณต้องสร้างความเป็นตัวเองและป่าวประกาศให้คนได้รับรู้มากที่สุดโชคดีอย่างหนึ่งในธุรกิจยุคใหม่คือการมีอินเทอร์เนตที่ช่วยในเรื่องนี้ได้มาก

อย่างไรก็ตามถ้าคุณอยากเป็นนายตัวเอง แต่คุณเป็นพวกประเภทขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าประกาศให้โลกรู้ว่าคุณมีความสามารถอะไร ขอให้เลิกฝันได้เลย คุณจะไม่มีทางเกิดในโลกของธุรกิจ

สิ่งหนึ่งที่นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จเคยกล่าวไว้คือ “คนเราไม่ได้ซื้อเพราะสินค้าเป็นอย่างไร เขาซื้อเพราะสินค้าชิ้นนี้หมายถึงใครต่างหาก ขายตัวเองได้ สินค้าหรือบริการของคุณก็ขายได้”

q10

5.อย่าคิดเอาชนะความกลัว จงสู้ทั้งๆที่กลัวนั้นแหละได้ผลดีที่สุด!

ความกลัวทั้งหลายมักจะคอยออกเสียงห้ามไม่ให้เราก้าวออกมาทำตามที่ตั้งใจหลายคนพยายามเอาชนะความกลัวให้ได้ก่อนแล้วค่อยลงมือทำ

แต่นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายตอนเริ่มต้นอาชีพใหม่ๆถามว่ามีความกลัวไหมคำตอบคือมีแน่ๆแต่ที่ยังทำต่อมีคำตอบสั้นๆง่ายๆคือ “กลัวแต่อยากทำ” นั้นหมายความว่าถ้าเรามัวแต่หาวิธีเอาชนะความกลัวก่อนแล้วค่อยเริ่มทำ

ก็ต้องหาวิธีเอาชนะความกลัวชั่วชีวิตวิธีเดียวที่เราจะเป็นนายตัวเองทั้ง ๆ ที่ความกลัวยังเต็มหัวคือ ทำทั้ง ๆ ที่กลัวและจงอย่าลืมว่าทุกคนมีความกลัว

แต่อย่าให้ความกลัวมันมาอยู่เหนือเราได้อย่างถาวรถ้าไม่อยากให้อีก 5 ปีข้างหน้าต้องมีคำพูดปลอบใจว่า “รู้อย่างงี้ทำซะตั้งแต่ตอนนั้นก็ดีแล้ว”

หลากหลายเหตุผลนานัปกระการที่พยายามกระตุ้นให้ทุกคนได้รู้ถึงศักยภาพที่ตัวเองควรจะมี แน่นอนว่าทุกคนสามารถเป็นนายตัวเอง เป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีได้ทั้งนั้น เพียงแต่ความคิดบางอย่างที่คอยปิดกั้นไม่ใช่เงินทุน ไม่ใช่เวลา ไม่ใช่เรื่องของประสบการณ์ สิ่งสำคัญคือ กล้าหรือไม่กล้า ตัดสินแค่ 2 คำนี้เท่านั้นเอง

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด