ชิมช้อปใช้ ใช้ยังไงถึงได้ผล!
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังที่ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการท่องเที่ยว สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการปกครอง
และธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้”ที่จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 กันยายน 2562 และจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ในวันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2562
ภาพจาก bit.ly/2lNqzNE
www.ThaiSMEsCenter.com มองว่านี่เป็นอีกหนึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่พยายามกระตุ้นให้คนได้ออกมาจับจ่ายเพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบมากขึ้น ซึ่งเงินจำนวน 1,000 บาทที่ผู้ลงทะเบียนจะมีสิทธิ์รับนี้ไม่ได้หมายถึงการได้รับเป็นเงินสด
แต่จะเป็นเงินที่จะต้องใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเท่านั้น อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือเงินจ่ายผ่านแอปพลิเคชั่น ก็กระตุ้นให้เกิดความอยากของคนที่มองว่าน่าจะมีประโยชน์กับเงินจำนวนดังกล่าว โดยมีการพูดกันอย่างหนาหูว่ามาตรการนี้ของรัฐบาล “ชิมช้อปใช้” มีวิธีนำมาใช้อย่างไรเพื่อให้ “ได้ผล” คุ้มค่ามากที่สุด
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเงื่อนไขและกฏเกณฑ์ของมาตรการนี้ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับการเปิดรับลงทะเบียนผ่าน www.ชิมช้อปใช้.com ซึ่งวิธีการรับสิทธิ์มีดังนี้
ภาพจาก bit.ly/2lNqzNE
1. สำหรับเงื่อนไขของผู้ที่จะมีสิทธิ์รับเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว 1,000 บาท จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต และมีอีเมลของตัวเอง
2. การลงทะเบียนนั้น จะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com ด้วยเบอร์โทรศัพท์และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และต้องเลือก 1 จังหวัดที่จะเดินทางไป โดยเป็นจังหวัดใดก็ได้ที่ไม่ซ้ำกับที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้าน
3. ระยะเวลาลงทะเบียนคือ 23 ก.ย.-15 พ.ย. 2562 รับลงทะเบียน 1 ล้านคน/วัน ต่อเนื่องทุกวันจนกว่าจะครบ 10 ล้านคน ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวพร้อมจับจ่ายใช้สอยที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-30 พ.ย.62
4. ผู้ที่ลงทะเบียนได้แล้วรอรับ SMS หรืออีเมลผลการลงทะเบียนรับสิทธิ์ภายใน 3 วันทำการ
5. จากนั้น Download Application เป๋าตัง เพื่อใช้สิทธิ์ผ่าน G-Wallet โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทย และต้องลงทะเบียนในแอปฯ เป๋าตัง
6. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จก็จะได้รับเงิน 1,000 บาท โดยไม่ได้รับเป็นเงินสด แต่เป็นจำนวนเงินที่จะสามารถใช้จ่ายผ่านแอป เท่านั้น โดยเมื่อได้รับสิทธิ์แล้วจะต้องเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ ภายใน 14 วันหลังได้รับ SMS (หากเกินเวลาเงินจะถูกดึงกลับ) และหากมีการเริ่มใช้สิทธิแล้วจะสามารถใช้วงเงิน 1,000 บาทต่อไปได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย.62
7. เงิน 1,000 บาทนี้สามารถใช้จ่ายครอบคลุมค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก รวมถึงบริการตามปกติของที่พักนั้น ค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น ค่าซื้อสินค้าและบริการจากร้านธงฟ้าประชารัฐ และค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องต่อการท่องเที่ยวในท้องถิ่นนั้นอีกหลายประเภท เช่น สปา รถเช่า บริการนำเที่ยวในพื้นที่ เป็นต้น โดยผู้ประกอบการร้านค้าที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ ในขณะนี้มีแล้วกว่า 1.35 แสนร้านค้าทั่วประเทศ
8. นอกจากการรับเงินแจก 1,000 บาทแล้ว ผู้ที่ลงทะเบียนยังสามารถรับเงินคืน (Cash Back) ได้อีกด้วย โดยหากมีการเติมเงินส่วนตัวเพื่อใช้จ่ายผ่านแอปฯ เพิ่มเติม รัฐบาลจะชดเชยเงินคืนให้เป็นจำนวนเท่ากับ 15% ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน อาทิ หากใช้จ่ายเพิ่ม 1,000 บาท จะได้รับเงินคืน 150 บาท หากใช้จ่ายเพิ่ม 1,500 บาท จะได้รับเงินคืน 225 บาท หากใช้จ่ายเพิ่ม 30,000 บาท จะได้รับเงินคืน 4,500 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินคืนที่สูงที่สุดที่จะได้รับ
ภาพจาก bit.ly/2lNqzNE
โดยขณะนี้มีร้านค้าทั่วประเทศมาลงทะเบียนเพื่อให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงิน จำนวน 32,000 ร้านค้า ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้คือ 40,000 ร้านค้า ประกอบด้วย ร้านอาหาร 15,000 แห่ง , ร้านค้า 15,000 แห่ง และโรงแรม อีกกว่า 2,000 แห่ง
โดยคาดว่าจากอานิสงส์ของมาตรการนี้จะช่วยให้ช่วง 4 เดือนสุดท้ายมีนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น 10% รายได้เพิ่มขึ้น 10-20% รวมถึงประเมินว่าหลังสิ้นสุดปี 2562 มีนักท่องเที่ยวในประเทศสะสม 170 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.5% จาก 160 ล้านคนในปีก่อน สร้างรายได้ 1.1 ล้านล้านบาท เติบโต 10% จากรายได้ 1 ล้านล้านบาทในปี 2561
และนอกจากมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ที่กำลังจะเริ่มขึ้นรัฐบาลยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวอีกหลายอย่างซึ่งกำลังศึกษาความเป็นไปได้เช่น มาตรการ “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย” มอบตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ราคา 100 บาท 10,000 สิทธิ์ 4 ครั้ง รวม 40,000 สิทธิ์, “วันธรรมดาราคาช็อกโลก” ลดราคาท่องเที่ยววันธรรมดาสูงสุด 70%
สำหรับคนที่ลงทะเบียนและเลือกใช้สิทธิดังกล่าวก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดเพราะมาตรการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจึงไม่ใช่ “เงินสด” ที่ทุกคนจะได้รับ คำว่า “ได้ผล” ก็คือ ผลรวมของเศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดหวังว่าจะโตขึ้น และนั่นก็หมายถึงว่า เป็นผลดีที่ย้อนกลับมาหาทุกคนไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการหรือว่านักลงทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ภาพจาก bit.ly/2lNqzNE
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/2E885O9
ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/2m1gA7y
