“ชาจากดอกดาวเรือง” อาชีพสร้างรายได้ในยุค COVID

“ดาวเรือง” จัดเป็นไม้ดอกที่มีความผันผวนทางด้านราคาช่วงไหนความต้องการสูงราคาจะดีดขึ้นไปสูงถึงดอกละ 2.50-3 บาท แต่หากช่วงไหนผลผลิตล้นตลาด ราคาจะร่วงลงมา ในสถานการณ์แพร่ระบาด COVID ตอนนี้กิจการหลายแห่งหยุดชะงัก

งานเทศกาลต่างๆ จัดไม่ได้ แถมยังมีมาตรการล็อคดาวน์เกิดขึ้น ราคาดาวเรืองเลยร่วงหนัก ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่าวิธีที่ดีที่สุดคือ “การแปรรูปสินค้า” โดยดอกดาวเรืองสามารถนำมาทำ “ชาดอกดาวเรือง” ที่มีสรรพคุณน่าสนใจหลายอย่างและยังเป็นแนวทางการสร้างรายได้ที่ดีในยุค COVID แบบนี้ด้วย

สรรพคุณที่น่าสนใจที่ได้จาก “สารสกัด” ดอกดาวเรือง

ชาจากดอกดาวเรือง

ภาพจาก bit.ly/3rlSYYI

ดาวเรืองเป็นไม้ดอกที่ไม่ได้มีแค่ความสวยจากสีสัน ไม่ได้มีดีแค่ชื่อเป็นมงคล แต่ดอกดาวเรืองยังมีสารสกัดที่นำมาใช้เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพได้เช่น

1.บำรุงสายตา โดยมีสารแซนโทฟิลล์ (Xanthophyll) ซึ่งจัดว่าเป็นสารบำรุงสายตาจากพืชมีสีคุณสมบัติช่วยป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตาได้ ช่วยกรองแสงสีฟ้า และยังเป็นสารออกซิเดชั่น ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่จะทำลายประสิทธิภาพการทำงานของจอประสาทตา

2.บำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอย สารสกัดจากดอกดาวเรือง สามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดี เนื่องจากมีกรดฟีนอลิกที่สำคัญซึ่งมีประโยชน์ช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวพรรณดูอ่อนวัย

3.บรรเทาโรคผิวหนัง ในดอกดาวเรืองมีสารคาเลนดูลา (Calendula) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาปัญหาผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ แผลเป็น และผิวหนังแห้งแตก โดยการนำมาบรรเทาและดูแลปัญหาผิวหนังเหล่านี้ ควรใช้สารสกัดจากดอกดาวเรืองที่อยู่ในรูปครีมยา น้ำมันหอมระเหย หรือโลชั่นบำรุงผิวพรรณ

4.ละลายเสมหะ บรรเทาอาการไอ ช่อดอกดาวเรืองมีรสขม กลิ่นฉุนเล็กน้อย แต่ก็มีสรรพคุณทางยาช่วยกล่อมตับ ขับร้อนจากร่างกาย ละลายเสมหะ แก้ไอหวัดได้

5.ลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดสซึ่งมีหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลในลำไส้ส่วนเล็กเพื่อให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ดีขึ้น ดังนั้น สารสกัดจากดอกดาวเรืองจึงมีฤทธิ์ลดการดูดซึมกลูโคสในร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดี

เทคนิคการปลูกดอกดาวเรืองเพื่อนำมาแปรรูป

18

ภาพจาก https://bit.ly/3wW5SxI

ลักษณะการปลูกไม่แตกต่างกันมากนักแต่ต้องเน้นที่ความพิถีพิถันและปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก โดยจำเป็นต้องปลูกในโรงเรือนเพื่อหลีกเลี่ยงจากสารเคมีทุกชนิด เพราะว่าด้วยตัวของดอกดาวเรืองเอง เป็นพืชที่ค่อนข้างดูดซับสารพิษในดินเข้ามาไว้ในตัว อย่างเช่น ถ้าปลูกในดินที่ผ่านการใช้ยาฆ่าหญ้าหรือยาฆ่าแมลงแล้วตกค้างในดิน ตัวดอกดาวเรืองมีคุณสมบัติในดูดซับสารเหล่านี้เข้ามาในต้น โดยจะดูดซับไว้ที่ส่วนรากมากที่สุด และอาจจะกระจายสู่ดอกได้ด้วย

ฉะนั้น การปลูกในโรงเรือนถือเป็นวิธีที่ช่วยหลีกเลี่ยงสารเคมีได้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนคือจะต้องปลูกในถุง และต้องเป็นดินที่ไม่ได้ผ่านการใช้สารเคมีใดๆ มาก่อน แต่การปลูกดาวเรืองเพื่อทำเครื่องดื่มชา มีข้อดีตรงที่ไม่จำเป็นต้องทำให้ดอกสวย 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องตัดเพื่อนำมาอบอยู่แล้ว มีแมลงกัดหรือนอนเจาะได้บ้าง

ใช้เทคนิค “การเปิดไฟ” ให้ดอกดาวเรืองมีสารสำคัญมากขึ้น

17

ภาพจาก https://bit.ly/3wW5SxI

มีการทดลองออกมาว่าการปลูกแบบเปิดไฟ ผลวิเคราะห์ออกมาว่ามีสารสำคัญในดอกสูงกว่าแบบอื่น โดยเทคนิคการใช้แสงไฟเพื่อรักษาสารสำคัญในดาวเรืองนั้น จะเริ่มเปิดไฟตั้งแต่ช่วงที่ดาวเรืองมีตาดอกแล้ว ก็คือหลังจากปลูกได้ 45 วันขึ้นไป โดยช่วงระยะเวลาการเปิดจะแบ่งเปิดเป็น 2 ช่วง คือ เปิดในช่วงเช้า ตี 4 ถึง 7 โมงเช้า และช่วงเย็น 5 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม เปิดไปจนถึงช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

วิธีการทำ “ชาดอกดาวเรือง”

16

ภาพจาก https://bit.ly/3wW5SxI

1.เก็บดอกดาวเรืองที่บานเต็มที่นำมาตัดเอาเฉพาะกลีบดอก ไม่ให้ติดเกสรออกมา เนื่องจากตรงส่วนของเกสรจะมีกลิ่นฉุน และนอกจากนี้ ยังมีผลทดสอบออกมาว่าในกรณีผู้ที่แพ้ดอกดาวเรืองส่วนใหญ่จะแพ้เกสรดังกล่าว

2.นำมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปผึ่งลมให้แห้ง ในที่อากาศถ่ายเทได้ดี หรือจะใช้วิธีอบก็ได้ ในกรณีถ้าเป็นตู้อบลมร้อนทั่วไปควรจัดเรียงไม่ให้กลีบดอกทับกันหนาเกิน 3 เซนติเมตร และอบในอุณหภูมิ 45-50 องศาเซลเซียส

3.ใช้เวลาอบประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นนำมาบรรจุใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ เตรียมจำหน่าย โดยดอกดาวเรืองสดจำนวน 1 กิโลกรัม เมื่อนำมาอบเป็นชาแล้วจะได้ประมาณ 100 กรัม

ราคาในการจำหน่ายกิโลกรัมละ 250-300 บาท

15

ภาพจาก https://bit.ly/3wW5SxI

เราสามารถขายชาดอกดาวเรือง 10 กิโลกรัมในราคา 2,500-3,000 บาท ต่างจากการขายดอกสด 10 กิโลกรัม จะได้เงินประมาณ 300 บาท แต่รายได้ที่สูงขึ้นจากการแปรรูปเราก็ต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน แต่เมื่อหักลบรายจ่ายแล้วก็ถือว่าเป็นกำไรที่ยังน่าพอใจและสามารถต่อยอดขายได้

โดยเฉพาะในยุค COVID ที่คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น และที่สำคัญชาจากดอกดาวเรือง สามารถเก็บไว้จำหน่ายได้นานเป็นปี ต่างจากลักษณะของดอกสด ถ้าผ่านไปสัก 3-5 วัน จะกลายเป็นขยะทันที ซึ่งหากมองในตลาดชาที่ทำจากดอกไม้ตอนนี้คู่แข่งยังน้อย รายได้จะมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการหาตลาดของเราเป็นสำคัญด้วย

ซึ่งการทำชาดอกดาวเรืองเป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าสินค้า ซึ่งใครที่มีแปลงดอกดาวเรืองอยู่แล้วจะค่อนข้างได้เปรียบ ส่วนใครที่ไม่ได้ปลูกดอกดาวเรืองในขณะนี้ แต่อยากมีรายได้เพิ่ม ลองหันไปดูรอบๆ ตัวเองว่ามีสิ่งไหน มีอะไรที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้บ้าง ในตอนนี้เราต้องพยายามลดต้นทุนและหาสิ่งใกล้ตัวที่มี เพื่อมาเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง ดีกว่าเสี่ยงไปลงทุนใหญ่ๆ ในช่วงนี้


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3rlBjAe , https://bit.ly/3wLbomQ , https://bit.ly/36Kv9Ai

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/36KCSOQ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด