คู่ปรับธุรกิจ “ยาดมโป๊ยเซียน VS ยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์”

เชื่อว่าคนที่พกยาดมติดกระเป๋าเป็นประจำ คงเลือกซื้อไว้เพียงไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้น นั่นก็คือ ยาดม ตราโป๊ยเซียน และยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์ ซึ่งทั้ง 2 ยี่ห้อ เป็นคู่แข่งอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับในตลาด ว่ากันว่ายาดมโป๊ยเซียนครองส่วนแบ่งเกือบ 80% ส่วนยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์ ครองส่วนแบ่งราว 20% เท่านั้น 

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอความต่างและความเหมือนของยาดม 2 ยี่ห้อนี้ รวมถึงใครเป็นเจ้าของแบรนด์ยาดมทั้งสอง และมีรายได้มากน้อยขนาดไหน

“ยาดมตรา โป๊ยเซียน” มีสโลแกนฮิตติดปากว่า “ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน” เป็นผลิตภัณฑ์ของ “บริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด” มีสรรพคุณบรรเทาอาการ วิงเวียน ศีรษะ มีส่วนประกอบ เมนทอล การบูร น้ำมัน ยูคาลิปตัส พินเสน

ภาพจาก goo.gl/6MZh2z

บริษัท โกลด์ มิ้น โปรดักส์ จำกัด มีสินค้าหลายตัวด้วยกัน เช่น ยาดมตราโป๊ยเซียน พิมเสนน้ำตราโป๊ยเซียน ยาหม่องพญายอตราโป๊ยเซียน ยาเม็ดโป๊ยเซียน ยาดมตราพีเป็กซ์ ยาดมตราส้มมือ โดยยาดมตราโป๊ยเซียนเริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี 2532

ส่วน “ยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์” แบรนด์ยาดมอโรม่า โด่งดังจากโฆษณาชุด “ดม เรียก สติ” ของ “โน้ต อุดม แต้พานิช” สรรพคุณบรรเทาอาการคัดจมูก หายใจไม่ออก และบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ มีส่วนประกอบของ เกล็ดสะระแหน่ การบูร น้ำมันยูคาลิปตัส น้ำมันเปปเปอร์มินต์ พิมเสน และมินเนอรัล ออยล์

ภาพจาก facebook.com/peppermintfield

ถือเป็นยาดมในเชิง Emotional ช่วยให้สดชื่น ใจเย็นลง ทำให้มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น เป็นผลิตภัณฑ์ของ “บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด” ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ “เซียงเพียว” ที่คนไทยคุ้นเคยมานานเช่นกัน

ยาดมเปปเปอร์มินต์ ฟิลด์ เริ่มวางจำหน่ายในปี 2548 เน้นการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัย ทำให้ยาดมเปปเปอร์มินต์ ฟิลด์ ได้รับความนิยมไต่อันดับสู่เบอร์ 2 ในตลาด แต่ยังตามหลังเบอร์ 1 อย่างยาดมตราโป๊ยเซียนหลายช่วงตัว

ภาพจาก goo.gl/cPt9JH

บริษัท โกลด์ มิ้น โปรดักส์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ ยาดมตราโป๊ยเซียน

• ปี 2558 รายได้ 577 ล้านบาท กำไร 198 ล้านบาท
• ปี 2559 รายได้ 673 ล้ายบาท กำไร 235 ล้านบาท
• ปี 2560 รายได้ 755 ล้านบาท กำไร 269 ล้านบาท

เจ้าของหรือผู้บริหารบริษัทฯ เป็นของกลุ่มของตระกูล “ลาภบุญทรัพย์”

บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด เจ้าของผลิตรภัณฑ์ ยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์

• ปี 2558 รายได้ 1,025 ล้านบาท กำไร 169 ล้านบาท
• ปี 2559 รายได้ 1,185 ล้านบาท กำไร 212 ล้านบาท
• ปี 2560 รายได้ 1,424 ล้านบาท กำไร 342 ล้านบาท

เจ้าของ หรือผู้บริษัทฯ เป็นของกลุ่มตระกูล “เอี่ยมพิกุล” ซึ่งตอนนี้ได้ส่งไม้ต่อให้ทายาทบริหาร

ติดแล้วติดเลย คนไทยซื้อยาดมเพียงแค่ 1 ยี่ห้อ

ภาพจาก goo.gl/qZN1qA

ผลสำรวจของ AC Nielsen บริษัทให้ข้อมูลและการประเมินผลชั้นนำของโลก ให้ข้อมูลว่า ตลาดของยาหม่องและยาหม่องน้ำ (รวมยาดม) คนไทยจะซื้อเพียงไม่กี่ยี่ห้อ แล้วจะเลือกซื้อเพียงยี่ห้อที่มีชื่อเสียง โดยมีพฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภค คือ ใช้มานานจนติดกลิ่น ตลอดจนการใช้งานแล้วเห็นผล และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีไม่กี่ยี่ห้อที่สร้างยอดขายได้ดี

นอกจากนี้ ยังพบว่าปัจจุบันตลาดยาหม่องยาดมมีมูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท ยาหม่องน้ำเซียงเพียวเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งกว่า 70% ส่วนอีกเกือบ 30% เป็นการเกาะกลุ่มกันประมาณ 10 แบรนด์

คนไทยติดยาดม ซื้อ 2 หลอดต่อเดือน

ภาพจาก ภาพจาก facebook.com/peppermintfield

ประชากรไทยราว 70 ล้านคน ใช้ยาดมอย่างน้อย 10% เดือนหนึ่งใช้ประมาณ 2 หลอดหรือคิดเป็นมูลค่าราว 40 บาท เฉลี่ยแล้วจึงมีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 3.3 พันล้านบาทต่อปี  จะเห็นได้ว่า บริษัท โกลด์ มิ้น โปรดักส์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ ยาดมตราโป๊ยเซียน จดทะเบียนเมื่อปี 2532

ส่วนบริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ ยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์ จดทะเบียนเมื่อปี 2524 แม้บริษัทแม่ของยาดมโป๊ยเซียนจะมีรายได้น้อยกว่าบริษัทแม่ของยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์ แต่ในเรื่องของกำไรถือว่าไม่ต่างกันมาก

ยาดมโป๊ยเซียนถือเป็นรุ่นเก๋า ทำตลาดมานาน ส่วนยาดมเปบเปอร์มินต์ ฟิลด์ เป็นน้องใหม่ แต่ก็เป็นรุ่นน้อง ที่ยาดมโป๊ยเซียน ไม่อาจดูแคลนได้

ข้อดีของยาดม คือ ผู้คนมักนิยมนำมาใช้บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก หน้ามืดตาลาย และปัจจุบันผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่นิยมดมยาดมแทนการสูบบุหรี่ แต่การสูดดมบ่อยๆ อาจทำให้บริเวณทางเดินหายใจเกิดการระคายเคือง

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เริ่มต้นธุรกิจ goo.gl/835AoV