ขายหมูปิ้งริมทางอย่างไร ให้ได้เงินหมื่นต่อวัน

หากพูดถึง อาหารริมทาง ที่เราพบเห็นบ่อยที่สุดในช่วงเช้าๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น “หมูปิ้ง” ถือเป็นอาหารที่คนไทยนิยมทานกันมาก เพราะไม่ต้องรอนานให้เสียเวลา กินง่าย สะดวก ซื้อกลับบ้าน หรือกินบนรถก็ได้ แถมราคาไม่แพง บางคนกิน 4 ไม้ ไม้ละ 5 บาท ข้าวเหนียว 1 ถุง 5 บาท ก็อิ่มแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาทำกับข้าวให้ยุ่งยาก

แต่รู้หรือไม่ว่า พ่อค้าแม่ค้าหลายคนสร้างรายได้มหาศาลจากการขายหมูปิ้งริมทาง หรือข้างถนน แม้ว่าจะไม่ใช่ทำเลหน้าหมู่บ้าน หน้าโรงงาน หรือตลาดนัดทั่วไป

วันนี้ใครที่อยากมีอาชีพเสริม เบื่องานประจำ หรืออยากขายหมูปิ้งริมทางเป็นอาชีพหลัก เพื่อสร้างรายได้หลักหมื่นต่อวัน www.ThaiSMEsCenter.com จะมาบอกเคล็ดลับและวิธีการขายหมูปิ้งริมทาง ให้มีรายได้หมื่นบาทต่อวัน

ภาพจาก bit.ly/2Hhn1tN

1.สูตรหมูปิ้ง

ก่อนที่จะยึดอาชีพขายหมูปิ้งจริงๆ ต้องคิดก่อนว่าคุณขายหมูปิ้งแบบไหน เพราะในปัจจุบันหมูปิ้งมีหลายสูตรมาก อย่างที่เห็นกันในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นหมูปิ้งนมสด หมูปิ้งปลาร้า หรือหมูปิ้งธรรมดาหมักซอสทั่วไป แล้วแต่ว่าคุณสามารถทำสูตรไหนได้บ้าง ที่สำคัญแต่ละสูตรอาจมีต้นทุนต่างกัน เพราะส่วนผสมและวัตถุดิบไม่เหมือนกัน อีกทั้งใช้เวลาหมักต่างกันด้วย

2.รสชาติหมูปิ้ง

ใช่ว่าใครจะขายหมูปิ้งแล้วประสบความสำเร็จกันทุกคน แม้ว่าจะขายอยู่ในทำเลที่ดี แต่รสชาติของหมูปิ้งไม่อร่อยถูกปากลูกค้า เชื่อว่าลูกค้าก็จะมาซื้อแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ยิ่งถ้าหมูปิ้งไม่สะอาด ถูกหลักอนามัย หมูมีกลิ่น ไม่สดใหม่ ก็ยิ่งช่วยไล่ให้ลูกค้าไปจากคุณเร็วขึ้น ดังนั้น ใครก็ตามที่คิดจะขายหมูปิ้ง รสชาติความอร่อยต้องถูกปากลูกค้า อาจทำหลายสูตรให้ลูกค้าเลือกก็ได้

ภาพจาก bit.ly/2PVRVMs

3.ทำเลการขาย

ถือว่าสำคัญอย่างมากในการเปิดร้านขายหมูปิ้งริมทาง เพราะจะเป็นตัวชี้วัดว่าธุรกิจของคุณจะไปรอดหรือไม่รอด ถ้าคุณไปตั้งร้านริมทางที่ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรผ่านไปมา หรือนานๆ ครั้ง รับรองว่าคุณเตรียมเก็บร้านได้เลย ดังนั้น การขายหมูปิ้งริมทางที่จะช่วยให้คุณมีรายได้หลักหมื่นต่อวัน จะต้องเลือกทำเลที่มีรถวิ่งผ่านจำนวนมาก เพราะลูกค้าสามารถจอดซื้อได้ง่าย

4.รูปแบบของร้าน

การขายหมูปิ้งริมทางไม่จำเป็นต้องตกแต่งร้านให้หรูหราสวยงามมากนัก เพราะร้านริมทางไม่ได้ตั้งอยู่ในจุดที่อับสายตาผู้คน อาจจะใช้รถจักรยนต์พ่วง หรือตั้งโต๊ะขาย มีร่มกาง แต่ควรจะมีพื้นที่วางหมูปิ้ง วางข้าวเหนียว ถ้วย จาน และอื่นๆ พอสมควร ที่สำคัญร้านหมูปิ้งริมทางจะต้องเคลื่อนย้ายได้ง่าย เพราะคุณไม่สามารถปลูกสร้างอย่างถาวรได้ ขายเช้าๆ กลับสายๆ ก็พอ

ภาพจาก bit.ly/2vOYYx9

5.กลุ่มลูกค้า

กลุ่มลูกค้าของร้านขายหมูปิ้งริมทางของคุณ จะต้องมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา พนักงานโรงงาน คนขับแท็กซี่ คนขับรถบรรทุก รวมถึงคนทำงานรับจ้างทั่วไป เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มักนิยมสัญจรผ่านไปมาตามถนนต่างๆ ที่สำคัญคนกลุ่มนี้จะมีความเร่งรีบที่จะไปทำงานต่อ หรือไปทำงานให้ทันเวลา จอดรถแล้วก็กินบนรถได้เลย

6.การบริการ

การขายอาหารเรื่องของการบริการถือว่าสำคัญ แม้ว่าจะขายหมูปิ้งก็ตาม คุณอยากมีรายได้หลักหมื่นต่อวัน คุณควรที่จะมีบริการหลากหลาย หรือขายอาหารหลายอย่าง ที่นอกจากหมูปิ้งอย่างเดียว เช่น ข้าวเหนียว ตับไก่ปิ้ง ปีกไก่ปิ้ง เนื้อปิ้ง แหนมย่าง ปลาดุกย่าง ไข่ต้ม

อีกทั้งยังต้องมีน้ำดื่มบริการลูกค้าฟรี มีผักบริการลูกค้าฟรี มีน้ำพริกแจ่ว น้ำพลิกกะปิ น้ำพริกปลาร้าบริการฟรี (ขายก็ได้) แต่ถ้าฟรีก็จะสามารถดึงดูดลูกค้าเข้าร้านของคุณได้ดีมาก อาจต้องมีโต๊ะนั่งสำหรับลูกค้ากินในร้านด้วย ในส่วนพ่อค้าแม่ค้าควรจะต้องยิ้มแย้มแจ่มใส บริการรวดเร็ว เพราะลูกค้าบางคนเร่งรีบเดินทางต่อ

ภาพจาก bit.ly/2YlT2Yy

7.ราคาขาย

หมูปิ้งริมทางส่วนใหญ่จะขายไม่แพง ขายไม้ละ 5-10 บาท ข้าวเหนียว 5 บาท แต่ขอแนะนำให้ขายไม้ละ 5 บาท เพราะจะช่วยดึงดูดลูกค้าและขายได้ง่ายขึ้น ถ้าขายวันละหลายร้อยไม้ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนลูกค้า อย่าลืมว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกสัญจรผ่านไปมา กลุ่มคนรับจ้าง คนทำงานแถวนั้นๆ กลุ่มคนเหล่านี้ถ้าขายแพงจะไม่อยากซื้อ ถ้าถูกจะซื้อจำนวนมาก

8.ช่วงเวลาขาย

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับเปิดร้านขายหมูปิ้งริมทาง ก็คือ ช่วงเช้าๆ หรือเช้ามืดไปจนถึงสายๆ ก่อนเที่ยง เพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าที่สัญจรผ่านไปมาจะรู้สึกหิว ยิ่งลูกค้าขับรถออกจากบ้านเช้าๆ หรือขับรถไปทำงาน เมื่อได้เห็นควันจากเตาหมูปิ้งข้างทาง ยิ่งยั่วน้ำลายคนที่ผ่านแถวนั้นได้เป็นอย่างดี ได้ข้าวเหนียมร้อนๆ ตอนเช้าน่าจะทำให้มีแรงทำงานมากขึ้น

ภาพจาก bit.ly/2YkyBvm

9.จำนวนการขายหมูปิ้ง

การขายหมูปิ้งถ้าอยากมีรายได้เยอะ ต้องเตรียมหมูปิ้งให้เพียงพอกับจำนวนลูกค้า คุณต้องสังเกตว่าแต่ละวันมีลูกค้ามากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้เตรียมหมูปิ้งให้เพียงพอ จะเตรียมเผื่อไว้ก็ได้ เพราะขายหมูปิ้งริมทางจะมีรถผ่านอยู่เรื่อยๆ ไม่ควรจะต่ำกว่า 1,000 ไม้ ไม่นับรวมข้าวเหนียวอาจจะเตรียมไว้ 3 กระติกใส่น้ำอันใหญ่ เพราะถ้าหมูปิ้งของคุณอร่อย เชื่อว่าแค่นี้ไม่น่าจะพอ

ภาพจาก bit.ly/2VgkJAm

10.ต้นทุนวัตถุดิบ

ถ้าซื้อหมูหนึ่งกิโลกรัม 130 บาท เสียบได้กิโลละ 70 ไม้ แล้วแต่ว่าจะเตรียมไว้สำหรับลูกค้ามากน้อยแค่ไหน ถ้าขายไม้ละ 5 อาจจะเสียบหมูไม่มาก แต่ต้องมีคุณภาพ อร่อย หรืออาจซื้อหมูชิ้นแล้วนำมาเสียบไม้ก็ได้ กำไรจะมากอยู่ที่หั่นหมู

ถาด+ตะแกรงวางโชว์ 100 บาท, กล่องพลาสติกใส่หมูหมัก 20 บาท, ไม้เสียบหมูถุงละ 18 บาท, ถุงหิ้วและถุงพลาสติกใส่หมูให้ลุกค้า 70 บาท, โต๊ะพับพลาสติกหนึ่งตัว 500 บาท, กล่องโฟมขนาด 15 กิโล ใส่ข้าวเหนียว 90 บาท ถ่านและอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่นๆ อีกราว 100 บาท

รวมลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1,413 บาทและจะน้อยกว่านี้ถ้ามีอุปกรณ์บางอย่างอยู่แล้ว ที่สำคัญอุปกรณ์เหล่านี้ซื้อมาครั้งเดียวใช้ได้ตลอด ไม่ได้ซื้อทุกวัน แต่จะซื้อเฉพาะหมู ข้าวเหนียว ผัก ถ่าน รวมถึงน้ำพริกต่างๆ

คุณอาจเพิ่มจุดขายหากมีฝีมือ ด้วยการเพิ่มหมูปิ้งรสชาติอื่น เช่น หมูปิ้งแกงพะแนง, หมูปิ้งแกงเขียวหวาน. หมูปิ้งซอสญี่ปุ่น. หมูปิ้งเกาหลี, หมูปิ้งตะไคร้ ฯลฯ และเพิ่มข้าวเหนียวดำหรือข้าวเหนียวสมุนไพรจะทำให้น่าสนใจและขายดียิ่งขึ้น

---

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

SMEs Tips

1. สูตรหมูปิ้ง
2. รสชาติหมูปิ้ง
3. ทำเลการขาย
4. รูปแบบของร้าน
5. กลุ่มลูกค้า
6. การบริการ
7. ราคาขาย
8. ช่วงเวลาขาย
9. จำนวนการขายหมูปิ้ง
10. ต้นทุนวัตถุดิบ

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3zZ7E40