ขายของตลาดนัด อาชีพเสริม เริ่มต้นดี มีรวย!

ขายของตลาดนัด นี่อาจจะเป็นทางออกของใครหลายคน ในภาวะที่เศรษฐกิจยังตกสะเก็ด การเป็นลูกจ้างหรือการหางานทำสักอย่างอาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของใครหลายคน

ถ้าเราไม่ยึดติดกับความโก้หรูหรือความคิดเก่าๆที่ว่าต้องเรียนจบสูงๆหางานดีๆ แล้ววาดฝันอาชีพที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ลองไปเดินตลาดนัดกันสักครั้งแล้วคุณอาจจะพบว่าที่นี่คือแหล่งรายได้ชั้นดีที่เราไม่เคยคิดถึงเลยสักครั้ง

ทีมงาน www.ThaiSMEsCenter.com จะรวบรวมเทคนิคเคล็ดลับว่าขายอะไรดีถ้าคิดจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัด รวมถึงให้แนวคิดในเรื่องการจัดร้านว่าจะทำอย่างไรให้เด่นให้โดนแล้วรายได้ที่ว่าดีแท้ที่จริงจะดีจริงสักแค่ไหน ไล่เรียงกันทีละประเด็น อ่านจบเนื้อหาตอนนี้อาจมีแรงบันดาลใจดีๆทำให้มองเห็นช่องทางสร้างอาชีพได้ง่ายขึ้นครับ

4 อันดับ สินค้าตลาดนัดยอดนิยมตลอดกาล ขายเมื่อไหร่มีกำไรแน่ๆ

ขายของตลาดนัด

1.อาหาร

คำว่าอาหารในที่นี้หมายรวมไปถึงของที่กินได้ทุกสิ่งทุกอย่างดังนั้นจึงเป็นภาพที่กว้างมาก ถ้าเดินตลาดนัดจะเห็นกันดาษดื่น

ไม่ว่าจะลูกชิ้น ขนม ส้มตำ อาหารคาวหวาน ต่างๆ ทีนี้ปัญหาก็คือว่าแล้วถ้าคิดจะขายอาหารจะเลือกอะไรดี ตามคำแนะนำนั้นไม่มีอะไรที่ตายตัวเพราะทำเลแต่ละตลาดนัดมีความต่างกันขอแนะนำดังนี้แล้วกันนะครับว่าถ้าเป็นตลาดนัดอยู่แถวโรงงานให้ขายพวกอาหารพร้อมทานจะดีที่สุด

ถ้าเป็นตลาดนัดแถวหน้าโรงเรียนขนมหวาน ขนมเด็กๆ ลูกชิ้นปิ้ง พวกนี้น่าจะได้รับความนิยม หรือถ้าเป็นตลาดนัดแถวออฟฟิศสินค้าพวกเครื่องดื่มขนมปังต่างๆที่สามารถเก็บไว้ทานได้เรื่อยๆ ก็น่าตอบโจทย์ได้ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใดคุณภาพและราคาต้องสัมพันธ์กันเพื่อความอยู่รอดอย่างมั่นคง

gg62

2. พวกกิ๊ปช็อป

นี่น่าจะเป็นเรื่องของความสวยความงามมากสักหน่อยแต่ก็ต้องยอมรับว่าสินค้ากิ๊ฟช็อปเหล่านี้ในตลาดนัดถือว่าได้รับความนิยมสูง อาจจะหมายถึงการตั้งร้านแบบ “ราคาเดียว” สินค้าทุกอย่าง 20 บาทได้ด้วย  ซึ่งแหล่งสินค้าก็น่าจะมาจากเยาวราช โรงเกลือ สำเพ็ง ประตูน้ำ

คนที่คิดจะขายของประเภทนี้อาจจะต้องสำรวจตลาดสักหน่อยว่าในละแวกนั้นคนซื้อมีความต้องการอะไรเป็นพิเศษจะได้นำสินค้ามาวางขายได้ถูกต้อง ข้อดีของสินค้าพวกนี้อีกอย่างคือไม่มีวันหมดอายุ แต่ก็ไม่ควรสต็อคมากเกินไปเพราะนั้นคือต้นทุนที่จะจมอยู่กับเราถ้ายังขายไม่ออก

gg63

3. สินค้าประเภท รองเท้า

รองเท้าโดยเฉพาะของสตรีและผ้าใบน่าจะเป็นกลุ่มหลักที่นำมาวางขายได้ แต่ก็ต้องดูปัจจัยแวดล้อมเป็นหลักเหมือนกันถ้าเป็นตลาดนัดโรงงานเน้นผ้าใบเยอะหน่อยก็ดีแต่ถ้าใกล้ออฟฟิศ หรือสถานศึกษา รองเท้าแฟชั่นก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม

แหล่งสินค้าที่น่าสนใจที่ไปรับมาขายได้แต่อาจต้องคัดสรรสักหน่อยก็คือ “โรงเกลือ” ที่นั่นมีรองเท้าเยอะมากแต่ก็ต้องมีเทคนิคการคัดสรรที่ดีด้วยเช่นกัน

gg64

4. เสื้อผ้า-นาฬิกา

อาจจะรวมหรือแยกกันก็ได้สำหรับเสื้อผ้าและนาฬิกา ว่ากันว่านี่คือสินค้าที่ยังไงก็ต้องมีคนซื้อยิ่งใกล้เทศกาลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีข้อได้เปรียบมากขึ้น

แต่ข้อจำกัดของสินค้าพวกนี้เราอาจจะต้องตามแฟชั่นกันสักหน่อยถึงจะขายได้ดี สิ่งที่แนะนำคือไม่ควรเอามาเป็นสต็อคเยอะเพราะแฟชั่นสมัยนี้ขึ้นลงเร็วมาก สั่งมาแต่น้อยทยอยขายไปเรื่อยๆจะสร้างกำไรได้ดีกว่าแบบที่เราไม่ต้องเสี่ยงมากด้วย

gg66

กลยุทธ์การจัดร้านสู่การเป็นพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัด (แบบมืออาชีพ)

1.โชว์สินค้าให้ตระการตาและเต็มพื้นที่ เทคนิคนี้ไม่ต้องใช้ความคิดอะไรให้ยุ่งยากวุ่นวาย เพียงแค่คุณนำสินค้าที่ต้องการจะขายมาจัดวางให้เต็มพื้นที่หน้าร้านของคุณ

โดยทำให้ดึงดูดความสนใจและสะดุดตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วยจำนวนและความหลากหลายของสินค้าบนแผง ซึ่งรับรองว่าใครที่เดินผ่านไปผ่านมาจะต้องหันมามองอย่างแน่นอนแม้ว่าร้านของคุณอาจจะขายในลักษณะที่ปูผ้าขายกับพื้น การจัดวางสินค้าที่โดดเด่นก็จะช่วยดึงดูดสายตาได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

2. ดีไซน์ชั้นวางด้วย ไอเดียสร้างสรรค์ที่อาจจะไม่ใช่แค่ชั้นสี่เหลี่ยมแนวตั้ง แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นแบบแขวนให้ดูเก๋ๆ หรือเลือกชั้นวางที่ทำให้สินค้าเราดูมีราคาเช่นจากชั้นไม้หรือว่าวัสดุรีไซเคิลต่างๆ อาจจะหาแรงบันดาลใจในการทำชั้นวางได้จากร้านอื่นๆมาผสมผสานก็จะทำให้การขายเราดูมีชีวิตชีวามากขึ้นใช่น้อย

3. ตกแต่งร้านให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นการนำสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ขายมาตกแต่ง หรือการนำยวดยานพาหนะมาแปลงโฉมให้กลายเป็นร้านสำหรับขายของมีหลากหลายวิธีที่จะทำให้ผู้คนจดจำและมองเห็นร้านของคุณได้อย่างชัดเจน

แต่ก็ควรวิเคราะห์และแต่งร้านให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและไม่ควรให้ดูรกจนเกินไปเพราะแทนที่จะดีอาจกลายเป็นสร้างความสับสนให้กับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้

4. ใช้แสงเข้าช่วยในการเพิ่มสีสันของสินค้า ยิ่งถ้าเป็นตลาดนัดกลางคืนแล้วเรื่องนี้สำคัญมากทีเดียวคุณก็อาจจะเลือกใช้ไฟที่ให้แสงสว่างแตกต่างจากร้านอื่นๆ หรือเพิ่มจำนวนหลอดไฟเข้าไปก็ได้ เพื่อให้ร้านของคุณดูสว่างไสวและผู้คนสามารถมองเห็นตัวร้านได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

นอกจากแสงไฟจะทำให้ร้านของคุณดูโดดเด่นในเวลากลางคืนแล้ว มันยังทำให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าของคุณได้อย่างถนัดตาอีกด้วย

gg67

ตัวอย่างการสร้างรายได้จากการขายของในตลาดนัด

กรณีศึกษานี้เรายกตัวอย่างการขายส้มตำในตลาดนัดให้มองเห็นภาพเกี่ยวกับการสร้างรายได้ว่าเป็นอย่างไร

  • สิ่งที่ต้องมีคือรถยนต์ 1 คัน ไว้สำหรับใส่ของไปขายหรือถ้าบ้านอยู่ใกล้ตลาดก็อาจไม่จำเป็น
  • ในการขายของนอกจากต้นทุนเรื่องวัตถุดิบประมาณ1,000-1,500บาท(สำหรับการขาย2วันคือเสาร์-อาทิตย์
  • เวลาที่ขายดีไม่ใช่ทั้งวันแต่จะมี 2 ช่วงคือตั้งแต่ 06.00 น. –10.00 น. และ 17.00 น.- 19.00 น.

รายได้ 2 วันประมาณ 6,000 บาท (เฉลี่ยวันละ 3,000 บาท) หักต้นทุนที่ต้องมีเช่นค่าเช่าที่ วัตถุดิบ เหลือเป็นกำไรประมาณ 2,000 บาท/วัน

ซึ่งรายได้ที่แท้จริงนั้นไม่แน่นอนเพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายด้านแต่เท่าที่สำรวจกันมาหลายคนสามารถสร้างอนาคตด้วยการเป็นพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดบางคนจบปริญญาตรี บางคนลาออกจากงานประจำ

บางคนมีบ้าน มีรถ ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็เกิดจากการขายของตลาดนัดทั้งนั้น เพราะนี่คืองานอิสระ งานที่มีรายได้ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับความขยันและความคิดสร้างสรรค์ ถ้าสนใจก็เริ่มไม่ยากเดินสำรวจตลาดนัดแถวบ้านแล้วสร้างอาชีพนี้กันได้ทันทีครับ

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/306qrKi

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต