ของเล่นยังไม่ตาย! เลโก้ ขยายตลาดจีนต่อเนื่อง ตั้งเป้า 600 สาขาทั่วโลกสิ้นปี 62

ท่ามกลางความระส่ำระสายของ “วงการของเล่น” ทั่วโลก หลังจากข่าวช็อกวงการที่เกิดขึ้นกลางปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้มละลายของ ‘ทอยส์ “อาร์” อัส’ บริษัทค้าปลีกของเล่นเด็กรายใหญ่ของสหรัฐฯ 

แต่บริษัทผู้ผลิตของเล่นชื่อดังสัญชาติเดนมาร์กอย่างเลโก้ (LEGO) แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะประสบปัญหาด้านยอดขายในสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง จนต้องเลิกจ้างพนักงานไปถึง 1,400 คน และปรับเปลี่ยนโครงสร้างและรูปแบบการบริหารธุรกิจใหม่

ด้วยการเปิดตลาดใหม่ๆ อย่างประเทศจีน เพื่อสร้างรายได้แทนยอดขายในตลาดสหรัฐและยุโรปลดน้อยลง  วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอกลยุทธ์บุกตลาดจีนของยักษ์ของเล่นอย่าง “เลโก้” ให้ทราบกันครับ

ของเล่นยังไม่ตาย

หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2561 บริษัทเลโก้ได้ออกมาประกาศจับมือกับเท็นเซนต์ (Tencent) บริษัทผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ในจีนไปแล้ว โดยการจับมือนี้จะนำไปสู่การร่วมมือกันพัฒนาเกมออนไลน์ที่ว่ากันว่า ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ รวมถึงเป็นบริการโซเชียลเน็ตเวิร์กในตัวให้กับหนูน้อยชาวจีนอีกด้วย

โดยตัวแทนบริษัทเลโก้ในจีน เผยว่า บริษัทจะไม่เน้นกลยุทธ์การขาย แต่จะเน้นบทบาทในการเสริมสร้างทักษะให้เด็ก อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยกลับบอกว่าถูกลูกๆ กดดันให้ซื้อเลโก้ให้ เพื่อจะเล่นนอกห้องเรียนด้วย

82

ด้านสมาคมสินค้าของเล่นและเด็กของจีนเผยว่า ตลาดของเล่นในจีนเติบโตขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2017 และคาดว่าตลาดจะเพิ่มมูลค่าขึ้นจาก 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปเป็น 8 หมื่น 5 พันล้านเหรียญภายในปี 2020 เลโก้ที่อเมริกาและยุโรปเริ่มเติบโตได้น้อยลง

จากผลกระทบหลายๆ อย่าง เลโก้จึงปรับแผนและเบนเข็มมารุกตลาดในกลุ่ม “เอเชีย-แปซิฟิก” มากขึ้น ด้วยในกลุ่มประเทศเหล่านี้เลโก้ยังเข้าถึงเด็กได้น้อยกว่าตลาดหลัก ที่สำคัญในอนาคตเด็กกว่า “ครึ่งโลก” จะอยู่ที่นี่

81

ด้าน นีลส์ บี. คริสเตียนเซน ประธานบริษัทเลโก้ อธิบายถึงหลัก 3 ประการของกลยุทธ์ธุรกิจของเลโก้หลังจากนี้ ว่า จะมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อ “เปิดตลาดใหม่ พัฒนาสินค้า และขยายตลาดในประเทศจีน”

โดยประเทศจีนจะถือเป็นผู้รองรับการลงทุนรายสำคัญของเลโก้ และเลโก้คาดว่าจะมีร้านค้าเลโก้มากกว่า 140 แห่งในเมือง 35 เมืองทั่วประเทศจีนภายในสิ้นปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายในประเทศจีนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจากจำนวนเงินลงทุนที่สูงนั้น ทำให้กำไรสุทธิของเลโก้ลดน้อยลง แม้จะมียอดขายเพิ่มขึ้นก็ตาม

80

สำหรับ กำไรสุทธิของเลโก้ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2019 อยู่ที่ 2.67 พันล้านโครน (ราว 1 หมื่นล้านบาท) ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 12 เป็นผลมาจากกลยุทธ์การลงทุนเป็นหลัก

ทั้งนี้ บริษัทเลโก้ ได้เล็งเห็นโอกาสมหาศาลในตลาดจีน และทุ่มเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง เล็งเปิดสาขาเพิ่มทั่วโลก 160 แห่งภายในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้เลโก้มีสาขารวมทั้งหมดทั่วโลก 600 แห่งภายในสิ้นปี 2562

จะเห็นได้ว่า ธุรกิจถ้าหากรู้จักปรับตัว และมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ ก็จะอยู่รอด แต่ถ้าหากไม่ปรับตัว ก็รอวันเจ๊ง!!


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

อ้างอิงข้อมูล
https://bit.ly/2kgxrCL

แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/2TXgZIQ

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช