การปลูกมะละกอ

เมืองไทยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ผลไม้มีอย่างหลากหลายด้วยภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยให้สามารถทำ สวนผลไม้ ได้เป็นอย่างดีทั้งในภาคตะวันออก ภาคใต้ รวมถึงภาคเหนือ การลงทุนในธุรกิจการทำสวนผลไม้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่าจะเลือกปลูกผลไม้ชนิดไหนที่จะทำรายได้เป็นอย่างดีกันตลอดทั้งปี

ในจำนวนผลไม้ที่มีให้เลือกปลูกมากมายนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่า “มะละกอ” ถือเป็นพืชที่น่าสนใจมากเนื่องจากมะละกอ เป็นพืชที่สามารถออกดอกติดผลได้ตลอดปีผลผลิตออกสู้ตลาดมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม และมกราคม – มิถุนายน

การปลูกมะละกอส่วนใหญ่ยังเป็นการปลูกเพื่อนบริโภคภายในประเทศถึงร้อยละ 80 ของผลิตที่ได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะส่งออกไปขายยังต่างประเทศามารถทำรายได้นำเงินตราเข้าสู่ประเทศเฉลี่ยปีละประมาณ 60 – 70 ล้านบาทเลยทีเดียว

สวนผลไม้

ภาพจาก bit.ly/2GRlzlx

สายพันธุ์มะละกอ

พันธุ์มะละกอที่นิยมปลูกส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่มีการพัฒนา และผสมข้ามสายพันธุ์ จนได้ลักษณะเด่นตามต้องการ อาทิ พันธุ์พื้นเมือง, พันธุ์ปากช่อง 1, พันธุ์ท่าพระ 50, พันธุ์โกโก้, พันธุ์แขกดำ, พันธุ์แขกนวล, พันธุ์สายน้ำผึ้ง และพันธุ์โซโล

เริ่มต้นการปลูกมะละกอ

  1. นำเมล็ดพันธุ์มะละกอมาห่อด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำให้เปียก ห่อทิ้งไว้ในที่ร่ม ประมาณ 1 อาทิตย์ จนเริ่มมีรากงอก
  2. นำเมล็ดที่มีรากงอกแล้ว แยกใส่ถุงดำสำหรับเพาะเมล็ดถุงละ 4-5 เมล็ด รดน้ำทุกวันให้สม่ำเสมอ 3-4 วัน ต้นอ่อนก็จะงอก รดน้ำต่อไปอีกประมาณ 20 วัน ก็พร้อมที่จะนำลงแปลงปลูก
  3. เตรียมแปลงปลูกมะละกอ ควรมีระยะห่างระหว่างต้นและแถวประมาณ 2.5 x 2.5 เมตร ขุดหลุมสำหรับปลูกขนาด 50 x 50 x 50 เซนติเมตร โรยก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 และปูนภูไมท์ คลุกส่วนผสมทั้งสามชนิดให้เข้ากันในหลุม ก่อนนำต้นมะละกอที่เพาะไว้ลงปลูก
  4. หลังจากปลูกต้นมะละกอแล้ว ให้รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ทุกวันจนครบ 1 อาทิตย์ จากนั้นจึงเปลี่ยนมารดน้ำวันเว้นวันทุก 15 วัน และใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 เมื่อมะละกออายุได้ 2 เดือน มะละกอจะเริ่มออกดอก ผู้ปลูกต้องตัดต้นมะละกอที่สมบูรณ์ไว้ โดยคัดจากดอกที่ออกมา ถ้าดอกออกมามีลักษณะเป็นก้านยาวห้อยลงมา นั่นคือดอกตัวผู้ แต่ถ้าดอกมีลักษณะยาวเรียกว่า ดอกกระเทยหรือดอกสมบูรณ์เพศ ออกตามง่ามใบมีดอกในก้านเดียวกัน ถ้าเป็นดอกเดี่ยวหรือช่อสั้น ๆ เรียกว่าดอกตัวเมียการเลือกต้นมะละกอให้เลือกต้นกระเทยไว้ก่อน ให้เหลือเพียงต้นเดียวในหลุมที่ปลูก หากไม่มีต้นกระเทยให้เลือกต้นตัวเมีย ส่วนต้นตัวผู้ให้ตัดทิ้งให้หมดและใส่ปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงต้น รดน้ำวันเว้นวัน โดยสังเกตจากสภาพดิน หากดินแห้งมากต้องรดน้ำทุกวัน ในระหว่างนี้ทุก 1 เดือน ต้องใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 เดือนละครั้ง นับตั้งแต่ออกดอก จนย่างเข้าเดือนที่ 3 ให้เปลี่ยนมาใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 เมื่อครบ 5 เดือนผลก็จะเริ่มสุก พร้อมที่จะเก็บขายได้

mm43

ภาพจาก bit.ly/2GRlzlx

ข้อแนะนำที่สำคัญ

  1. การปลูกมะละกอต้องใช้น้ำ และต้องจำกัดเนื้อที่ปลูกเพื่อไม่ให้ผลผลิตออกมาล้นตลาด
  2. ด้านการตลาดควรติดต่อแหล่งรับซื้อที่เป็นขาประจำรับไป
  3. พันธุ์มะละกอที่ควรปลูก ควรเลือกพันธุ์แขกดำ แขกนวลและแก้มแหม่ม

ราคามะละกอในปัจจุบัน

  1. มะละกอฮอลแลนด์ คือพันธุ์ที่เป็นที่ดึงดูดและน่าลงทุนที่สุด เพราะเป็นพันธุ์มะละกอกินสุกที่นิยมที่สุดและใช้เครื่องพ่นยาน้อยที่สุด ตลาดกว้างขวาง แม่ค้ารับซื้อเยอะที่สุด ส่วนที่ตกเกรดหรือเป็นโรคก็ยังทำการค้าเข้าโรงงานได้ ราคามะละกอจะยืนพื้นจากสวน 8-10 บาท/กก. ราคาขายส่งอยู่ที่ 15-20 บาท/กก.
  2. มะละกอแขกนวล ถือป็นมะละกอกินดิบที่ครองตลาด เพราะเป็นมะละกอที่เนื้อกรอบ อร่อย แม่ค้าส้มตำชอบ อีกทั้งยังเป็นมะกอที่ติดดก ผลใหญ่ มะละกอกินดิบมีจุดเด่นตรงที่เก็บเกี่ยวเร็ว 5 เดือนก็เก็บขายได้แล้ว จากนั้นจะเก็บกันทุก 15-20 วัน เก็บเสร็จแพ็คใส่ถุงพลาสติกถุงละ 10 กก. ราคาจะอยู่ที่ 4-5 บาท/กก.

mm40

ภาพจาก bit.ly/2GRlzlx

เงินลงทุนเบื้องต้น

ประมาณ 15,000 บาท/ไร่ (ไม่รวมค่าที่ดิน) ค่าต้นพันธุ์มะละกอถุงละ 3 บาท ค่าใช้จ่ายในการเตรียมดิน 200 บาท/ไร่ ค่าปุ๋ยประมาณ 4,000-6,000 บาท ค่าอุปกรณ์ใช้น้ำแบบสปริงเกิ้ล ไร่ละ 12,000 บาท

รายได้: ประมาณ 19,000 – 50,000 บาท/ไร่

สถานที่ให้คำปรึกษา

  1. กองส่งเสริมพืชไร่ กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 02 – 561-4879
  2. สำนักงานเกษตรจังหวัดและอำเภอ

mm44

ภาพจาก bit.ly/2GRlzlx

แม้ว่ามะละกอจะดูเหมือนเป็นผลไม้ที่มีความบอบบางอายุการเก็บรักษาสั้นเมื่อมีผลผลิตก็ต้องเร่งระบายออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็วทั้งนี้ผู้ปลูกควรศึกษาแหล่งตลาดและหาที่รองรับสินค้าได้ก่อนในเบื้องต้นถ้าจัดการเรื่องตลาดได้ดีอาชีพการปลูกมะละกอจะเป็นช่องทางทำกินที่สร้างรายได้อย่างงดงามและน่าพอใจอย่างมาก

และสำหรับใครสนใจอยากเข้าคอร์สเรียนสร้างอาชีพอื่นๆ น่าสนใจ มีให้เลือกหลากหลาย ดูรายละเอียดการอบรมเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/EiCWfl หรือ Add LINE id : @thaiseminar

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2ZrZUqw

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด