การปลูกกล้วยไข่

กล้วยไข่ เป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญที่นิยมรับประทาน และส่งออกต่างประเทศ เนื่องจาก ให้เนื้อแน่น นุ่มหวาน เปลือกบาง และมีกลิ่นหอม ซึ่งถือว่าเป็นกล้วยที่นิยมรับประทาน และปลูกมากเป็นอันดับแรกๆเหมือนกับกล้วยน้ำว้า และกล้วยหอม

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่านอกจากกล้วยไข่จะเป็นไม้ผลที่คนนิยมบริโภคกันอย่างต่อเนื่องแล้วราคาจำหน่ายยังน่าสนใจมากอีกด้วยโดยราคาอ้างอิงจากตลาดกลางเกษตรนั้นพบว่ากล้วยไข่มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่หวีละ 40-50 บาทก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่การปลูกและลักษณะของกล้วยไข่ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีเป็นอย่างยิ่งทีเดียว

กล้วยไข่

ภาพจาก https://goo.gl/VYxG19

เริ่มต้นการปลูกกล้วยไข่

1.เตรียมดิน โดยใช้รถไถผาน 7 ไถ ทำลายหญ้า ทิ้งไว้ 10 วัน ครั้งที่ 2 ใช้รถไถผาน 3 ไถ เพื่อปรับหน้าดินให้พร้อมปลูก ทิ้งไว้อีก 10 วัน

2.เพื่อให้แสงแดดฆ่าเชื้อโรคในดิน ในช่วงการไถ ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก คลุกเคล้าลงไปในดินพร้อมกัน

3.เตรียมหน่อกล้วยสำหรับปลูกหน่อที่ดีให้ผลผลิตสูงจะต้องเป็นหน่อ “หูกวาง” ที่มีความสูง 50 เซนติเมตร มีใบ 2 – 3 ใบ ใบจะแคบยังไม่คลี่ออกเต็มที่คล้ายกับหูกวาง

ก่อนปลูกให้ใช้ยาฟูราดาน 3 ช้อนแกง ปุ๋ยเกล็ด 2 ช้อนแกง ยาเร่งราก 1 ช้อนแกง ผสมน้ำ 50 ลิตร ละลายให้เข้ากัน แล้วเอาหน่อกล้วยจุ่มลงไปก่อนนำไปปลูก

4.ปลูกกล้วย โดยพูนดินขึ้นมากลบโคนต้น 1 คืบ หรือขุดหลุมปลูกกว้างและลึก 1 ศอก ระยะปลูก 1 x 1 วา พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 400 ต้น จากนั้นรดน้ำ 5 วัน/ครั้ง ประมาณ 1 เดือน จะเริ่มแตกยอดอ่อน ซึ่งยาฟูราดานจะเริ่มหมดฤทธิ์พอดี

5.การใส่ปุ๋ย ครั้งแรกเมื่อกล้วยอายุ 15 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46 – 0 – 0 อัตราครึ่งกำมือ/ต้น ครั้งที่ 2 เมื่อกล้วยอายุ 1 เดือน ใส่สูตร 15-15-15 อัตรา 1 กำมือ/ต้น ครั้งที่ 3 และ 4 ใส่ปุ๋ยสูตรเดียวกันและอัตราเท่ากัน ระยะห่างครั้งละ 1 เดือน ครั้งที่ 5 และ 6

เปลี่ยนเป็นสูตร 20-0-0 ผสมกับสูตร 15-15-15 ในอัตราส่วนเท่ากัน ใส่ 1 กำมือ/ต้น ห่างกันอีกครั้งละ 1เดือน เมื่อกล้วยไข่อายุ 7 เดือนครึ่ง จะเริ่มออกปลี ช่วงนี้จะใช้ปุ๋ยเกล็ดสูตร 15 – 3 – 15 อัตรา 2 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดเข้าไปบริเวณก้านของปลี เพื่อให้ปุ๋ยเข้าไปตามกาบกล้วย

6.ระยะที่กล้วยเริ่มเจริญเติบโต จะเริ่มมีหน่อแทงออกมา ต้องใช้มีดตัดเพื่อไม่ให้แย่งอาหารจากต้นแม่ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง และตัดแต่งใบกล้วยเหลือไว้ 10 ใบต่อต้น เมื่อหัวปลีออกมาได้ 10 วัน

ให้ตัดหัวปลีออก จากนั้นอีก 45 – 50 วัน กล้วยจะเริ่มแก่จึงตัดเครือลงมาเพื่อขายส่งให้ลูกค้า ซึ่งโดยทั่วไปจะมีลูกค้ามารับซื้อถึงที่แล้วนำไปตัดขายเป็นหวีต่อไป

7.การปลูกกล้วยไข่ 1 ครั้ง เก็บผลผลิตได้ประมาณ 3 ปี กล้วยปีที่ 2 ผลผลิตจะดีที่สุด ดังนั้นจึงควรใช้หน่อกล้วยที่อายุไล่เลี่ยกัน กันไว้กอละ 1 หน่อ การดูแลรักษาก็จะเหมือนกันทั้งหมด แต่การใส่ปุ๋ยจะน้อยลงกว่าปีแรก

ee23

ภาพจาก https://goo.gl/dpV9ET

การเก็บเกี่ยวผลผลิต

กล้วยสามารถตกปลีได้หลังการปลูก 7-9 เดือน หรืออาจช้าหากต้นไม่สมบูรณ์ ระยะแทงปลีจนถึงเครือห้อยตัวลงต่ำสุดใช้เวลาประมาณ 7 วัน หลังจากนั้น ปลีจะบาน และใช้เวลาบานทั้งหมดประมาณ 7 วัน

ซึ่งเมื่อดอกบานหมดแล้ว 2-3 วัน ค่อยตัดปลีออก หรือ ให้สังเกตุว่า เมื่อเห็นหวีที่มีลักษณะผลไม่เท่ากัน มีผลเล็กบ้าง และติดผลน้อยจึงให้ตัดปลีได้ โดยตัดในตำแหน่งของหวีลักษณะนี้ออกการเก็บเกี่ยว อายุการเก็บเกี่ยวกล้วยไข่ใช้เวลาประมาณ 60 วัน นับจากแทงปลีหรือ 45 -55 วัน หลังการตัดปลี

สำหรับกล้วยไข่ที่ต้องการส่งออกให้ตัดเครือก่อนการตัดเพื่อจำหน่ายในประเทศหรือการตัดปกติ 2-3 วัน เพราะหากปล่่อยให้ปลีบานต่อเนื่องอีกหรือปล่อยจนปลีแห้งจะทำให้ผลในหวีต้นเครือใหญ่ช้า และผลในหวีจะไม่สม่ำเสมอ

ee22

ภาพจาก https://goo.gl/1hdc8A

ข้อแนะนำสำหรับเกษตรกร

เพื่อเป็นการประหยัด และลดต้นทุน ควรจะผลิตปุ๋ยชีวภาพแทนการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้มะม่วงสุก หอยเชอรี่ หญ้าขนและกากน้ำตาลหรือโมลาส (วัตถุดิบต่าง ๆ เหล่านี้ควรซื้อในช่วงราคาถูก) หมักไว้ 3 เดือน แล้วกรองเอากากออก นำน้ำปุ๋ยที่ได้ 3 ช้อนแกง ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 10 – 15 วัน

เงินลงทุนเบื้องต้น : ครั้งแรกประมาณ 9,000 บาท/ไร่ (ไม่รวมค่าที่ดิน) (ค่าจ้างไถ 2 ครั้ง 1,000 บาท/ไร่ ค่าแรง 1,000 บาท/ไร่ ค่าปุ๋ย 5,000 บาท/ไร่ หน่อกล้วย 3-3.50 บาท/ต้น)

รายได้ที่น่าสนใจ: ประมาณ 70,000 บาท/ไร่/ปี

ตลาด/แหล่งจำหน่าย: ขายส่งพ่อค้า แม่ค้า บริษัทที่ส่งขายต่างประเทศ โรงงานแปรรูป

จากแนวทางการปลูกเบื้องต้นนี่ก็พอจะทำให้เรามองเห็นช่องทางที่น่าสนใจ สุดท้ายก็อยู่ที่ความตั้งใจเป็นหลักเพราะอาชีพนี้แม้จะรายได้ดีแต่เกษตรกรก็ต้องมีความตั้งใจที่จะปลูกและดูแลเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี ถ้าทุนพร้อม ที่พร้อม ใจพร้อม งานนี้ก็ลงมือได้ทันที รับรองว่ากล้วยไข่พร้อมทำกำไรดีๆให้กับคุณได้แน่นอน

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2FnupGI

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด