กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย เพียงแค่รู้ใจลูกค้า 5 กลุ่ม

กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย เพียงแค่รู้ใจลูกค้า 5 กลุ่ม  ยุคปัจจุบันเชื่อว่าเจ้าของธุรกิจ นักการตลาด รวมถึงผู้ค้าแม่ค้าหลายๆ คน คงปวดหัวเกี่ยวกับการขายสินค้าและบริการได้ยาก เพราะพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป ดังนั้น การทำความรู้จัก ละสร้างความเข้าใจในตัวผู้บริโภคจึงเป็นเรื่องสำคัญ

หากเจ้าของธุรกิจอยากขายสินค้าและบริการได้ จะต้องเข้าถึงและทำความเข้าใจในกลุ่มลูกค้าทุกๆ ประเภทเสียก่อน                      วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ก็เลยนำเสนอวิธีการ หรือกลยุทธ์เพิ่มยอดขาย จากการเรียนรู้ ลงลึกพฤติกรรม ทัศนคติ และกลุ่มสังคมของลูกค้า เพื่อที่จะได้นำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดครับ

1. Innovators

กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย

คือ กลุ่มแรกสุดที่จะรับนวัตกรรม ซึ่งจะว่าไปแล้ว กลุ่มนี้ก็คือ “พวกนวัตกรรม” ผู้ชอบใช้เวลากับการคิดค้น การสร้างสิ่งใหม่ๆ นั่นเอง คนกลุ่มนี้จะมีแนวคิดดีๆ ใหม่ๆ จำนวนมาก ดังนั้น เจ้าของธุรกิจ ฝ่ายขาย จำเป็นต้องเข้าไปคลุกคลีกับคนกลุ่มนี้ ให้พวกเขาได้ทดลองนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมาใหม่ๆ หรืออาจจะให้พวกเขาได้สร้างนวัตกรรมร่วมกันกับองค์กรก็ได้

2. Early Adopters

109

คือ กลุ่มคนที่มีความเป็นผู้นำในสังคม มีกำลังซื้อสูง ลูกค้ากลุ่มนี้จะเลือกซื้อ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใหม่ๆ ก่อนคนอื่นเสมอ ดังนั้น นวัตกรรมหรือสินค้าใหม่ๆ จึงเหมาะที่จะให้คนกลุ่มนี้ได้ลองใช้ ได้ลองสัมผัส หากผลลัพธ์ออกมาดี เจ้าของธุรกิจ หรือฝ่ายขาย ก็สามารถใช้คนกลุ่มนี้ในการอ้างอิง ก่อนนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้าคนอื่นๆ ได้

3. Early Majority

110

กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ตามสังคมส่วนใหญ่ สังคมใช้อะไรก็จะถือว่ามีการพิสูจน์ผลมาแล้ว ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะใช้ตาม โดยจะมุ่งเน้นไปที่สินค้าราคาถูก ไม่มีความเสี่ยงในการใช้ เน้นการใช้งานที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก
วิธีการขายให้กับกลุ่มนี้ คือ ให้ขนาดทดลอง นำไปลองใช้ที่บ้าน (หวังผลให้มีประสบการณ์ที่ดีและบอกต่อ) ใช้การโฆษณาในภาพใหญ่ มีแผนกของการสนับสนุน ดูแลลูกค้า Customer Services เพื่อช่วยรับรองว่าปัญหาจะถูกแก้ไข

4. Late Majority

111

กลุ่มนี้คล้ายกับกลุ่ม Early Majority เพียงแต่ลูกค้ากลุ่มนี้จะมีความรู้สึกกังวล กลัวการใช้งานมากกว่า อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกลุ่ม “อนุรักษ์นิยม” Conservative ก็ได้ และมีการรับอิทธิพลจากความคิดของกลุ่มสุดท้าย คือ Laggards
ดังนั้น นักการตลาดและฝ่ายขาย ต้องมุ่งที่จะใช้ “การสื่อสาร” ในเรื่องความน่าใช้นวัตกรรมเป็นหลัก อาจจะใช้ “กลุ่มอนุรักษ์นิยม” ที่มีความรู้สึกดีกับนวัตกรรม เป็น “ตัวสื่อสาร”

5. Laggards

112

กลุ่มสุดท้ายนี้ เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ยอมเสี่ยงกับเรื่องใหม่ๆ ไม่ยอมใช้สินค้าใหม่ คิดว่าสินค้าที่ใช้หรือสิ่งเดิมนั้นดีอยู่แล้ว เพียงพอแล้ว ดังนั้น ลูกค้ากลุ่มนี้จะยอมรับสินค้าและบริการใหม่ยากที่สุด องค์กร/นักการตลาดอาจไม่สนใจในนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ในช่วงแรกๆ จนกว่าจะมาถึงระยะที่ต้องโน้มน้าวกลุ่ม Late Majority จึงให้ความสนใจกลุ่มนี้

ทั้งหมดเป็นวิธีการทำความเข้าใจ และเข้าถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า 5 ประเภท เพื่อที่จะได้นำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เชื่อว่าการเรียนรู้และทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้า น่าจะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นให้กับเจ้าของธุรกิจ เจ้าของกิจการร้านค้า รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าทุกท่านนะครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ http://www.thaifranchisecenter.com/home.php
สนใจซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ชั้นนำ http://www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
หาทำเลค้าขายทั่วไทย http://www.thaifranchisecenter.com/market/index.php


SMEs Tip

  1. Innovators (ชอบลองและคิดค้นสิ่งใหม่ๆ)
  2. Early Adopters (ผู้นำสังคม มีกำลังซื้อสูง ชอบซื้อก่อนคนอื่น)
  3. Early Majority (ชอบตามคนอื่น คนอื่นใช้แล้วดีจึงซื้อใช้)
  4. Late Majority (กลุ่มหัวโบราณ กลัวการใช้สิ่งใหม่ๆ)
  5. Laggards (ไม่ยอมเสี่ยง ไม่ยอมใช้สินค้าใหม่ๆ คิดว่าของเดิมดีอยู่แล้ว)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช