กรณีศึกษา Ofo แอปไบค์แชร์ริ่งจีน มาแรงไปเร็ว!
เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จัก Ofo (โอโฟ่) เพราะเป็นผู้ให้บริการจักรยานสาธารณะแบบไร้สถานีอันดับ 1 ของโลก จากประเทศจีน แต่ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ในจีนกำลังจ่อล้มละลาย และปิดให้บริการไปแล้วด้วยในประเทศไทย
เรื่องน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะหาข้อมูลมานำเสนอให้ทราบกัน
Ofo เป็นแอปพลิเคชั่นบริการจักรยานสาธารณะไร้สถานีจอดเจ้าแรกและใหญ่ที่สุดของโลก จัดตั้งขึ้นในปี 2557 ที่นครปักกิ่ง ประเทศจีน ผู้ก่อตั้งคือ Dai Wei (ได เวย) มีจักรยานมากกว่า 10 ล้านคัน และผู้ใช้มากกว่า 200 ล้านคน ใน 20 ประเทศ
ที่ผ่านมา Ofo ถือเป็นผู้นำบริการจักรยานสาธารณะแบบไร้สถานีอันดับหนึ่งของโลก ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเปิดให้บริการครอบคลุมกว่า 170 เมืองทั่วโลก เช่น ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ไทย มาเลเซีย ออสเตรเลีย คาซัคสถาน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ด้วยจำนวนจักรยานมากกว่า 10 ล้านคัน โดยมีการใช้บริการสูงกว่า 25 ล้านครั้งต่อวัน
สำหรับประเทศไทยได้เปิดให้บริการในจังหวัดภูเก็ตเป็นที่แรก แล้วขยายให้บริการตามสถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น ก่อนที่จะเริ่มมีการทยอยเก็บจักรยานออกจากพื้นที่ในวันที่ 31 สิงหาคมแล้วในจังหวัดภูเก็ต
ล่าสุดก็มีรายงานข่าว่า วิกฤตของ Ofo กำลังเกิดขึ้น เพราะเห็นได้จากมีการรวมตัวของผู้ใช้บริการมากกว่า 2,000 คน หน้าสำนักงานใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อเช้าวันอังคารที่ 18 ธันวาคม 2561 เพื่อขอความชัดเจนว่าจะได้รับเงินคืนเมื่อไร ปัญหาทั้งหมดนี้เกิดขึ้น เพราะผู้ใช้ไม่เชื่อมั่นใน Ofo ซึ่งมีการปิดสำนักงานในหลายจังหวัดของจีนมาแล้ว
หาก Ofo ล้มละลายจริง จะถือเป็นการล้มครั้งใหญ่ เพราะ Ofo เป็นบริการที่มีผู้ใช้มากกว่า 200 ล้านคนในจีน (สถิติเดือนพฤศจิกายน 2561) หมายความว่า เงินฝากที่ Ofo ดูแลอยู่ อาจมีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านหยวน หรือประมาณ 94,885 ล้านบาท
ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเพราะผู้ใช้บริการ Ofo หลายรายไม่ได้รับเงินคืนตามที่ทำเรื่องไปนานกว่า 2 เดือน เงินเหล่านี้เป็นเงินมัดจำสำหรับบริการที่ Ofo ระบุว่า สามารถขอคืนได้ แต่ผู้ใช้ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของ Ofo ได้เลย อีกทั้งยังมีข่าวรายงานว่า มีพนักงานของ Ofo ก่อเหตุพิพาทกับลูกค้าที่ใช้บริการอีกด้วย
โดยค่าบริการปกติของจักรยาน Ofo จะคิดราคา 5 บาทต่อการใช้ 30 นาที โดยมีค่ามัดจำ 99 บาท โดยสามารถชำระเงินผ่านทางแอปพลิเคชั่นได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
สถิติเบื้องต้นพบว่า ระบบการคืนเงินของแอป Ofo ได้รับคำขอคืนเงินจากผู้ใช้กว่า 10 ล้านราย ทั้งหมดรอการคืนเงินรวมกันอย่างน้อย 920 ล้านหยวน (ราว 4,364 ล้านบาท)
เราจะเห็นได้ว่า ตลาดแชร์รถจักรยานในจีน ถือเป็นแหล่งละลายงบประมาณหลายร้อยล้านหยวน เพื่อการแข่งขันแย่งทำศึกชิงพื้นที่ครองเมืองสำคัญๆ โดยเมื่อสิงหาคม 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานว่า
บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง ดีดี้ (Didi Chuxing) และแอนท์ไฟแนนเชียล (Ant Financial) ของอาลีบาบา กำลังเจรจากับ Ofo เพื่อซื้อกิจการ หรือร่วมทุนกัน จุดนี้สื่อเชื่อว่า มูลค่าดีลอาจเริ่มต้นสูงถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทีเดียว
ทั้งนี้ การให้บริการจักรยานของ Ofo ในประเทศไทย ต้องพบกับปัญหาหลักคือ ผู้ใช้ไม่มีวินัยในการใช้จักรยานสาธารณะ โดยมักนำออกนอกพื้นที่ให้บริการอยู่เสมอ
แม้ว่าที่ผ่านมา ธุรกิจไบค์แชร์ริ่ง (Bike Sharing) ที่กำลังเติบโตได้ดีในต่างประเทศ ได้บุกตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง เปิดจุดให้บริการไบค์แชร์ริ่งในบริเวณหัวเมืองใหญ่ ในมหาวิทยาลัยชั้นนำนอกเมือง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนให้หันมาใช้จักรยานเพิ่มมากขึ้น ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงาน
แต่นั่นดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะสภาพอากาศที่ร้อน การจราจรแออัด เส้นทางสำหรับจักรยานที่มีพื้นที่จำกัด ส่งผลให้บริการไบค์แชร์ริ่งในไทยไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร หรืออาจเป็นเพราะพฤติกรรมของลูกค้าคนไทย ไม่มีระเบียบเรื่องการใช้บริการ
แต่สำหรับในประเทศจีนนั้น ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ Ofo ต้องกำลังจะยื่นล้มละลาย อาจเป็นเพราะมีการทุจริตภายในของเจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้บริหาร หรืออาจเป็นเพราะการขาดสภาพคล่องทางการเงิน จนไม่สามารถคืนเงินมัดจำการใช้บริการให้แก่ลูกค้าได้ จนในที่สุดลูกค้าไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่มั่นใจในธุรกิจ Ofo อีกต่อไป จึงไม่ใช้บริการ ธุรกิจจึงต้องล้มครืนในพริบตา
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ goo.gl/hKJ1gH
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน goo.gl/oP5yYZ
อ้างอิงข้อมูล
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3x6cv1g
