อพยพจากเมืองจีนมาขายปลา สร้างตำนาน “ทิพรส” น้ำปลาหยดแรกของไทย รายได้กว่า 3 พันล้านบาท

หากเอ่ยชื่อน้ำปลาเกรดพรีเมียมและได้รับความนิยมในเมืองไทย หนึ่งในนั้นที่หลายคนน่าจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ น้ำปลาทิพรส ซึ่งปัจจุบันถือเป็นผู้เล่นอันดับ 1 ในตลาดน้ำปลาเมืองไทย เรื่องราวและความน่าสนใจของ “น้ำปลาทิพรส” เป็นอย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบ

จุดเริ่มต้นทิพรส

ทิพรส

ภาพจาก https://bit.ly/3tHo52k

ย้อนกลับไปเมื่อ 100 กว่าปีก่อน คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักน้ำปลา เวลาจะปรุงอาหารจะนิยมใช้เกลือ แต่ตอนนั้นได้มีชาวจีนคนหนึ่งชื่อ “ไล่เจี๊ยง แซ่ทั้ง” ได้อพยพจากเมืองจีนหิ้วเสื่อผืนหมอนใบข้ามน้ำข้ามทะเล มาตั้งรกรากถิ่นฐานอาศัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มาทำงานโรงสีข้าว แต่ทำได้ไม่นานก็ลาออก เพราะเป็นงานที่หนักมาก ไม่มีเครื่องจักร ใช้แรงงานคนล้วนๆ หลังจากนั้นได้หันไปขายปลาเค็มและปลาสดบริเวณย่านสะพานท่าน้ำฮกเกี้ยน จังหวัดชลบุรี

พอเขาขายปลาไปได้สักพัก เริ่มสังเกตเห็นว่าในเมืองไทยตอนนั้นยังไม่มีใครทำน้ำปลาออกมาขาย คุณไล่เจี๊ยงเริ่มมองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้ ที่สำคัญเขารู้วิธีการทำน้ำปลามาก่อนในสมัยที่อยู่ประเทศจีน จุดเริ่มต้นของเขาก็คือ เอาปลาสดที่เหลือจากการขายมาทำการหมักกับเกลือในโอ่งดินและโอ่งไม้ ลองผิดลองถูก พัฒนารสชาติเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 2456 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของน้ำปลาหยดแรกของประเทศไทยในชื่อ “โบแดง” ก่อนจะมาเป็น “ทิพรส” ในปัจจุบัน

23

ภาพจาก https://bit.ly/3werxVp

ในช่วงเริ่มต้นนั้น ธุรกิจที่คุณไล่เจี๊ยงวาดฝันเอาไว้ไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบที่หลายคนคิด ผู้บริโภคยังไม่เปิดใจให้การยอมรับ เพราะเป็นของแปลกสำหรับคนไทยในตอนนั้น เขาจึงต้องใช้ระยะเวลาโปรโมทสินค้าเป็นเวลาหลายปี

กลยุทธ์การตลาดของคุณไล่เจี๊ยง ก็คือ การแจกจ่ายให้กับคนพื้นที่ใกล้เคียงได้ทดลองชิม และพัฒนาสูตรน้ำปลาใหม่ๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้รสชาติถูกปากคนไทยมากที่สุด จนสุดท้ายเขาก็ค้นพบว่า “ปลากระตัก” เหมาะสำหรับทำน้ำปลามากที่สุดรสชาติหอมอร่อย เป็นวัตถุดิบที่หาได้ไม่ยาก และกลายเป็นของดีของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

22

ภาพจาก https://bit.ly/3I4BFSP

เมื่อกิจการน้ำปลาของคุณไล่เจี๊ยงขายดีและเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่คุณไล่เจี๊ยงใช้โอ่งหมักน้ำปลา ได้เปลี่ยนมาเป็นการตั้งโรงงานผลิตน้ำปลาขึ้นในปี พ.ศ. 2462 บนพื้นที่ 15 ไร่ ปัจจุบันบริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด อยู่ภายใต้การบริหารงานของทายาทรุ่นที่ 2 คือ คุณจิตติ พงศ์ไพโรจน์ ซึ่งเริ่มเข้ามาบริหารกิจการต่อจากคุณไล่เจี๊ยงตั้งแต่อายุ 22 ปี

ภายใต้การบริหารของคุณจิตติ เขาก็ได้นำเทคโนโลยีและเครื่องจักรต่างๆ เข้ามาช่วยในการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำปลา มีการตั้งโรงงานผลิตน้ำปลาแห่งที่ 2 บนเนื้อที่ 20 กว่าไร่ ในจังหวัดชลบุรีและโรงงานแห่งที่ 3 บนเนื้อที่ 100 กว่าไร่ ในจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการน้ำปลาที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้การดูแลของ บริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด “ตราทิพรส” ได้แก่ น้ำปลาแท้, น้ำส้มสายชู, ผงปรุงรส และซอสหอยนางรมชนิดผงตราทิพรส น้ำปลาตราโบว์แดง, น้ำปลาตราเด็กอ้วน และน้ำปลาตราเบอร์หนึ่ง

“ทิพรส” มีรายได้เท่าไหร่?

21

ภาพจาก https://bit.ly/3vWVHw0

จากการตรวจสอบผลการดำเนินธุรกิจของบริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด บนเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีดังนี้ บริษัทจดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 1 ก.ย. 2504, ทุนจดทะเบียน 120 ล้านบาท

  • ปี 61 รายได้ 2,892,906,554.69 บาท กำไร 222,545,493.80 บาท
  • ปี 62 รายได้ 2,977,433,485.76 บาท กำไร 295,305,748.47 บาท
  • ปี 63 รายได้ 3,031,261,378.45 บาท กำไร 495,759,574.35 บาท

นั่นคือเรื่องราวความเป็นมาของ “ทิพรส” น้ำปลาแท้รายแรกของเมืองไทย จากจุดเริ่มต้นมาจากคนจีน…ต่อยอดและพัฒนาคุณภาพที่กลายเป็นตำนานอันทรงคุณค่าในวันนี้


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ข้อมูลจาก https://bit.ly/3hWW4OW , https://bit.ly/34BKYMm

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3q5O2b1

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช