รวมสุดยอดวิธีการเป็น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ในยุค 4.0

สมัยนี้ใครๆก็อยากเป็นพ่อค้าแม่ค้าโดยเฉพาะเมื่อ การสื่อสารออนไลน์ นั้นทำได้ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ทำให้พนักงานประจำ นักศึกษา คนว่างงาน หรือใครก็ตามแต่มีสินค้าสักชิ้นก็คิดว่าการโพสต์ขายในโลกออนไลน์เป็นอะไรที่ไม่ต้องลงทุน

แต่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ แต่ถ้าคิดจะเอาดีทางด้านการเป็น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ก็ควรจะศึกษาวิธีการขายที่ถูกต้องของแต่ละช่องทางเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมเอา 2 ช่องทางใหญ่ของการค้าขายในโลกออนไลน์อย่าง Facebook และ Instagram มานำเสนออีกทั้งยังมีรายชื่อ 6 เว็บไซต์โพสต์ขายของฟรีมาฝากทุกท่านด้วย ใครที่อยากเลือกช่องทางการขายแบบไหนก็เลือกกันได้ตามความเหมาะสม

Facebook

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์

ภาพจาก goo.gl/ytz7Yv

การขายของออนไลน์บน Facebook นิยมทำกัน เพราะใช้ต้นทุนต่ำ และเริ่มต้นได้ง่ายที่สุดจากสถิติจากจากสำรวจผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตประเทศไทยใน ปี 2016 มีผู้ใช้งานที่ “ขายของออนไลน์” มากถึง 33.8% ใช้อินเตอร์เน็ตมากถึงวันละ 6.4 ชั่วโมง กิจกรรมที่คนไทยทำมากที่สุดบนอินเตอร์เน็ต

คือ เล่น Social Media 96.1% ดู Youtube 88.1% ค้นหาข้อมูล 79.7% อ่าน Ebook 76.7% รับส่งอีเมล์ 75.8% ช้อปออนไลน์ 59.0% ดังนั้น สำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นทำการค้าบนออนไลน์ Facebook ก็เลยเป็นเครื่องมือยอดนิยมและแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากทำซึ่งเราก็มีวิธีการขายของออนไลน์บนเฟสบุ๊คอย่างได้ผลรวมมา 5 วิธีการด้วยกันคือ

1.เข้าใจหลักการทำงานของ facebook

การเรียนรู้และเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ Facebook.com ทำให้คุณสามารถเลือกสร้างเนื้อหาที่ Facebook ชอบและให้คะแนนมากที่สุด

เมื่อได้คะแนนมาก โพสต์ของคุณไม่ว่าจะเป็นในเพจ หรือโปรไฟล์ส่วนตัวจะถูกส่งไปยังหน้า Timeline ของคนที่กด Like หรือติดตามคุณอยู่ยิ่งมีคนเห็นมาก ในทางการตลาดเรียกว่า“การสร้างการรับรู้”

2.เลือกสินค้าที่จะมาโพสต์ขาย

การเลือกซื้อสินค้ามาขาย หรือการลงทุนผลิตสินค้านั้น ๆ จำเป็นจะต้องกำหนดงบประมาณก่อน เราจะสต็อกสินค้าไว้จำนวนเท่าไหร่ มีแผนในการระบายสินค้าอย่างไร หากสินค้าขายไม่ได้

จะมีวิธีการระบายสินค้าออกยังไง ทุกอย่างจะต้องมี timeline ที่ชัดเจน และพยายามควบคุมการระบายสินค้าให้เป็นไปตามเวลาที่เรากำหนด

3.เข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

ก่อนจะเริ่มต้นขายของเราต้องตอบให้ได้ก่อนว่าเราขายสินค้าให้กับใคร ขายของที่ตัวเองชอบ หรือลูกค้าชอบ กลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร เอาให้ชัด ๆ เพราะคนทุกคนไม่ใช่ลูกค้าเราต้อง

มองเห็นภาพบุคคลเหล่านั้นให้ออกจะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นอายุเท่าไหร่ เพศ การศึกษา ไลฟ์สไตล์ ที่น่าสนใจ เป็นต้น

4. เริ่มทำการตลาดให้สินค้าของคุณ

จากการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนนำมาสู่การทำตลาดที่ตรงเป้าหมาย สามารถนำเสนอเนื้อหาที่บ่งบอกว่าว่าลูกค้าจะได้รับอะไรจากการซื้อสินค้าของคุณ คุณสมบัติ สรรพคุณ ของสินค้ามีอะไรบ้าง สินค้าเหมาะกับใคร

และการทำตลาดในยุคปัจจุบัน สำคัญมากคือการใส่ความ creative ลงไป เพราะในยุคนี้การแข่งขันสูง มีหลากหลายแบรนด์เกิดขึ้น การสร้างความจดจำ ซึ่งก็มีหลายเทคนิคที่ใช้กันอย่าง Influencers หรือ review เป็นต้น

5.บริหารร้านค้า

สมัยนี้มีโทคโนโลยีตัวช่วยมากมาย ที่ช่วยให้เราบริหารร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้นทำงานได้ง่ายขึ้น เช่น การโอนเงินเราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปถึงธนาคารสามารถโอนผ่าน smartphone ได้ การสั่งสินค้า ดีลงานกับร้านค้าขายส่ง หรือแหล่งผลิตต่าง ๆ ก็สามารถคุยผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ได้ทั้งหมด ในเรื่องของการจัดส่งสินค้า

ถ้าคุณอยากจะหารายได้เสริมแต่เวลาคุณน้อยมากจริง ๆ การเป็นตัวแทนจำหน่ายก็เป็นอีกทางเลือกนึงในการหารายได้ มีร้านค้าออนไลน์หลาย ๆ ร้าน แจ้งลูกค้าตั้งแต่แรกเริ่มเลยว่า ส่งของทุกๆ จันทร์ พุธ ศุกร์ คุณก็อาจจะใช้วิธีเดียวกันนี้ก็ได้ เพื่อให้ตารางเวลาของคุณไม่แน่นจนเกินไป และมีการเตรียมทุกอย่างให้ลงตัวในแต่ละวัน

Instagram

bn9

ภาพจาก goo.gl/CS9MKk

อินสตาแกรม เป็นช็อปปิ้งมอลล์ที่ถูกใจทั้งวัยรุ่น และหนุ่มสาววัยทำงาน จุดเด่นของอินสตราแกรมคือการเน้นภาพที่สวยงามการจำหน่ายสินค้าผ่าน อินสตาแกรม

จึงค่อนข้างดึงดูดใจและได้ผลแต่ก็ใช่ว่าคนทุกคนจะประสบความสำเร็จกับการขายในอินสตราแกรมนี้ลองมาดู 9 วิธีขายของออนไลน์ในอินสตราแกรมให้ได้ผลเป็นเลิศมีอะไรบ้าง

1.เช็คความพร้อมให้ตัวเอง

อันดับแรกต้องใส่ข้อมูลพื้นฐานให้ครบถ้วนเสียก่อน แต่ความยาวที่กำหนดคือไม่เกิน 150 ตัวอักษรเท่าข้อความที่เราต้องบอกคือ เราเป็นใคร ขายอะไร ติดต่อได้ช่องทางไหน เบอร์โทร เว็บไซต์ วางแผนให้สั้นง่าย กระชับ ได้ใจความ

2.ภาพสินค้าต้องสุดเจ๋ง

เราควรถ่ายภาพสินค้าหลายๆมุม เพื่อสื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าและเข้าใจถึงการใช้งานในทันที จัดองค์ประกอบศิลป์ให้สะดุดตา ดึงดูด น่ามอง น่าซื้อ ไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์เยอะจนเกินไป

3.รายละเอียดอธิบายให้กระจ่าง

สิ่งสำคัญคือจุดเด่นของสินค้านั้นว่าคืออะไร ใช้ทำอะไร ขนาด รุ่น ราคา เพราะข้อมูลที่ไม่เพียงพอในบางครั้ง อาจทำให้ลูกค้าไม่เข้าใจ และไม่อยากซื้อสินค้าก็เป็นได้

4.สร้างแฮชแท็กให้กับคนสนใจได้ติดตาม

เป็นลูกเล่นสำคัญของ อินสตราแกรมที่กระจายไปสู่โซเชี่ยลอื่นๆด้วยเช่นกัน การสร้างแฮชแท็กนั้นอาจจะกลายเป็นไวรัลที่ทำให้คนสนใจสินค้าเราได้มากขึ้นหาก เป็นกระแสที่ดีพอนั้นก็หมายความว่าการตลาดปากต่อปากจะเกิดขึ้นทันที

5.ซื้อง่าย ขายคล่อง ช่องทางชำระสะดวก

มีร้านค้านักต่อนักแล้วที่เสียโอกาสไป ในเรื่องของการชำระเงินที่มีขั้นตอนยุ่งยาก หากเราสามารถให้ลูกค้าจ่ายผ่านออนไลน์ได้ทันที ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสการตัดสินใจซื้อได้ อีกทั้งสินค้าบางชนิดยังสามารถผ่อนชำระได้ ก็จะทำให้เพิ่มจำนวนลูกค้าได้อีกรูปแบบหนึ่

6.ความเชื่อมั่นช่วยได้

สร้างความมั่นใจต่อสาธารณะว่าเรามีตัวตนอยู่จริง อ้างอิงหรือรีวิวลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าของเรา หากเป็นคนมีชื่อเสียงด้วยจะยิ่งดีมาก รวมถึงระยะเวลาการเปิดให้บริการ เช่น เปิดมา 3 ปีแล้ว เป็นต้น

7.เพิ่มทั้งลูกค้า เพิ่มทั้งยอดขาย

โพสต์ภาพต่อเนื่องและเป็นประจำ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับลูกค้า จัดแคมเปญหรือกิจกรรมให้คนมาร่วมเล่น ถ่ายภาพแล้วแชร์ กระตุ้นผู้บริโภค ถือเป็นการโปรโมทให้คนรู้จักสินค้ามากขึ้นไปในตัว

8.ทีเด็ด Instagram อยู่ที่วีดีโอ

โดยเราสามารถเล่าเรื่องราวของสินค้าและบริการ ผ่านภาพเคลื่อนไหว 30 วินาที เช่น แนะนำวิธีการใช้ สัมภาษณ์ลูกค้าที่เคยใช้ หรือทำเป็นวีดีโอภาพแค็ทตาล็อก

9.ปิดการขายให้ไว

เมื่อลูกค้าสนใจหรือเข้ามาสอบถาม พยายามพูดคุยหรือติดต่อกลับในทันที เพราะร้านที่ตอบไวกว่าเรามีเยอะแยะมากมาย อย่าปล่อยให้พลาดเด็ดขาด

รวม 6 เว็บไซต์สำหรับคนต้องการลงขายของฟรี!

bb7

เป็นอีกช่องทางของการค้าออนไลน์ที่ใครหลายคนเลือกการนำสินค้าไปโพสต์ขายตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากเฟสบุ๊ค กับอินสตราแกรมที่เป็นสื่อออนไลน์ลำดับต้นๆ และต่อไปนี้คือ 6 เว็บไซต์ยอดฮิตที่คนมีสินค้านิยมเอาไปโพสต์ขายกัตแบบฟรีๆ

1. lnwshop.com

bb11

ภาพจาก lnwshop.com

นี่คือเว็บที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หน้าใหม่การเปิดร้านออนไลน์ใน lnwshop.com เราสามารถมีหน้าร้านออนไลน์สวยๆได้เพราะเขามีแพลตฟอร์มสำเร็จรูปให้เลือกกันมากมายวิธีการลงขายก็ไม่ยากใครๆก็ลองทำดูได้

2. weloveshopping.com

bb12

ภาพจาก weloveshopping.com

เว็บไซค์นี้เปิดร้านขายของออนไลน์แบบไม่มีค่าบริการรายเดือน และยังช่วยโปรโมทร้านให้เราขายดี เมื่อได้โพสต์ขายของที่ เว็บไซค์นี้ แถมเว็บนี้ยังช่วยแยกหมวดหมู่ร้านและสินค้าที่ขาย ทำให้เรามีโอกาสได้ลูกค้าที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นด้วย

3. kaidee.com

bb13

ภาพจาก kaidee.com

Kaidee เป็นแหล่งซื้อ-ขายของมือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีคนมากกว่า 6.92 ล้านคนเอาของไม่ใช้เอามาเปลี่ยนให้เป็นเงิน ด้วย 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ถ่ายรูป ใส่ข้อมูล กดปุ่มลงขายโดยไม่มีค่าบริการสนใจก็ลองดูได้

4. shopup.com

bb14

ภาพจาก shopup.com

ShopUp มีบริการเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ฟรี โดยไม่มีการจำกัดสินค้า เพื่อให้คนที่อยากมีร้านค้าออนไลน์สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายมากขึ้นแ และยังมีรูปแบบธีมเว็บไซค์แบบสำเร็จรูปให้ได้เลือกใช้มากกว่า 2,000 รูปแบบ การออกแบบที่เป็นสากล ทำให้เว็บไซต์ของเราน่าสนใจมากขึ้น

5. tarad.com

bb15

ภาพจาก tarad.com

เป็นเว็บขายของออนไลน์ที่อยู่มานานมาก มีประสบการณ์ที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ในแบบตัวเอง โดยการลงสินค้าในเว็บนี้ เว็บตลาดจะช่วยหาลูกค้าใหม่ๆให้ด้วย

6. pantipmarket.com

bb16

ภาพจาก pantipmarket.com

ใครเล่นพันทิปบ่อยๆ ต้องคุ้นกับ พันทิปมาร์เก็ต เว็บซื้อขายสินค้ามือหนึ่ง มือสอง ที่มีสินค้าขายออนไลน์มากกว่า 350,000 รายการ แถมยังมีหมวดหมู่ให้เราได้เลือกและช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง ที่สำคัญลงฟรีเช่นกัน

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเทคนิคและช่องทางการค้าออนไลน์ที่เราได้นำมาฝากกันแต่ถ้าต้องการศึกษารายละเอียดกันจริงๆ แล้วในบทความของเราเองก็มีหลากหลายหัวข้อสำหรับการอัพเดทวงการตลาดหรือเทคนิคการค้าขายแบบใหม่ๆที่เราคอยมานำเสนออย่างต่อเนื่องใครสนใจก็สามารถติดตามรายละเอียดกันได้

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด